[Bnomics] “ด่านสะเดา” หนึ่งในประตูสำคัญเชื่อมไทยกับคาบสมุทรมลายู อีกจุดผ่านแดนหนึ่งที่นับได้ว่าเป็นจุดผ่านแดนที่มีความสำคัญอันดับต้นๆ ของประเทศไทยก็คือ จุดผ่านแดนสะเดา ซึ่งเป็นหนึ่งในประตูหลักที่เชื่อมการเดินทา

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

2 ธ.ค. 2021 เวลา 11:18 • หุ้น & เศรษฐกิจ

“ด่านสะเดา” หนึ่งในประตูสำคัญเชื่อมไทยกับคาบสมุทรมลายู

อีกจุดผ่านแดนหนึ่งที่นับได้ว่าเป็นจุดผ่านแดนที่มีความสำคัญอันดับต้นๆ ของประเทศไทยก็คือ จุดผ่านแดนสะเดา ซึ่งเป็นหนึ่งในประตูหลักที่เชื่อมการเดินทางสัญจร การขนส่งสินค้าและแรงงานระหว่างประเทศไทยและมาเลเซีย อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในด่านศุลกากรที่นับได้ว่ามีมูลค่าการค้าชายแดนสูงที่สุดในประเทศอีกด้วย

ด้วยเหตุนี้ วันนี้ Bnomics จะพาทุกคนไปพูดคุยเกี่ยวกับจุดผ่านแดนสะเดา ประตูหลักที่เป็นหัวใจสำคัญที่เชื่อมไทยกับคาบสมุทรมลายูครับ

📌 ด่านสะเดา ประตูสำคัญของเศรษฐกิจการค้าชายแดนไทยกับมาเลเซีย

จุดผ่านแดนสะเดาที่อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา เป็นหนึ่งในจุดผ่านแดนที่มีความสำคัญมากที่สุดในบรรดาจุดผ่านแดนไทย-มาเลเซียทั้ง 9 แห่ง โดยเชื่อมกับจุดผ่านแดนเบกิตกายูฮีตัมของประเทศมาเลเซีย โดยถนนหลักที่วิ่งผ่านจุดผ่านแดนสะเดาก็คือ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม)

หรือหากเป็นถนนตามเครือข่ายทางหลวงสายเอเชีย (Asian Highway Network) ก็คือ ถนน AH2 ซึ่งเป็นเส้นทางยาวพาดผ่านหลายประเทศในเอเชียและเชื่อมต่อโครงข่ายโลจิสติกส์ไว้ด้วยกัน ตั้งแต่ ประเทศอิหร่าน ไปจนถึง เด็นปาซาร์ ประเทศอินโดนีเซีย

Asian Highway Network หมายเลข 2

ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้ด่านศุลกากรสะเดาเป็นด่านที่มีมูลค่าการค้าชายแดนมากที่สุดในด่านศุลกากรเชื่อมไทย-มาเลเซียทั้ง 4 แห่ง โดยจากข้อมูลของกรมการค้าต่างประเทศ ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2564 ที่ผ่านมา มีมูลค่าการค้าโดยรวมคิดเป็น 270,000 ล้านบาท คิดเป็นประมาณร้อยละ 70 ของการค้าชายแดนทั้งหมดระหว่างไทยกับมาเลเซีย

โดยสินค้าหลักที่มีการค้าขายกันระหว่างไทยและมาเลเซียก็จะมีตั้งแต่บรรดาสินค้าเกษตร อย่างเช่น ยางพารา และผัก ผลไม้ต่างๆ ที่มีเป็นสินค้าเศรษฐกิจในภาคใต้ของไทย

และอีกส่วนหนึ่งก็เป็นสินค้าประเภทอิเล็กทรอนิกส์ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า และคอมพิวเตอร์ ซึ่งไทยและมาเลเซียก็มีความเชื่อมโยงในห่วงโซ่การผลิตพอสมควร โดยมาเลเซียส่งออกส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นสินค้าต้นน้ำในห่วงโซ่อุปทานให้ไทย ในขณะที่ไทยก็ส่งออกเครื่องคอมพิวเตอร์ให้มาเลเซีย

นอกจากนี้ การเดินทางและขนส่งสินค้าผ่านด่านสะเดายังทำให้สามารถเดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆ ในคาบสมุทรมลายูได้โดยง่าย เนื่องจากเชื่อมโยงกับเส้นทางทางด่วนเหนือ-ใต้ของมาเลเซีย (North-South Expressway) ทำให้สามารถเดินทางไปยังท่าเรือเมืองปีนัง หรือรัฐทางใต้อย่างยะโฮร์บะฮ์รู และเดินทางเข้าสิงค์โปร์ได้อย่างสะดวก

📌 อนาคตของสะเดา สู่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสงขลา

และเมื่อปี 2558 รัฐบาลยังได้มีการประกาศให้พื้นที่ในอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ประกอบไปด้วย ตำบลสะเดา ตำบลสำนักขาม ตำบลสำนักแต้ว และตำบลปาดังเบซาร์ ให้เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสงขลาขึ้น โดยมีการวางแผนในการพัฒนาปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน รวมไปถึงด่านผ่านแดนต่างๆ ให้พร้อมรับการขนส่งสินค้าให้ได้มากยิ่งขึ้น เพื่อช่วยส่งเสริมการค้าชายแดน

ในขณะเดียวกัน ก็คือ การตั้ง Duty Free Zone และให้สิทธิประโยชน์ด้านมาตรการทางภาษีต่างๆ เพื่อจูงใจให้นักลงทุนเข้ามาตั้งฐานอุตสาหกรรมการผลิตได้อย่างเต็มที่ โดยมีจุดเด่นสำคัญคือ ระบบโลจิสติกส์ที่สามารถขนส่งสินค้าไปที่อื่นๆ โดยง่าย ทั้งผ่านเส้นทางหลวง AH2 หรือ Asian Highway หมายเลข 2 เอง หรือผ่านเรือขนส่งสินค้า ณ ท่าเรือสงขลา หรือท่าเรือปีนัง ก็ตาม

นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงการให้สนับสนุนด้านการจัดตั้งศูนย์บริการแรงงานต่างด้าวและการสร้างความร่วมมือ เรื่องการขนย้ายแรงงานที่สะดวกยิ่งขึ้นกับทางมาเลเซีย เนื่องจากเป็นหนึ่งในอีกหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจชายแดนเลยก็ว่าได้

ทั้งนี้ ในขณะที่ไทยได้วางแผนการพัฒนาเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษสงขลา ในฟากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย ก็กำลังพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษเช่นเดียวกัน โดยหนึ่งในนั้นก็คือเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนโกตาเปอร์ดานา (Kota Perdana Special Border Economic Zone) ซึ่งตั้งอยู่ติดกับด่านศุลกากรบูกิตกายูฮิตัม ซึ่งเชื่อมกับด่านสะเดาของประเทศไทย

Kota Perdana Special Border Economic Zone

โดยหนึ่งในโครงการแรกๆ ที่ทางมาเลเซียได้ดำเนินการบนเขตเศรษฐกิจพิเศษดังกล่าวก็คือการเร่งก่อสร้างศูนย์บรรจุและแยกสินค้าใกล้เคียงกับด่านบูกิตกายูฮิตัม ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการค้าชายแดนกับไทย ทั้งการถ่ายส่งสินค้ามายังท่าเรือปีนังและลดระยะเวลาของพิธีศุลกากรอีกด้วย

นอกจากนี้ ในบริเวณใกล้เคียงกัน แถวจุดผ่านแดนปาดังเบซาร์ ทางมาเลเซียก็กำลังพัฒนาเขตอุตสาหกรรมชูปิงแวลลีย์ (Chuping Valley Industrial Area) อีกด้วย ซึ่งจะมีทั้งพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมและท่าเรือบก ส่งผลให้การขนส่งสินค้าและกระจายสินค้าสะดวกยิ่งขึ้นไปอีก

Chuping Valley Industrial Area

เพราะฉะนั้น จะเห็นได้ว่าทั้งจากแผนพัฒนาเขตเศรษฐกิจของไทยเอง และแผนพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษและเขตนิคมอุตสาหกรรมของประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย จุดผ่านแดนสะเดา-บูกิตกายูฮิตัม จะยิ่งมีความสำคัญอย่างมาก

เพราะนอกจากจะเป็นเส้นทางหลักที่ใช้รองรับการค้าขายชายแดน และการสัญจรอยู่แล้ว แต่แผนพัฒนาพื้นที่ที่สองประเทศกำลังเร่งดำเนินการนั้นหมายถึง โอกาสทางเศรษฐกิจอีกมหาศาลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

นิคมอุตสาหกรรมที่กำลังถูกสร้างขึ้นในพื้นที่ชายแดนทั้งสองจะยิ่งเป็นการสร้างศักยภาพให้อุตสาหกรรมของทั้งสองประเทศมีการเชื่อมโยงเกี่ยวพันในห่วงโซ่อุปทานไปได้อีกไกล และยังเข้าถึงท่าเรือน้ำลึกได้โดยสะดวกยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นท่าเรือสงขลา ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งอ่าวไทย หรือท่าเรือปีนัง และท่าเรือปีนัง ซึ่งตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย

นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงเป็นหนึ่งในช่องทางสำคัญในการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ นักธุรกิจชาวไทย สามารถเข้าถึงตลาดที่ใหญ่ขึ้น มีผู้บริโภคอีกจำนวนมากในประเทศคาบสมุทรมลายู ตั้งแต่มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย อีกด้วย

#สะเดา #มาเลเซีย #Asian_Highway #อาเซียน #เศรษฐกิจอาเซียน #ASEAN_Corridor

#Bnomics #Economics #เศรษฐศาสตร์เป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน

ผู้เขียน : เอกศิษฎ์ น้าวิไลเจริญ Economist, Bnomics

ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics

▶︎ ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่

Website : https://www.bnomics.co

Facebook : https://www.facebook.com/Bnomics.co

Blockdit : https://www.blockdit.com/bnomics

Line OA : @Bnomics https://bit.ly/3eYkTJC

Youtube : https://www.youtube.com/bnomics

Twitter : https://twitter.com/bnomics_co

Bnomics - Bangkok Bank Economics