Cliff Walkers (2021)
หนังสายลับยะเยือกของจางอี้โหมว
ตัวเลขรายได้ที่มากกว่า 185 ล้านเหรียญ ต้องถือว่าไม่ธรรมดาสำหรับหนังสายลับซ้อนแผนที่ไม่ได้มีฉากแอคชั่นมากมายของจากอี้โหมว
สิ่งที่มั่นใจได้มากๆจากหนังของจางอี้โหมวคืองานด้านภาพที่ต้องเรียกว่าอยู่ในระดับขั้นวิจิตรมาก เขาใช้สีสันอย่างฉูดฉาดจนติดตามาแล้วจาก Hero และ House of Flying Daggers มาจนถึงการลดโทนสีจนเกือบจะกลายเป็นหนังขาวดำใน Shadow แต่พอมา Cliff Walkers งานใหม่ของเขาที่จะเป็นตัวแทนหนังจีนเข้าประกวดรางวัลออสการ์ครั้งที่ 94 นั้น จางอี้โหมวพาผู้ชมไปพบกับหนังสายลับที่เย็นเยือกไปด้วยหิมะขาวโพลนตลอดทั้งเรื่องในดินแดนแมนจูกัวทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจีนในยุค 1930 ซึ่งญี่ปุ่นตั้งประเทศแมนจูกัวขึ้นมาโดยมีรัฐบาลหุ่นเชิดปกครอง และกองทัพคันโตได้สร้างกองพัน 731 สำหรับจับคนมาทดลองทำอาวุธชีวภาพ
หนังเล่าเรื่องของสายลับพรรคคอมมิวนิสต์จีน 2 คู่ ที่เป็นสามีภรรยากัน หลังจากฝึกการปฏิบัติการแทรกซึมจากรัสเซียสำเร็จลง พวกเขากระโดดร่มลงมาในดินแดนแมนจูกัวโดยมีเป้าหมายปฏิบัติการที่เรียกว่าปฏิบัติการ "รุ่งสาง" ทั้ง 4 คนแยกสลับจับคู่กันเพื่อไม่ให้ความเป็นสามีภรรยากลายเป็นจุดอ่อนของปฏิบัติการ แบ่งเป็น 2 ทีมแยกย้ายกันเดินทางมุ่งหน้าเข้าไปเมืองฮาร์บิน สำหรับปฏิบติการรุ่งสางคือการพาพยานบุคคลที่รอดชีวิตจากฐานลับกองพัน 731 มาเปิดโปงให้นานาชาติรับทราบ
ฮาร์บินในเวลานั้นอุดมไปด้วยสายลับทั้งจากสายลับฝั่งคอมมิวนิสต์ ฝั่งจีนสาธารณรัฐ ตำรวจลับและสายลับของฝั่งรัฐบาลหุ่นเชิดที่พยายามขัดขวางปฏิบัติการรุ่งสางให้ได้ สิ่งที่ตำรวจลับแมนจูกัวมีเหนือกว่าฝ่ายสายลับคอมมิวนิสต์ก็คือข้อมูลข่าวสารที่ได้จากสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ที่แปรพักตร์ ทำให้ทราบรายละเอียดคร่าวๆว่าสายลับที่เข้ามาปฏิบัติการมี 4 คน พื้นที่ปฏิบัติการอยู่ที่ฮาร์บินพวกเขาจึงวางแผนปฏิบัติการซ้อมแผนสายลับคอมมิวนิสต์
เมื่อสายลับคอมมิวนิสต์ทั้ง 4 แบ่งเป็น 2 ทีมแล้ว ทีมเอไปยังที่จุดนัดพบกับฝ่ายปฏิบัติการในพื้นที่ก็พบว่าสหายร่วมอุดมการณ์ที่มารอรับนั้น แท้จริงแล้วคือสายลับฝ่ายศัตรูที่ปลอมตัวมา พวกเขาเริ่มรู้สึกห่วงใยในทีมบี เพราะนอกจากจะเป็นคู่สามีภรรยากันแล้ว ฝั่งที่มารอรับทีมบี ณ จุดนัดพบก็น่าจะกลายเป็นสายลับฝั่งศัตรูเช่นเดียวกัน การส่งข่าวถึงกันในสภาพอากาศที่ติดลบเต็มไปด้วยหิมะที่ขาวโพลนก็เป็นไปได้ยาก
ทางฝั่งตำรวจลับสายลับรัฐบาลหุ่นเชิดโดยก็แสร้งทำทีเป็นสหายร่วมอุดมการณ์ปล่อยให้พวกเขาเคลื่อนไหวอย่างตามใจชอบ ในขณะที่คอยจับตามองอยู่อย่างใกล้ชิด มันจึงเป็นการหักเหลี่ยมเฉือนคมกันของสงครามสายลับ 2 หน้า ยิ่งไปกว่านั้นสายลับฝั่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนก็รู้ดีว่าการที่ศัตรูมารอรับเช่นนี้ เท่ากับมีคนทรยศและน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการระดับสูงที่เคลื่อนไหวอยู่ในฮาร์บิน ส่วนตำรวจลับก็ได้ข้อมูลจากสายลับสองหน้าว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนเองก็ส่งสายลับระดับสูงเข้ามาแทรกซึมในหน่วยงานตำรวจลับเช่นกัน ปฏิบัติการรุ่งสางจึงเป็นปฏิบัติการที่มีความสำคัญในหลายๆ ด้านเพราะนอกจากจะเปิดโปงอาวุธชีวภาพของกองทัพคันโตแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการประลองกำลังสมองซ้อนแผนเพื่อตามหาสายลับที่ซ่อนอยู่ในคนละฟากออกมาให้ได้
จางอี้โหมวแสดงความรู้สึกชาตินิยมออกมาในหนัง Cliff Walkers เต็มที่ สำหรับผมแล้วมันไม่แปลกอะไรที่หนังยุคแรกๆ ของเขาจะพูดถึงความโหดร้ายของการปฏิวัติวัฒนธรรม จนทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนเขายืนอยู่คนละฝั่งฟากของรัฐบาล แต่จริงๆแล้วจางอี้โหมวเป็นปฏิปักษ์ต่อการปฏิวัติวัฒนธรรมต่างหาก ไม่ใช่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล งานในระยะช่วงกลางๆที่ผ่อนคลายขึ้นเขาก็มีงานสนับสนุนชาติเต็มที่ทั้งพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิคที่ได้รับคำชื่นชมมาก หรือหนังดังๆที่ออกฉายต้อนรับวันชาติอย่างหนังตระกูล MY Country(มี 3 ภาคแล้ว) หนังสงครามอย่าง The Sacrifice ก็มีทั้งชื่อจางอี้โหมว และเฉินข่ายเก๋อเข้าไปเกี่ยวข้อง และในฐานะเป็นคนจีน หากจะมีหนังของเขาสักเรื่องหนึ่งจะสะท้อนอุดมการณ์ความรู้สึกชาตินิยมก็เป็นเรื่องที่ปกติ (แต่บางทีแกก็กลับไปจิกกัดการปฏิวัติวัฒนธรรมบ้างอย่าง One Second เมื่อปี 2019
วิธีการเล่าเรื่องการใช้ภาพและงานโปรดักชั่นต่างๆใน Cliff Walkers ต้องบอกว่าจางอี้โหมวยังทำออกมาได้ในระดับที่น่าทึ่งเช่นเดิม เพียงแต่ว่าตัวหนังค่อนข้างจะขาดความรู้สึกเร้าใจ ไร้อารมณ์เชือดเฉือนกันอย่างที่หนังสายลับควรจะมี เรียกได้ว่าทุกอย่างดีหมดยกเว้นการพาตัวเรื่องพาอารมณ์ของหนังขึ้นไปสู่จุดที่เราต้องลุ้นจนต้องเอามือจิกเก้าอี้แบบไม่รู้ตัว เรียกได้ว่าบทหนังแม้จะมีเรื่องที่ดีแต่ยังไม่เฉียบคม และไม่ฉลาดนัก ทั้งที่เรื่องมีความซับซ้อนมาก เหมาะแก่การทำหนังสายลับชั้นดีก็ตาม
เรียกได้ว่า Cliff Walkers มีองค์ประกอบทุกอย่างอยู่ในขั้นระดับดีเยี่ยมมากๆ เพียงขาดความเฉียบคมของบท ซึ่งจริงๆแล้วมันคือหัวใจสำคัญมากๆ ของหนังในสไตล์เฉือนคมแบบสายลับอย่างนี้ ยิ่งเห็นชื่อจางอี้โหมวแล้ว ผมคาดหวังมากกว่านี้ แต่กระนั้นก็ยังจัดว่าเป็นหนังในกลุ่มที่ดีไม่ผิดหวัง
ส่วนงานเรื่องต่อไปของจางอี้โหมวยังเกาะติดกระแสชาตินิยม นำสงครามเกาหลีมาเล่าอีกครั้งในเรื่อง Sniper ซึ่งเป็นเรื่องหน่วยแม่นปืน 5 คนของจีนต้องรบในสภาวะอากาศติดลบกับหน่วยแม่นปืนกองทัพสหรัฐ เรื่องนี้แกไม่ได้กำกับเดี่ยว แต่ประคองจางโม่ผู้เป็นลูกสาวให้มากำกับร่วม วางโปรแกรมไว้ตรุษจีนปี 2022 แค่โปรแกรมตรุษจีนก้รู้แล้วว่าความคาดหวังสูงมากแน่ๆ
7 / 10
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
