26 พ.ย. 2021 เวลา 02:00 • กีฬา
" แชมป์จากกุนซือมวยแทน "
การเปลี่ยนผู้จัดการทีม บางครั้งอาจต้องใช้เวลาในการเสาะหา บางครั้งก็หยิบเอาคนใกล้ตัว ขึ้นมานั่งแทนดื้อๆ แต่ก็มีหลายครั้งที่ "มวยแทน"เหล่านี้ สามารถทำผลงานได้ดีเกินคาด จนกลายเป็นเรื่องเล่าในหน้าประวัติศาสตร์สโมสรไป
ยกตัวอย่างเช่นในปี 1982 ที่แอสตัน วิลล่า
ฤดูกาล 1980/81 รอน ซอนเดอร์ส นำทีมสิงห์ผงาด วิลล่า คว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้เป็นครั้งแรกในรอบ 71 ปี เขากลายเป็นผู้จัดการทีมชั้นนำ
นั่นทำให้ปี 1981/82 วิลล่า ได้ผ่านเข้าไปเล่นใน ยูโรเปี้ยน คัพ หรือยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทุกวันนี้
อย่างไรก็ดี ผลงานในลีกปีนั้นของวิลล่า กลับไม่เปรี้ยงปร้างอย่างเคย รอน ซอนเดอร์ส มีปัญหานอกสนามเพราะขัดแย้งกับบอร์ด ทำให้สุดท้ายแยกทางกันตอนเดือนกุมภาพันธ์ 1982
รอน เบนดัลล์ ประธานสโมสรแต่งตั้งให้ โทนี่ บาร์ตัน ผู้ช่วยของ ซอนเดอร์ส ขึ้นมาคุมทีมแทน ทั้งที่ บาร์ตันเองไม่เคยคุมทีมไหน แบบเป็นทางการมาก่อนเลย เขามักทำงานเป็นหนึ่งในสต๊าฟฟ์โค้ช หรือแมวมองเท่านั้น
แต่ก็อย่างที่รู้กัน บาร์ตัน พาทีมจากที่ตกลงไปอยู่ในโซนหนีตกชั้น มาจบกลางตารางที่อันดับ 11 และที่คลาสสิกที่สุดคือ เขาพาทีมคว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ
แอสตัน วิลล่า ผ่าน ดีนาโม เคียฟ และ อันเดอร์เลชท์ ในรอบ8 ทีมและรอบรอง โดยไม่เสียประตูเลย ก่อนจะเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค ยักษ์ใหญ่เยอรมัน 1-0 ในนัดชิงชนะเลิศที่ร็อทเทอร์ดัม จากประตูชัยของ ปีเตอร์ วิธ อดีตกุนซือทีมชาติไทยนั่นเอง
1
โทนี่ บาร์ตัน ได้รับความไว้วางใจให้คุมทีมต่อในฤดูกาลถัดมาก็จริง แต่เบื้องบนมีการปรับเปลี่ยน เมื่อ ดั๊ก เอลลิส เข้ามาเป็นประธานสโมสรแทนที่ รอน เบนดัลล์
ดั๊ก เอลลิส ได้ฉายาว่าจอมเชือด (Deadly Doug) เพราะเขาปลดกุนซือเป็นว่าเล่น โทนี่ บาร์ตัน คือเหยื่อรายแรกของ เอลลิส เมื่อโดนปลดออกจากตำแหน่งในปี 1984 แต่กระนั้น ผลงานการพาทีมคว้าแชมป์ยุโรปของเขา ก็กลายเป็นที่จดจำของแฟนวิลล่าตลอดไป
อย่างไรก็ดี หากจะถามหาสโมสรที่มักประสบความสำเร็จกับกุนซือประเภทมวยแทน สโมสรนั้นเห็นจะเป็นเชลซี
ในปี 2007 ตอนที่ โชเซ่ มูรินโญ่ โดนปลดอย่างสุดเซอร์ไพรส์ในรอบแรก โรมัน อับราโมวิช ก็แต่งตั้ง อัฟราม แกรนท์ เข้ามาคุมทีมแทนชั่วคราว
แกรนท์ พาทีมไปถึงรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2008 ซึ่งน่าเสียดายหากว่า จอห์น เทอร์รี่ ไม่ลื่นตอนยิงจุดโทษ และยิงลูกนั้นเข้า เชลซี คงได้ฉลองแชมป์ยุโรปสมัยแรกไปแล้ว ภายใต้การคุมของกุนซือขัดตาทัพอย่าง แกรนท์
เคสที่สอง ไม่ต้องรอนาน เพียงฤดูกาลถัดมาเท่านั้น ปี 2008/09 เชลซี ตั้ง หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ มาคุมทีมแต่ผลงานไม่เป็นไปดังหวัง กุมภาพันธ์ 2009 เลยจัดการปลดกุนซือแซมบ้าออกจากตำแหน่ง
คนที่เข้ามาแทนในฐานะ Interim Manager หรือผู้จัดการทีมชั่วคราวคือ กุส ฮิดดิงค์ ซึ่งขณะนั้นยังเป็นกุนซือทีมชาติรัสเซียอยู่เลย แต่ด้วยสายสัมพันธ์ของเสี่ยหมีกับสมาคมฟุตบอลบ้านเกิด ก็ได้ตัว ฮิดดิงค์ มาช่วยงาน
ผลงานของ ฮิดดิงค์ ยอดเยี่ยมมาก ในลีกจากที่เขามาคุมทีมจนจบฤดูกาลคือชนะทุกนัด ยกเว้นแค่ 2 นัดที่แพ้ กับเสมอ อย่างละนัด ทำให้ตามแมนฯ ยูไนเต็ด กับลิเวอร์พูล ไม่ทัน ลองนึกภาพว่าถ้า ฮิดดิงค์ มาเร็วกว่านี้อีก 1-2 เดือน สองทีมสีแดง คงต้องเหนื่อยกันมากกว่านี้
ที่สำคัญในบอลถ้วย ฮิดดิงค์ ไม่มือเปล่า เขาพาเชลซี ได้แชมป์ เอฟเอ คัพ ด้วยการเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน ได้ในนัดชิงชนะเลิศ
ส่วนในฟุตบอลยุโรป เชลซี "เกือบ" จะได้เข้าไปล้างแค้นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในนัดชิงแล้ว
ถ้าใครยังจำกันได้ เชลซีแพ้ให้ บาร์ซ่า ในรอบรองชนะเลิศ ในเกมสุดเดือด ที่ผู้ตัดสิน ทอม เฮนนิ่ง โอเวรโบ ไม่ยอมเป่าจุดโทษให้เชลซี หลายต่อหลายหน ก่อนจะโดน อิเนียสต้า ยิงประตูอเวย์โกล ในนาทีที่ 90+3 จนทำให้ ดร็อกบา กับบัลลัค โมโหสุดขีด
ฮิดดิงค์ ถูกดึงมาช่วยทีมอีกหนในปี 2015/16 หลังปลดมูรินโญ่ เพราะแพ้กระจุย 9 จาก 16 นัดแรก แม้หนนี้จะไม่มีแชมป์ แต่เขาก็ทำให้ เชลซี ไต่กลับมาจบกลางตาราง และมีผลงานที่แน่นอน มั่นคงขึ้นในครึ่งหลังของฤดูกาล
เคสต่อมาคือกรณีของ โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ หนึ่งในสถานการณ์คลาสสิก "ถ้ากุนซือชั่วคราวทำผลงานดีจะทำยังไง?"
ในเคสของ ฮิดดิงค์ มันชัดเจนว่าเขาต้องไปคุมทีมชาติรัสเซียต่อ และ เชลซี ก็มีแผนไว้รองรับแล้ว ก็แยกทางกันไปตามสัญญาเดิมที่วางเอาไว้
ทว่ากับ ดิ มัตเตโอ มันแตกต่างออกไป ในฐานะอดีตเด็กเก่า ดิ มัตเตโอ ตอนนั้นเป็นกุนซือหนุ่มฝีมือดีมาก คุม เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน พาทีมเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ ลีก ได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ในฤดูกาล 2010/11 บนเวทีพรีเมียร์ ลีก แบ็กกี้ส์ เริ่มมีช่วงแย่ติดกันหลายนัด ทำให้เขาโดนปลดตอนเดือนกุมภาพันธ์ 2011
หน้าร้อนนั้นเอง เชลซี แต่งตั้ง อันเดร วิลลาช โบอาช เข้ามาคุมทีมหลังปลด คาร์โล อันเชล็อตติ และสโมสรก็ดึงตัว ดิ มัตเตโอ ที่กำลังว่างงานเข้ามาเป็นผู้ช่วยของ โบอาช
โบอาช เป็นกุนซือหนุ่มไฟแรงมาจากปอร์โต้ ทฤษฎีแน่น ความมั่นใจในตัวเองสูง เข้ามาแล้วก็ไม่ยืดหยุ่นให้เข้ากับขนบเดิมๆ บ้าง สุดท้ายผลงานแย่ อยู่ไม่ไหว โดนปลด
ก่อนโดนปลด โบอาช ทำผลงานค้างไว้คือใน ชปล. รอบ 16 ทีมสุดท้ายเลกแรก แพ้นาโปลี 3-1
ดิ มัตเตโอ ถูกดันขึ้นมาเป็นกุนซือชั่วคราว "จนถึงจบฤดูกาล" งานแรกที่ทำได้ดีคือการพลิกนรก เอาชนะนาโปลี 4-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ผ่านเข้ารอบได้สำเร็จ
จากนั้น ในรอบรองชนะเลิศ ดิ มัตเตโอ ก็ล้างอายให้กับ ฮิดดิงค์ เมื่อปี 2009 ได้สำเร็จ เขาพาทีมเอาชนะบาร์เซโลน่า อย่างสุดสะใจ โดยเฉพาะเลกสอง ที่เหลือ 10 คนแต่บุกไปเอาผล 2-2 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ
แล้วก็แน่อน ไฮไลท์คือการดวลจุดโทษเอาชนะบาเยิร์น มิวนิค ในนัดชิงฯ ซึ่งปีนั้นเตะที่ อัลลิอันซ์ อารีน่า บ้านของบาเยิร์น เองเลยด้วย มันกลายเป็นแชมป์ยุโรปสมัยแรกของเชลซี!
1
ไม่เพียงแค่แชมป์ยุโรป แต่ ดิ มัตเตโอ ยังคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ มาครองได้อีกรายการด้วย พาเชลซีเอาชนะลิเวอร์พูล 2-1 ในนัดชิงชนะเลิศ เป็นการปิดฉากการเป็นกุนซือชั่วคราวอย่างยิ่งใหญ่
ทันใดนั้น กระแสจากแฟนบอลก็เริ่มตีขึ้นมา เป็นเหมือนการกดดันให้บอร์ดมอบสัญญาถาวรให้ ดิ มัตเตโอ ไปเลย สุดท้าย สโมสรก็แต่งตั้งเขาขึ้้นมาคุมทีมถาวรจริงๆ
ปี 2012/13 ภายใต้การคุมทีมของ ดิ มัตเตโอ เชลซี ออกสตาร์ทฤดูกาลได้ดีสุดๆ 8 นัดแรก ชนะ 7 เสมอ 1 กระทั่งเกมถัดมาคือการรับมือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เกมนั้นกลายเป็นจุดด่างพร้อยอีกจนได้ มันคือเกมที่ มาร์ค แคล็ทเท่นเบิร์ก ไล่ เฟร์นานโด ตอร์เรส กับ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ออกจากสนาม เชลซี เหลือ 10 คน และเป็นชัยชนะของแมนฯ ยูไนเต็ด 3-2
หลังเกม จอห์น โอบี มิเกล และเชลซี กล่าวหา มาร์ค แคล็ทเท่นเบิร์ก ว่าพูดเหยียดผิว ซึ่งภายหลังถูกพิสูจน์ว่าไม่เป็นความจริง
ความพ่ายแพ้นัดนี้ และความปั่นป่วนที่ตามมา ดูจะกลายเป็นจุดหักเห เพราะเชลซี เสมอ 2 และแพ้อีก1 นัดในลีก และเมื่อ ดิ มัตเตโอ พาทีมออกไปแพ้ ยูเว่ 0-3 ในรอบแบ่งกลุ่ม ชปล. เขาก็โดนปลดออกจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2012
การคุมทีมในฐานะ "ตัวจริง" ของเขาอยู่ได้แค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น
ไม่ต้องรอนาน เคสผู้จัดการทีมชั่วคราวของ เชลซี มาถึงทันทีหลังปลด ดิ มัตเตโอ
ขณะนั้น ราฟา เบนิเตซ ว่างงาน เขาว่างงานตั้งแต่โดนอินเตอร์ มิลาน ปลดตอนปี 2010 เป็นเวลา 2 ปีที่ ราฟา รอโอกาสของเขา
เชลซี แต่งตั้งให้ เบนิเตซ มาคุมทีมจนจบฤดูกาล ทันใดนั้นก็มีกระแสต่อต้านจากแฟนบอลทันที ทั้งการเป็นอริกันมาก่อนตอนคุมลิเวอร์พูล ทั้งความล้มเหลวตอนคุม อินเตอร์ ทำให้หลายคนยี้
แต่ ราฟา ก็พิสูจน์คุณค่าของเขาจนได้ ใช้ผลงานเป็นคำตอบ เชลซี ค่อยๆ คืนฟอร์ม ราฟา พาทีมจบอันดับ 3 ตามหลังแมนฯ ซิตี้ รองแชมป์เพียง 3 คะแนนเท่านั้น
ที่สำคัญ เขายังพาเชลซีได้แชมป์ยุโรปถ้วยเล็กอีก 1 รายการ เมื่อเอาชนะ เบนฟิก้า 2-1 คว้าแชมป์ ยูโรปา ลีก มาครอง นั่นทำให้เชลซี เป็นสโมสรแรกของอังกฤษ ที่ได้แชมป์หลักของยูฟ่า ครบทั้ง 3 รายการคือ คัพ วินเนอร์ส คัพ, ยูโรเปี้ยน คัพ/ชปล. และ ยูฟ่า คัพ/ยูโรปา ลีก
เบนิเตซ อำลาเชลซีหลังจบฤดูกาลนั้น เขาเปลี่ยนใจแฟนบอลเชลซี จากที่เกลียด ให้กลายเป็นประทับใจได้สำเร็จ ก่อนจะไปรับงานคุม นาโปลี เมื่อหมดสัญญาชั่วคราวฉบับนี้
การหาผู้จัดการทีมชั่วคราวมาคุมทีม ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย ตัวอย่างมีให้เห็นว่าหลายครั้งมันลงเอยอย่างสวยงามด้วยซ้ำ
เพียงแต่ประวัติศาสตร์ก็คอยเตือนเราชัดเจนว่า ชั่วคราวคือชั่วคราว คิดให้ดีหากจะมอบสัญญาถาวรให้ เพราะบางครั้งมันก็อาจจบไม่สวยได้เช่นกัน
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา