1 ธ.ค. 2021 เวลา 13:00 • ธุรกิจ
ธุรกิจสินค้าออร์แกนิกขายได้ ไม่มีวันตกเทรนด์
ต้องบอกก่อนว่าเทรนด์สุขภาพค่อนข้างมาแรง และเป็นเทรนด์ฮิตอย่างต่อเนื่องมายาวนานหลายปี ด้วยปัจจุบันคนในสังคมหันมาสนใจสุขภาพมากขึ้น และมักจะหาสินค้าต่างๆที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพของตนเองให้ดีอยู่เสมอ ไม่ว่าจะอาหารเสริม เครื่องสำอางค์ ของกิน ของใช้ สินค้าออร์แกนิกก็ยังอยู่อันดับต้นๆ ของผู้บริโภคยุคใหม่
ฝ่ายข้อมูลของ Mintel Global New Products Database (GNPD) ที่ทำการสำรวจตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ทั่วโลก ทั้งประเภทอาหารและเครื่องดื่ม ระหว่างเดือนสิงหาคม 2009 ถึงกรกฎาคม 2019 และพบว่า มีอัตราเติบโตจาก 6 เปอร์เซ็นต์เป็น 10 เปอร์เซ็นต์ ตลาดที่ยุโรปเติบโตมากและแข็งแรงที่สุด
และคาดว่าหลังจากปี 2019 ตลาดนี้ก็เติบโตมากขึ้นอย่างแน่นอน
ทางยุโรป ตลาดมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 17 เปอร์เซ็นต์ 3 ประเทศที่นิยมมากที่สุด 3 อันดับ คือ ฝรั่งเศส 22 เปอร์เซ็น เยอรมนี ที่อัตรา 20 เปอร์เซ็นต์ และสเปน 9 เปอร์เซ็นต์
และในไทยเองก็ไม่น้อยหน้า ธุรกิจสินค้าออร์แกนิคในไทยมีแนวโน้มเติบโตได้ดี ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่าในป 2561 มูลค่าตลาดสิน ค้าออร์แกนิคของไทยจะอยู่ที่ 2,700-2,900 ล้านบาท และน่าจะมีมูลค่าพุ่งไปสู่ระดับ 5,400 ล้านบาท ตามที่ภาครัฐ ได้คาดการณ์ไว้ในปี 2564
หากใครที่กำลังวางแผนทำธุรกิจออแกร์นิก จำเป็นต้องสำรวจกลุ่มเป้าหมายของเราให้ดี คุณภาพ และมาตรฐานการรองรับสินค้าว่าเป็นออร์แกนิกนั้น เป็นเรื่องสำคัญ เพราะปัจจุบันมีการอ้างอิงถึงสินค้าสมุนไพรว่าเป็นสินค้าออร์แกนิก ซึ่งตามหลักแล้ว สินค้าออร์แกนิก คือ สินค้าที่ปลอดสารอันตรายต่อร่างกาย ปลูกด้วยวิธีการทางธรรมชาติ งดเว้นการใช้สารเคมีสังเคราะห์ในทุกขั้นตอนของการผลิต ในส่วนของสมุนไพร ไม่ใช่ทุกแหล่งผลิตจะเป็นสินค้าออร์แกนิก เนื่องจากสารอาหารที่ให้กับสมุนไพรนั้น อาจจะปะปนสารเคมีอยู่โดยที่เราไม่รู้ก็เป็นได้ และงดเว้นการใช้เมล็ดพันธุ์ที่ผ่านการตัดแต่งพันธุกรรม หรือ GMO หรือแม้กระทั่งการอ้างอิงส่วนผสมในเครื่องสำอางค์ต่างๆ ผู้บริโภคควรตรวจสอบให้ดีก่อนซื้อมาใช้
ซึ่งความเป็นออร์แกนิคของ USDA จะแบ่งเป็น 3 ระดับ
1.เป็น Organic ไม่น้อยกว่า 95%
ได้การประทับตรา USDA Organic รับรองว่าเป็นสินค้า Organic
2.เป็น Organic ตํ่ากว่า 95% -70%
จะเคลมได้แค่ Made with Organic Ingredients
3.เป็น Organic ตํ่ากว่า70%
ก็จะเรียกได้แค่ Some Organic Ingredients
และหากเป็นสินค้าไทย จำเป็นต้องติดต่อสํานักงานมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ เพื่อช่วยตรวจสอบมาตรฐาน และติดต่อประสานงาน เพื่อประเมินการออกตราประทับ USDA ให้กับทางผู้ประกอบการ
สามารถเข้าไปเช็คข้อมูลได้ที่ https://organic.ams.usda.gov/Integrity/
เรื่องราคาของสินค้าออร์แกนิก จัดเป็นสินค้าที่ราคาสูง เนื่องจากการดูแล การจัดการต่างๆที่ต้องอาศัยธรรมชาติเท่านั้น ทำให้ทุกอย่างพิถีพิถันอย่างมาก ราคาสินค้าออแกนิก ประเภทของสด มีราคาตั้งแต่หลักสิบ จนถึง หลักพัน เครื่องสำอางค์มีตั้งแต่หลักพัน ถึงหลักหมื่น
แต่ราคาของสินค้าออร์แกนิกนั้น ไม่ถือว่าเป็นอุปสรรคของผู้บริโภค เพราะผู้บริโภคทราบดีกว่า กว่าวัตถุดิบแต่ละชิ้นจะถูกนำมาทำเป็นสินค้า ต้องผ่านกรรมวิธีที่พิเศษกว่าสินค้าประเภทอื่นๆ ทำให้ตัดสินใจไม่ยากในการซื้อ อีกทั้งปัจจุบันผู้คนยอมจ่ายสินค้าเพื่อสุขภาพกันมากขึ้นและเข้าใจถึงคุณภาพของสินค้าออร์แกนิก
ตลาดออร์แกนิกของโลก ถือเป็นตลาดที่ใหญ่และยิ่งมีแพลตฟอร์มการขายออนไลน์ ยิ่งช่วยให้เราเชื่อมคนทั่วโลกเข้ามาไว้ด้วยกัน การซื้อขายก็ไม่เป็นอุปสรรคอีกต่อไป แต่ถ้าหากใครต้องการขายสินค้าออร์แกนิกในต่างประเทศ จำเป็นต้องดูกฎเกณฑ์การจำหน่ายให้ดี เพราะถือเป็นสินค้าที่รายละเอียดสูงมากๆ ทั้งในเรื่องของมาตรฐานการรองรับ เครื่องหมายต่างๆ ที่แต่ละประเทศมีเงื่อนไขต่างกันออกไปนั่นเอง
โฆษณา