25 พ.ย. 2021 เวลา 16:40 • ประวัติศาสตร์
จริงๆแล้วฉันคือประธาน(พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน) เหมา เจ๋อตง
ประวัติคร่าวๆของประธานเหมาในช่วงต้นของชีวิตก่อนจะกลายมาเป็นประธานเหมา พ่ออออออของแผ่นดินจีน
เหมา เจ๋อตง นักปฏิวัติผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน และประธานแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีน และมีชื่อที่ชาวจีนเรียกเขาว่า ประธานเหมา(chairman Mao)
ทำความรู้จักประธานเหมาในช่วงต้นของชีวิต​ และสำรวจว่าอะไรที่เป็นเบ้าหลอมความคิดและอุดมการ​ณ์ที่ทำให้ประธานเหมากลายเป็นประธานเหมาที่เรารู้จักกันในทุกวันนี้
เหมา เจ๋อตง เกิดเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ. 1893 ที่แถบชนบทเมืองเซาฉาน(Shaoshan) มณฑลหูหนาน(Hunan) ประเทศจีน
แต่ชีวิตในวัยเด็กของเหมาก็ไม่ได้ลำบากอะไรเพราะเหมาเป็นลูกชายของนาย เหมา อี้ฉาง (Mao Yichang) อดีตชาวนาที่ร่ำรวยมาจากการค้าขายเมล็ดธัญพืชและยังเป็นชนชั้นเจ้าของที่ดิน เหมาเข้าเรียนโรงเรียนประถมประจำหมู่บ้านเมื่ออายุ 8 ขวบ ซึ่งเหมาก็ได้รับศึกษาความรู้เกี่ยวกับลัทธิขงจื๊อ และถูกแวดล้อมไปด้วยแนวคิดนี้ เมื่ออายุได้ 13 ปี เหมาก็ถูกบังคับให้ออกมาทำงานที่ฟาร์มของครอบครัวของเขา ในช่วงนี้เขาใช้เวลาว่างไปกับการอ่านหนังสือเป็นจำนวนมาก จนได้รับแรงบันดาลใจจากบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ของโลก อาทิเช่น จอร์จ วอชิงตัน และนโปเลียน โปนาบาท
แต่ว่าเหมาก็ถูกพ่อจับคลุมถุงชนด้วยความไม่ยินยอมกับลูกสาวของเจ้าของที่ดินที่อื่น แต่ด้วยนิสัยความเป็นขบถและแนวคิดทางการเมืองที่ได้รับจากวรรณกรรมตะวันตก ทำให้เหมาได้ตัดสินใจเดินทางออกจากบ้านเพื่อไปเรียนต่อในโรงเรียนมัธยมต้นที่เมืองใกล้ๆและเรียนต่อในโรงเรียนมัธยมปลายที่เมืองหลวงของมณฑลหูหนานที่ชื่อว่า ชางฉา( Changsha)
ที่นั่นเหมาได้รับอิทธิพลจากแนวคิดจากตะวันตกมากมายเช่น แนวคิดสาธารณรัฐ เหมามีโอกาสทำกิจกรรมทางการเมืองบ้าง เช่นการเขียนบทความเกี่ยวกับการเมือง เป็นต้น เหมาได้กลายเป็นคนที่ยกย่องชื่นชมนักปฎิวัติ ซุน ยัดเซน เป็นอย่างมาก ในช่วงนั้นเหมาได้ประจักษ์กับการปฏิวัติของแท้โดยที่ไม่ต้องศึกษาผ่านหนังสือเลยทีเดียว
battle between revolutionary army and imperial in Xinhai revolution
วันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ. 1911 เกิดการต่อสู้เพื่อปฏิวัติราชวงศ์ชิง ในวูฉาง และภายใน 2 สัปดาห์ การปฏิวัติก็ลามมาจนถึงชางฉาที่ซึ่งเหมากำลังศึกษาอยู่
เหมาที่ไม่รอช้า ได้สมัครเป็นทหารของฝ่ายกองกำลังปฏิวัติและเป็นทหารแต่ก็ไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ใดๆ 6 เดือนหลังจากที่ความขัดแย้งเริ่มบรรเทาลงและการปฏิวัติซินไห่จบลง พลทหารเหมาก็ลาออก ในช่วง 6 เดือนที่เป็นทหาร เหมาได้รับแนวคิดลัทธิสังคมนิยมมากมายจาการอ่านหนังสือพิมและแผ่นพับ ซึ่งเหมาในตอนนั้นยังไม่ตกผลึกความคิดและยังไม่มั่นใจในแนวคิดเหล่านี้นัก แต่เขาได้ยอมรับมันและเขียนออกมาเป็นหนังสือในภายหลังที่ชื่อว่า "พลังปฏิวัติเบ่งบานออกมาจากปากกระบอกปืน"
ช่วงแรกๆหลังลาออกจากการเป็นทหาร เหมาทำงานไปด้วยและเข้าๆออกๆสถาบันการศึกษาหลายที่แต่สุดท้ายด้วยปัญหาหลายอย่าง เช่น ด้านการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ หรือ การฝังรากลึกของลัทธิขงจื๊อที่เหมาไม่ชอบ ก็ทำให้เหมาลาออกจากสถานที่เหล่านั้น สุดท้ายเหมาก็ออกมาศึกษาต่อด้วยตัวเองและใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่ Changsha public library และได้อ่านงานเขียนเกี่ยวเสรีนิยมคลาสสิคมากมาย
จากการที่เหมาได้มองว่าตัวเขาเองเป็นปัญญาชน หลายปีหลังจากนั้นเขาก็ยอมรับว่าเขาคิดว่าเขาอยู่เหนือกว่าชนชั้นแรงงาน แต่ว่าพ่อของเหมาไม่คิดเช่นนั้น เพราะมองว่าการไล่ตามความรู้ของเหมานั้นไร้ประโยชน์ พ่อของเหมาจึงเลิกให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่เหมาและส่งเหมาไปอยู่หอพักผู้ยากไร้
ชีวิตของเหมาในช่วงสุดท้ายด้วยความตั้งใจอยากจะเป็นครู เหมาได้สมัครเข้าเรียนในวิทยาลัยครูหูหนาน หลังจากนั้นเหมาได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยปักกิ่งและทำงานเป็นผู้ช่วยบรรณารักษ์ห้องสมุดไปด้วย จากนั้นเขาก็ได้รู้จักกับศาสตราจารย์ด้านจริยธรรม Yang Changji ซึ่งเป็นคนที่แนะนำให้เขาอ่านหนังสือพิมพ์ที่มีแนวคิดแบบถอนรากถอนโคน(radical) อย่าง New Youth
และที่นั่นเขาได้พบกับเพื่อนคนสำคัญ เฉิน ตูชิว(Chen Duxiu) ที่จะกลายมาเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์ของเขาเฉิน ตูชิว แม้จะเป็นคนที่ลักษณะค่อนข้างจะชาตินิยมแต่เขาก็คิดว่าจีนควรจะรับเอาประชาธิปไตยและวิทยาศาสตร์เข้ามาเพื่อให้จีนหลุดพ้นจากเผด็จการและไสยศาสตร์
Chen Duxiu  คณบดีคณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยปักกิ่ง
ปี 1917 เหมาได้ตีพิมพ์บทความแรกของเขาใน New Youth ชื่อว่า A Study of Physical Culture ที่แนะนำให้ผู้อ่านฝึกฝนร่างกายเพื่อรับใช้การปฏิวัติ จะเห็นได้ว่าในช่วงนี้เหมาเริ่มเชื่อในความคิดเกี่ยวกับการปฏิวัติแล้วหลังจากสะสมความรู้มานาน
เขาได้เข้าร่วม The Society for the Study of Wang Fuzhi (Chuan-shan Hsüeh-she) ซึ่งเป็นกลุ่มปฏิวัติที่ก่อตั้งโดยนักวรรณกรรมชาวฉางซาที่ต้องการเลียนแบบ Wang Fuzhi ปราชญ์ที่เป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านการรุกรานของฮั่นต่อการรุกรานของแมนจู
และในช่วงที่เรียน เหมาเป็นนักศึกษาที่มีส่วนร่วมกับกิจกรรมทางการเมืองอยู่ตลอดและได้รับเลือกให้เป็นเลขาธิการสมาคมนักศึกษาในปี 1915 เขาเคยใช้ตำแหน่งของเขาเพื่อจัดตั้งสมาคมนักศึกษาเพื่อการปกครองตนเองเพื่อต่อต้านกฏของโรงเรียน และในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เขาได้รับเลือกเป็นผู้บังคับบัญชากองทับอาสาของพวกนักเรียนเพื่อปกป้องโรงเรียนของเหล่าทหาร และในช่วงนี้เองที่ทำให้เขาได้เรียนรู้วิธีการทางทหาร และนอกจากนั้น เหมายังเริ่มสนใจและเริ่มรู้สึกเห็นใจชนชั้นแรงงานอีกด้วย
ในปี 1918 เหมากับเพื่อนๆนักปฎิวัติได้ร่วมก่อตั้ง the Renovation of the People Study Society เพื่อมาอภิปรายแนวคิดของ เฉิน ตูชิว
ด้วยความตั้งใจอันแน่วแน่ที่จะเปลี่ยนแปลงสังคม the Renovation of the People Study Society ได้มีสมาชิกเพิ่มประมาณ 80 คน โดยมีสมาชิกจำนวนหนึ่งเป็นผู้หญิงอีกด้วย ซึ่งสมาชิกเหล่านี้ส่วนใหญ่ในภายหลังก็ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน
สุดท้ายเหมาจบการศึกษาในปี 1919 ด้วยคะแนนอันดับ 3
ท่านประธานเหมาในปี 1919
แปลและเรียบเรียงข้อมูลจาก
โฆษณา