25 พ.ย. 2021 เวลา 07:59 • ธุรกิจ
Speed Change : 8 ขั้นตอนสู่การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว และสัมฤทธิ์ผล
จากประสบการณ์การทำงาน ในฐานะผู้บริหารองค์กร ทั้งหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน รวมถึงการได้พบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ได้มีโอกาสมองเห็น การเปลี่ยนแปลงภายในขององค์กรต่างๆได้อย่างชัดเจน
ครั้งหนึ่งได้เป็นตัวแทนประเทศไทย ไปประชุมระดับภูมิภาคที่ประเทศเกาหลี มีโอกาสได้พูดคุยกับตัวแทนของประเทศต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจีน ญี่ปุ่น และประเทศในกลุ่ม ASEAN
ครั้งนั้น ด้วยความที่ได้รับเชิญเป็นวิทยากรร่วมเสวนาด้วย จึงได้รับเกียรติให้ร่วมโต๊ะทานข้าวกับเจ้าภาพ ซึ่งในวันนั้น ได้นั่งข้างๆติดกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแห่งหนึ่งของเกาหลี
หลังจากคุยกันแบบเป็นทางการได้สักพัก จิตวิญญาณผู้ประกอบการในตัวของพวกเรามั้ง ทำให้เราเริ่มพูดคุยแลกเปลี่ยนอย่างเป็นกันเอง และเป็นการผูกมิตรที่โดยส่วนตัวผมเองแล้ว ประทับใจในบทสนทนา และความอบอุ่น เป็นกันเองของท่านผู้นั้นมาก
ถ้าพวกเราจำได้ ในปี 1997 ที่เกิด วิกฤตต้มยำกุ้ง ประเทศเกาหลีเองก็โดนผลกระทบไปเต็มๆ ไม่น้อยไปกว่า ประเทศไทยของเรา
แต่ทำไม เพียง 20 กว่าปี ประเทศของเขาถึงได้พัฒนามาไกลได้ถึงเพียงนี้
ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมบันเทิง Soft Power ที่ทะลุทะลวงไปสร้างความสุขให้กับคนทั้งโลก จนติดละครซีรีส์เกาหลีกันงอมแงม ภาพยนตร์ ดนตรี ก็เช่นกัน เอาชนะใจคนทั้งโลกได้อย่างน่าชื่นชม โทรศัพท์มือถือ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์การสื่อสารทันสมัย เทคโนโลยีต่างๆก็ก้าวไกลไม่แพ้ใครในโลก
ด้วยความอยากรู้เช่นนี้ เมื่อประสบโอกาส ผมจึงถามท่านรัฐมนตรีช่วยท่านนั้น
“ถ้าตอบได้เพียง 1 คำ คำใดที่ทำให้ประเทศเกาหลี พัฒนามาได้จนสำเร็จเหมือนเช่นทุกวันนี้ ในความคิดของท่านครับ”
ท่านมองหน้าผมแบบ Surprised แล้วทำหน้าครุ่นคิด ท่านมาบอกภายหลังว่า ไม่เคยเจอคำถามแบบนี้มาก่อน แล้วก็รู้สึกดีมาก ที่ได้ตอบคำถามกับผมด้วย เพราะรู้สึกได้จากใจเลยว่า ผมสนใจในความสำเร็จของประเทศของเขาด้วยความชื่นชมจากใจจริง
“ถ้าเลือกได้แค่คำเดียว ขอตอบคำว่า Pari Pari ปาริ ปาริ”
ปาริ ปาริ แปลว่า รวดเร็ว เร่งด่วน
“หลังจากเจอวิกฤตในปี 1997 แล้ว ทุกคนในเกาหลีรู้ตัวว่า ทำอะไรเหมือนเดิม ไม่ได้อีกต่อไป ต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลง และตั้งใจลงมือสร้างเปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็ว อย่างเร่งด่วน และไม่กลัวที่จะล้มเหลว เพราะยังไงก็ดีเดิมแน่นอน”
อยู่ดีๆผมก็นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา
อาจเป็นเพราะยังเห็นความเฉื่อยชา ความล่าช้าในหลายๆสิ่ง หลายๆเรื่องในบางองค์กร และในสังคม ประเทศชาติของเราด้วย
แต่ถ้าให้ Scope การเปลี่ยนแปลงที่มองเห็น สัมผัส และรู้สึกด้วยตัวเองชัดที่สุด ก็น่าจะเป็นองค์การต่างๆที่ตัวเองได้บริหารในช่วงเวลาที่ผ่านมา
มีทั้งเปลี่ยนแปลงสำเร็จ มีทั้งทำอะไรไม่ได้มาก และบางที ก็ทำอะไรไม่ได้เลยก็มี
A Footprint of Thought คิดอย่างเสือบทนี้เลยจะขอแชร์ 8 ขั้นตอน Speed Change ขององค์กรสู่ความสำเร็จครับ
1. Increase Urgency ถ้าไม่มีไฟมารนก้น ก็ไม่ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลง เราจะต้องจุดประกาย ความกล้าเปลี่ยนแปลง ให้เกิดขึ้นในองค์กร
บางทีอาจเริ่มด้วยเรื่องเบสิคพื้นฐาน เช่น การพูดคุยกัน “ได้เวลาเปลี่ยนแปลงกันหรือยัง”
การไม่ยินยอมให้นั่งติดอยู่กับที่ เหมือนอยู่กับความเคยชิน ให้ลุกออกจากที่ตั้ง แล้วเริ่มให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวบ้าง เดินไปหาข้อมูลบ้าง
ทุกสิ่งที่เคลื่อนที่ได้ ความเร็วจะเกิดขึ้นขึ้นตามธรรมชาติเอง
2. สร้างทีม Change Agent ให้เป็นเหมือนทีมหัวหอกเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง
มองหากลุ่มคนที่มีพลังเสือ มีแรงขับเคลื่อนสูงมารวมตัวกัน โดยอาจดูจากทักษะ ความรู้ความชำนาญ การเป็นที่รู้จักดีในองค์กร มีมนุษย์สัมพันธ์ และถ้าตำแหน่งหน้าที่การงานที่น่าเชื่อถือด้วยมารวมตัวกันได้ โอกาสการเปลี่ยนแปลงที่จะไปได้เร็วขึ้นก็จะเป็นไปได้มาก
ให้คนกลุ่มนี้เป็นเหมือน Guiding Team เพื่อชักชวนคนอื่นๆเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงด้วย
3. Get the Vision right วิสัยทัศน์ที่ใช่ กับกลยุทธ์ที่จะนำพามาซึ่งการเปลี่ยนแปลง ต้องชัดเจน เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน แต่อาจต้องมีขั้นตอนที่ผ่านการวางแผนและงบประมาณที่พอเพียง ที่ถูกจัดวางไว้อย่างเหมาะสมด้วย ก็จะไปได้เร็วขึ้น
ยิ่งช่วงสถานการณ์เศรษฐกิจหลังโควิดนี้ ยิ่งต้องกล้า ยิ่งต้องเร็ว
4. การสื่อสาร Communication ต้องทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ เพราะคนเชื่อ คนจึงติดตาม คนจะติดตามคนก่อนที่จะติดตามงาน ดังนั้นการสื่อสารต้องสร้างแรงบันดาลใจ กระตุ้นให้เกิดความร่วมแรงร่วมใจ ยกระดับ Commitment ของทุกคนทุกฝ่าย
และที่สำคัญที่สุด อย่าหยุดที่คำพูด การลงมือทำให้เห็นจริง การทำซ้ำๆมีความจำเป็น เพราะในโลกธุรกิจปัจจุบัน การกระทำสำคัญกว่าคำพูด
5. Empower Action การเปิดโอกาสให้ทีมงานใช้ความคิดสร้างสรรค์ ความรู้และประสบการณ์ พร้อมผลักดันให้ทีมงานใช้ศักยภาพ แสดงความสามารถได้อย่างเต็มที่ จนทำให้ทุกคนมีความรู้สึกเป็นเจ้าของร่วม เกิด Sense of Ownership ในการเปลี่ยนแปลงไปสู่เป้าหมายเดียวกัน
6. Create a small win, short-term win สร้างเป้าหมายเล็กๆบ้าง ระยะสั้นบ้าง เพื่อให้ทีมงานได้ร่วมกันบรรลุเป้าหมายได้ไม่ยากเกินไป ให้เกิดชัยชนะร่วมกัน ความสำเร็จบ่อยๆ ถี่ๆ จะเกิดเป็นพลังใจ สร้าง Momentum ในการพิชิตเป้าหมายที่ใหญ่กว่าได้
บางทีการตั้งเป้าหมายที่ใหญ่เกินไป และไม่บรรลุสักที อาจทำให้ทุกคนหมดไฟ และหมดกำลังใจลงได้
Small win, short-term win จึงสำคัญมากเช่นกัน
7. Don’t Let Up อย่าปล่อยวาง อย่าเฉยชา
การเปลี่ยนแปลงเปรียบเสมือนคลื่นทะเล คลื่นแล้วคลื่นเล่า คลื่นต่อคลื่น เกิดเป็นแรงกระเพื่อม สั่นสะเทือนได้ ถ้าทุกคนร่วมกันเปลี่ยนแปลงคนละเรื่อง2เรื่อง บนเป้าหมายปลายทางเดียวกัน ปลายทางของการเปลี่ยนแปลงที่หวังไว้ก็ถึงได้อย่างแน่นอน
8. Make Change Stick ถ้ายืนยัน กล้าเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อย่างต่อเนื่องแล้ว จะเกิดเป็นวัฒนธรรมใหม่ขององค์กรขึ้น คนที่เข้ามาใหม่จะรู้สึกได้ คนเก่าๆก็จะรู้ว่า ตัวเองอยู่เฉยไม่ได้อีกต่อไปเหมือนกัน
ถ้าทำได้ทั้ง8ข้อนี้ การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว และทำอย่างต่อเนื่อง จะสัมฤทธิ์ผล ได้มองเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจน และบรรยากาศในการทำงานก็จะเปลี่ยนไป รู้สึกได้ สัมผัสได้ ถึงการมีชีวิตขององค์กร
การเปลี่ยนแปลงขององค์กร ไม่สามารถเกิดขึ้นเพียงเพราะคนใดคนหนึ่ง
ดังนั้นการพึ่งพาใครเพียง 1 คน ต่อให้เป็นผู้นำสูงสุดขององค์กร ถ้าผู้นำคนนั้นไม่ดึงพลังแห่งการมีส่วนร่วมของทุกคนเข้ามาร่วมกันเดินหน้าแล้ว การบรรลุเป้าหมายสู่การเปลี่ยนแปลงก็อาจทำได้ยากและไม่มีประสิทธิภาพ
แต่อย่างไรก็ตาม ความเป็นผู้นำ ก็ยังมีส่วนสำคัญมาก สู่ความสำเร็จ
ทั้ง 8 ขั้นตอนที่กล่าวไว้ข้างต้น ต้องใช้เวลาในการสร้างการเปลี่ยนแปลงร่วมกัน
อาศัยการสื่อสารพูดคุยอย่างมีคุณภาพ
ประกอบกับ การมองเห็นในคุณค่าที่แตกต่างของทีมงานแต่ละคน
การลงมือทำงานร่วมกัน
และที่สำคัญ การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อ คิดแล้วทำเลย เริ่มเลยทันที
มาร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลง และ “เร็วขึ้น” ด้วยกันนะครับ
ขอให้ทุกคนโชคดี
โฆษณา