30 พ.ย. 2021 เวลา 09:49 • สิ่งแวดล้อม
รัฐโอเรกอน (Oregon) 1 ในรัฐของเมืองหลวงพอร์ทแลนด์ (Portland) ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นรัฐที่ถูกโอบล้อมไปด้วยความหลากหลายทางธรรมชาติ และมีภูมิทัศน์ที่สวยงาม ทั้งป่าเขาและชายฝั่งทะเล เช่น เทือกเขา Wallowa, Lost Lake, อนุสรณ์สถานแห่งชาติ John Day Fossil Beds เป็นต้น เพราะความเป็นธรรมชาติของที่นี่จึงทำให้ผู้คนหลงไหล มาแล้วมาอีกเสมอ ภายในเมืองก็ประกอบด้วยร้านรวงมากมาย ทั้งร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ หรือแม้แต่ร้านขายกัญชา หลายคนคงสงสัยว่าเอ๊ะทำไมที่นี่ถึงมีร้านค้าขายกัญชาได้อย่างเสรีล่ะ? มาคลายข้อสงสัยนี้ไปพร้อมๆกัน เมื่อปีที่ผ่านมาราคาของกัญชานั้นตกอย่างน่าตกใจ เลยตัดสินใจขายเพื่อแลกกับ Carbon Credit ซึ่งได้ราคาดีกว่าการขายกัญชาที่ราคานั้นกำลังตก
ปัจจุบันกัญชา เป็นพืชที่ทุกคนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก แม้หลายคนก็ยังมองว่ามันคือยาเสพติดให้โทษชนิดหนึ่ง แต่รู้มั้ยว่าสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างมากมาย ทั้งทางสันทนาการและทางการแพทย์อีกด้วย แม้กัญชาจะถูกให้ใช้งานได้อย่างถูกกฏหมาย แต่ในแต่ละประเทศก็มีขอบเขตและข้อกำหนดในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป
ประเทศแรกที่สามารถใช้กัญชาได้อย่างเสรีคือ อุรุกวัย เมื่อปี 2014 ตามด้วยประเทศแคนาดา และประเทศอื่นๆ ส่วนประเทศสหรัฐอเมริกา อย่าง
รัฐโอเรกอนแห่งนี้ ก็มีการอนุญาตให้ใช้กัญชาได้ทั้งในทางสันทนาการและทางการแพทย์ ประชาชนสามารถครอบครองได้โดยถูกกฎหมาย มีผลตั้งแต่ 1 ก.ค. ปี 2015 ซึ่งขณะนี้เป็นระยะเวลา 6 ปีกว่าแล้ว โดยมีข้อกำหนดในทางกฏหมายดังนี้
ผู้ซื้อและผู้เสพจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 21 ปี
มีการตรวจสอบบัตรประจำตัวทุกครั้งในการซื้อ
สามารถซื้อกัญชาแห้งไม่เกินคนละ 1 ออนซ์ หรือ 28 กรัมต่อวัน
สามารถปลูกต้นกัญชาครัวเรือนละไม่เกิน 4 ต้น
ร้านขายกัญชาจะต้องตั้งห่างจากสถานศึกษาไม่น้อยกว่า 300 เมตร
ห้ามเสพกัญชาในพื้นที่สาธารณะหรือขณะขับรถ หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุก พักใบอนุญาตขับขี่ และปรับในอัตรา 1,000 เหรียญสหรัฐ (ราวๆ 33,730 บาท)
เมื่อเดินไปตามเขตเมืองพอร์ทแลนด์ของรัฐแห่งนี้ ก็จะพบกับร้านขายกัญชาทั้งรายใหญ่ รายเล็ก มากกว่า 200 ร้านค้า เอาใจสายเขียวสายยิ้มกันเลยทีเดียว ที่สำคัญไม่ได้พบแค่เพียงในร้านขายยาเท่านั้น แต่มีผู้ประกอบการไม่น้อยนำกัญชาไปคิดค้นดัดแปลงให้เกิดเป็นความหลากหลายทางธุรกิจ เช่น
ร้านขายตั้งแต่กัญชาไปจนถึงอุปกรณ์การสูบ
ร้านขายผลิตภัณฑ์จากกัญชา เช่น คุ๊กกี้, ช็อกโกแลต, คัดเค้ก, เยลลี่ และลูกอม เป็นต้น
ร้านขายเครื่องดื่มผสมกัญชา ร้านกาแฟ
ภัตรคารหรือร้านขายอาหารที่นำกัญชามาเป็นส่วนผสมในการปรุง
โรงแรมต่างๆ ที่เปิดให้ใช้กัญชาได้
ทัวร์สูบกัญชากับคนดัง
เนื่องจากมีการแข่งขันที่สูงขี้น ผู้ประกอบการแต่ละร้าน จึงต้องคิดค้นกลยุทธ์ในการขายที่แตกต่างกันออกไป ทั้งจัดโปรโมชั่น, จัดแพ็คเกจ ลดแลกแจกแถม ทำให้ตอนนี้ธุรกิจด้านกัญชามีความเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
รัฐโอเรกอน (Oregon) 1 ในรัฐของเมืองหลวงพอร์ทแลนด์ (Portland) ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นรัฐที่ถูกโอบล้อมไปด้วยความหลากหลายทางธรรมชาติ และมีภูมิทัศน์ที่สวยงาม ทั้งป่าเขาและชายฝั่งทะเล เช่น เทือกเขา Wallowa, Lost Lake, อนุสรณ์สถานแห่งชาติ John Day Fossil Beds เป็นต้น เพราะความเป็นธรรมชาติของที่นี่จึงทำให้ผู้คนหลงไหล มาแล้วมาอีกเสมอ ภายในเมืองก็ประกอบด้วยร้านรวงมากมาย ทั้งร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ หรือแม้แต่ร้านขายกัญชา หลายคนคงสงสัยว่าเอ๊ะทำไมที่นี่ถึงมีร้านค้าขายกัญชาได้อย่างเสรีล่ะ? มาคลายข้อสงสัยนี้ไปพร้อมๆกัน เมื่อปีที่ผ่านมาราคาของกัญชานั้นตกอย่างน่าตกใจ เลยตัดสินใจขายเพื่อแลกกับ Carbon Credit ซึ่งได้ราคาดีกว่าการขายกัญชาที่ราคานั้นกำลังตก
ปัจจุบันกัญชา เป็นพืชที่ทุกคนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก แม้หลายคนก็ยังมองว่ามันคือยาเสพติดให้โทษชนิดหนึ่ง แต่รู้มั้ยว่าสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างมากมาย ทั้งทางสันทนาการและทางการแพทย์อีกด้วย แม้กัญชาจะถูกให้ใช้งานได้อย่างถูกกฏหมาย แต่ในแต่ละประเทศก็มีขอบเขตและข้อกำหนดในการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป
ประเทศแรกที่สามารถใช้กัญชาได้อย่างเสรีคือ อุรุกวัย เมื่อปี 2014 ตามด้วยประเทศแคนาดา และประเทศอื่นๆ ส่วนประเทศสหรัฐอเมริกา อย่าง
รัฐโอเรกอนแห่งนี้ ก็มีการอนุญาตให้ใช้กัญชาได้ทั้งในทางสันทนาการและทางการแพทย์ ประชาชนสามารถครอบครองได้โดยถูกกฎหมาย มีผลตั้งแต่ 1 ก.ค. ปี 2015 ซึ่งขณะนี้เป็นระยะเวลา 6 ปีกว่าแล้ว โดยมีข้อกำหนดในทางกฏหมายดังนี้
ผู้ซื้อและผู้เสพจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 21 ปี
มีการตรวจสอบบัตรประจำตัวทุกครั้งในการซื้อ
สามารถซื้อกัญชาแห้งไม่เกินคนละ 1 ออนซ์ หรือ 28 กรัมต่อวัน
สามารถปลูกต้นกัญชาครัวเรือนละไม่เกิน 4 ต้น
ร้านขายกัญชาจะต้องตั้งห่างจากสถานศึกษาไม่น้อยกว่า 300 เมตร
ห้ามเสพกัญชาในพื้นที่สาธารณะหรือขณะขับรถ หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุก พักใบอนุญาตขับขี่ และปรับในอัตรา 1,000 เหรียญสหรัฐ (ราวๆ 33,730 บาท)
เนื่องจากมีการแข่งขันที่สูงขี้น ผู้ประกอบการแต่ละร้าน จึงต้องคิดค้นกลยุทธ์ในการขายที่แตกต่างกันออกไป ทั้งจัดโปรโมชั่น, จัดแพ็คเกจ ลดแลกแจกแถม ทำให้ตอนนี้ธุรกิจด้านกัญชามีความเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วนอกจากจะเป็นการให้ประชาชนได้มีสิทธิเสรีภาพในการเลือกใช้แล้ว ตอนนี้กลับกลายเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการ และยังถือเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดภาวะโลกร้อน โดยการร่วมปลูกต้นไม้อีกด้วยเมื่อปี พ.ศ.2562 ประเทศไทย ก็ได้มีการปลดล็อคการใช้ประโยชน์จากกัญชาเช่นกัน เพื่อในทางการแพทย์และวิจัย รวมถึงสามารถนำมาประกอบอาหารได้ด้วย แต่ใช้ได้เฉพาะบางส่วนของกัญชาที่ไม่ใช่ยาเสพติดเท่านั้น และไม่สามารถใช้กัญชาในทางสันทนาการได้ รวมถึงหากประชาชนลักลอบปลูกก็จะต้องได้รับโทษทางกฎหมายคาดว่าหากมีการปลดล็อคกัญชาเพื่อการสันทนาการได้ ประเทศไทยจะมีการแข่งขันและการเติบโตทางด้านธุรกิจที่สูงขึ้น และไปได้ไกลกว่านี้แน่นอน
โฆษณา