28 พ.ย. 2021 เวลา 17:01 • ธุรกิจ
ทำไม CHANEL ยิ่งขึ้นราคา ยิ่งขายดี
ไม่ใช่ใครก็ทำได้ที่ขึ้นราคาสินค้าแล้วสินค้านั้นก็ยังคงเป็นที่ต้องการอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
นับตั้งแต่โควิดระบาด แบรนด์แฟชั่นหรูอย่างชาแนลได้มีการปรับราคากระเป๋ายอดนิยมของแบรนด์ให้สูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง นับรวมๆแล้ว ชาแนลปรับขึ้นราคากระเป๋ามาแล้วสี่ครั้งในระยะเวลาเพียงสองปี โดยเฉพาะรุ่นระดับตำนานของแบรนด์อย่างรุ่น 2.55 Classic Medium Flap Bag ซึ่งมีราคาสูงขึ้นมาจากเดิมถึง 65% ด้วยกัน คิดเป็นเงินไทยก็ราวๆ สองแสนเก้าหมื่นกว่าบาท อีกไม่กี่พัน กระเป๋ารุ่นนี้ก็จะแตะสามแสนบาทเข้าให้แล้ว และมีท่าทีว่าชาแนลจะปรับราคาให้สูงขึ้นมากกว่านี้อีกด้วย
2
การปรับราคาย่อมมีความเสี่ยง
Mulberry แบรนด์หรูจากอังกฤษเคยใช้วิธีการขึ้นราคาแบบเดียวกับที่ชาแนลเคยทำแต่ก็ล้มเหลวไม่เป็นท่าเนื่องมาจากว่าการปรับราคาของพวกเขาทำให้ลูกค้ารู้สึกแปลกแยกกับแบรนด์จนส่งผลถึงกำไรที่ตกฮวบ แต่กับชาแนล การขึ้นราคาอันสูงลิ่วของพวกเขานั้นแทบไม่ได้รับผลกระทบจากผู้บริโภคเลยสักครั้ง ซึ่งก็พอจะบ่งชี้ได้ว่าชาแนลนั้นได้รับความนิยมในหมู่ผู้คนที่หลงรักแฟชั่นระดับสูง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดใหญ่อย่างจีน พวกเขายังคงมีความต้องการในไอเท่ม ระดับไอคอนิกของชาแนลอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะมีราคาที่แพงมากก็ตามที หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ชาแนลครองใจนักช็อปชาวจีนไม่ได้มีแค่การแต่งตั้งทูตชาวเอเชียอย่างเจนนี่จากวง BLACKPINK หรือว่าซุปเปอร์โมเดลชื่อดังอย่าง Liu Wen เท่านั้น แต่ชาแนลยังได้เปิดตัวกิจกรรมออฟไลน์ที่น่าตื่นเต้น เช่น ปาร์ตี้ดนตรีไฟฟ้าในเฉิงตูและนิทรรศการน้ำหอมครั้งแรกในเซี่ยงไฮ้
การขึ้นราคาของชาแนลยิ่งเป็นการตอกย้ำแบรนด์ดิ้งที่แข็งแกร่ง
และคงสถานะสูงสุดของการเป็นผู้เล่นแบรนด์แฟชั่นหรูหรา
ด้วยดีไซน์คลาสสิคเหนือกาลเวลา อัตลักษณ์ความเป็นแบรนด์ชนชั้นสูงกับ iconic item ที่สุดแสนพิเศษเป็นเทคนิคที่ทำให้กระเป๋ายอดนิยมของชาแนลนั้นมีค่าและกระตุ้นให้ผู้คนต้องรีบซื้อมันเสียตอนนี้ ก่อนที่มันจะขึ้นราคาอีกครั้ง
ในเมื่อลูกค้าที่ซื้อสินค้าของชาแนลไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงิน การกระตุ้นพวกเขาด้วยทริคการขึ้นราคานับว่าเป็นการสร้างความน่าตื่นเต้นพอๆกับเล่นหุ้น เพียงแต่ว่าหุ้นตัวนี้มีแต่จะพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆและจะไม่มีวันราคาตกเท่านั้นเอง หากจะเปรียบว่าเป็นดั่งกับของสะสมของคนรวยก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะชาแนลค่อนข้างมั่นใจว่าสินค้าของพวกเขานั้นเป็นที่ต้องการเพียงพอ ในขณะที่กรณีศึกษาของแบรนด์ Mulberry ที่ล้มเหลวในเกมราคา ก็เพราะว่าแบรนดิ้งไม่ได้แข็งแกร่งมากพอ แล้วความต้องการในสินค้ายอดนิยมของพวกเขาไม่ได้สูงถึงขนาดว่าจะทำให้ผู้กลุ่มลูกค้าเดิมจงรักภักดีกับแบรนด์ได้
แต่กับชาแนล พวกเขามีประวัติศาสตร์มามากกว่าร้อยปี และที่ผ่านมาพวกเขายังคงรักษามนต์ขลังและมนต์เสน่ห์ของแบรนด์ได้อย่างต่อเนื่องด้วยการรังสรรค์การดีไซน์ที่สะท้อนความคลาสสิคอันเป็นมรดกที่แข็งแกร่ง การวางตำแหน่งที่ถูกต้องแม่นยำในฐานะแบรนด์หรูระดับไฮเอนด์ เสริมด้วยผลิตภัณฑ์อันเป็นสัญลักษณ์ เช่น น้ำหอม Chanel No.5 และดีไซน์ที่เป็นดั่งภาพจำอย่างชุดสูททวีดและกระเป๋าหนัง แม้ว่าในแต่ละคอลเลกชั่นจะได้รับการคิดค้นใหม่ตามซีซั่นแล้วก็ตามที แต่สไตล์อันเป็นเอกลักษณ์เหล่านี้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งทำให้ชาแนลได้รับการยอมรับในระดับสากลและในความเป็นแบรนด์ที่คงความคลาสสิคแต่ก็มีความร่วมสมัย การขึ้นราคากระเป๋ารุ่นที่โดดเด่นของชาแนลจึงเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ เพราะไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี มูลค่ากระเป๋าของชาแนลมีแต่จะสูงขึ้นเหมือนกับสมบัติล้ำค่า
แต่การขึ้นราคาไม่ใช่สิ่งที่ทุกแบรนด์ก็ทำได้
และแบรนด์ระดับชาแนลก็มีขีดจำกัดในการเล่นเกมนี้เช่นกัน
ตัวอย่างของ Mulberry ที่ได้กล่าวข้างต้นคือตัวอย่างของการที่แบรนด์หรูคิดจะปรับราคาเพื่อเพิ่มมูลค่าให้สินค้าตัวเอง นอกจากจะทำให้เสียลูกค้า การฟื้นตัวหลังจากขาดทุนก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะกลับมาได้เช่นกัน
ในขณะที่ชาแนลจำเป็นต้องเล่นเกมนี้อย่างระมัดระวัง ตราบใดที่ชาแนลไม่ได้ยืนอยู่บนยอดพีระมิดของการเป็นแบรนด์แฟชั่นหรูหราเพียงคนเดียว มองไปรอบๆพวกเขาจะเจอทั้ง Hermès และ Louis Vuitton หากวันใดวันหนึ่งที่ชาแนลเล่นเกมราคาจนผู้บริโภครู้สึกว่าพวกเขาชักจะโลภมากเกินไป อีกไม่กี่สตางค์ก็สามารถเป็นเจ้าของกระเป๋า Hermès หรือว่าเครื่องหนังของ Louis Vuitton ได้แล้ว ผู้บริโภคเหล่านั้นก็คงจะไม่ลังเลใจที่จะย้ายไปหาคู่แข่งของพวกเขา
ซึ่งก็น่าติดตามว่าการเล่นเกมราคาของชาแนลจะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน แต่ถ้าหากว่ากระเป๋าของชาแนลยังคงเป็นที่ต้องการอยู่เรื่อยๆ เห็นทีเราอาจจะได้เห็นราคาของกระเป๋าของชาแนลแพงกว่าราคากระเป๋าของ Hermès ก็ได้ในสักวัน
1
โฆษณา