Play to Earn (P2E) อนาคตของเศรษฐกิจดิจิทัล และ Metaverse
อุตสาหกรรมเกมถือได้ว่าเป็นอุตสาหกรรมที่ที่น่าสนใจมากในช่วง 2 ถึง 3 ทศวรรษที่ผ่านมา โดยในปัจจุบันนั้นมีผู้เล่นเกมมากถึงประมาณ 3 พันล้านคนทั่วโลก และค่าเฉลี่ยของเวลาที่ผู้เล่นใช้ในการเล่เกมนั้นมากกว่า 8 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งมีผู้เล่นเพียงหยิบมือเท่านั้นที่สามารถทำรายได้จากการเล่นเกม และส่วนใหญ่ผู้เล่นเหล่านั้นก็มักจะเป็นนักกีฬา e-Sport ที่หารายได้จากการแข่งขัน รับสปอนเซอร์ และเงินเดือนจากการเป็นสมาชิกทีมแข่ง หรือเป็น Streamer ที่หารายได้จากการเล่นเกมและ Live ลงแพลทฟอร์มอย่าง Twitch หรือ YouTube Gaming
มูลค่าตลาดของอุตสาหกรรมเกมนั้นสูงถึง 3.36 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจแทบจะทุกส่วนของอุตสาหกรรมเกมนั้นล้วนแล้วถูกกำหนดหรือควบคุมโดยผู้ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลาง ซึ่งผู้สร้างสรรค์หรือผู้ผลิตต้องยอมเพื่อให้เกมหรือสินค้านั้น ๆ สามารถขายได้ นอกจากนี้ความสัมพันธ์ของผู้เล่นกับผู้สร้างนั้นยังคงเป็นความสัมพันธ์แบบทางเดียว กล่าวคือผู้สร้างเป็นผู้ได้เงิน ส่วนผู้เล่นก็เป็นเพียงผู้เล่นเพื่อความสนุก ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเปลี่ยนไปเมื่อเกมรูปแบบ Play to Earn เข้ามา
เกมรูปแบบ Play to Earn ก็คือ เกมที่ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อให้ผู้เล่นสามารถมีรายได้จากการเล่นเกมเป็นคริปโตเคอเรนซี (Cryptocurency), Non-Fungible Tokens (NFTs) หรือสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ซึ่งผู้เล่นสามารถเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลที่อยู่ในเกมและนำเอาออกมาขายได้ เกมรูปแบบนี้จึงถูกเรียกว่า Play to Earn ตัวอย่างของเกม Play to Earn ที่หลายคนรู้จักก็คือเกม Axie Infinity ที่สร้างขึ้นบนแพลทฟอร์มของ Ethereum
การสร้างรายได้จากเกม Play to Earn นั้นสามารถทำได้ 3 ช่องทางด้วยกัน โดยช่องทางแรกคือการได้รับคริปโตเคอเรนซีที่ใช้ในเกมที่มีมูลค่าในตัว ตัวอย่างก็คือเหรียญ Smooth Love Potion (SLP) ที่ได้รับจากการทำภารกิจและการต่อสู้ของเกม Axie Infinity ช่องทางที่สองคือการซื้อขาย NFTs ที่อยู่ในรูปแบบไอเทมที่ใช้ในเกม และช่องทางที่สามที่ได้มาจากการ Staking หรือก็คือการนำเหรียญหรือ NFTs มาเก็บไว้ใน Wallet หรือ Exchange ที่รองรับการ Stake เพื่อตรวจสอบธุรกรรม ซึ่งบางเกมมีการอนุญาตให้ผู่เล่นสามารถ Stake เหรียญหรือ NFTs และจะได้รับผลตอบแทนรางวัลที่อยู่ในรูปแบบไอเท็มในเกม ตัวอย่างเช่น การ Stake MBOX tokens แล้วผู้เล่นจะได้รับ MOMO NFT Mystery Boxes ที่ข้างในจะมี NFT ที่มีระดับความหายากที่แตกต่างกัน นี่ถือเป็นเศรษฐกิจที่เกิด
Play to Earn นั้นไม่ได้เกี่ยวข้องเพียงแค่อุตสาหกรรมเกมเพียงอย่างเดียว แต่ยังเปลี่ยนวิธีการปฏิสัมพันธ์กับโครงสร้างเศรษฐกิจสังคม (Socioeconomic) แบบดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการเงิน ตลาด หรือแม้กระทั่งภาครัฐ อีกด้วย เพราะการเข้ามาของเทคโนโลยีนี้ทำให้เราได้เห็นถึงระบบการเงินที่ไม่ต้องมีตัวกลาง เศรษฐกิจของผู้สร้างสรรค์ (Creator Economy) ที่เปิดกว้าง การเล่นเกมที่สามารถสร้างรายได้ได้แม้จะไม่ได้เป็นนักแข่งหรือ Streamer และการเกิดขึ้นของคุณค่าใหม่ ๆ ที่สังคมได้สร้างขึ้นมา และการเข้ามาของ Metaverse นั้นจะยิ่งพัฒนาประสบการณ์ในการเล่นเกมไปอีกขั้น เพราะ Metaverse นั้นคือโลกเสมือนที่เราสามารถเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัล และสามารถซื้อ-ขายได้
แม้ปัจจุบันเกม Play to Earn จะยังคงได้รับความนิยมเฉพาะกลุ่ม แต่ในอนาคตนั้นเกม Play to Earn จะได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น เพราะเป็นวิถีใหม่ในการสร้างรายได้ และจะกลายเป็นระบบเศรษฐกิจใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นในอนาคต นอกจากนี้การที่ Metaverse ได้เข้ามาเป็นกระแสที่ผู้คนพูดถึง ยิ่งเป็นตัวเร่งให้เกม Play to Earn ที่มีคุณภาพสูงเกิดขึ้นได้
Trendmizi คลังเทรนด์ออนไลน์เพื่อการพัฒนาแบรนด์และธุรกิจ โดยศูนย์วิจัยเทรนด์และคอนเซ็ปต์แห่งอนาคต Baramizi Lab
#Trendmizi
#คลังเทรนด์ออนไลน์
#trend
ที่มา
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
