2 ธ.ค. 2021 เวลา 09:52 • บันเทิง
ตอนที่ 3 : มัน ใหญ่ มาก (ตอนที่ 2)
สืบเนื่องมาจากโพสต์ที่แล้ว ที่เล่าถึงการเปลี่ยนวงดนตรีในงานเทศกาลดนตรี เมื่อมีการเปลี่ยนวง ก็ต้องมีทีมงานในการเปลี่ยนวง
ในสมัย 20 กว่าปีก่อนที่ผมเริ่มทำงานใหม่ๆ นักดนตรีศิลปินที่เป็นวงยังเป็นคนแบกหิ้วอุปกรณ์เครื่องดนตรีด้วยตัวเอง ใครเล่นกีต้าร์ก็หิ้วกล่องกีต้าร์ ถุงใส่เอ็ฟเฟ็กต์มาเอง ใครตีกลองก็ถือแค่ไม้กลองมาเอง เพราะชุดกลองเป็นอุปกรณ์ชุดใหญ่ มีหลายชิ้น เอามาเองคงไม่ไหว ต้องใช้อุปกรณ์กลางที่เตรียมเอาไว้ให้
พอถึงพื้นที่จัดงาน ก็จะมีทีมงาน Back Stage ของ Concert Organizer เป็นผู้รับอุปกรณ์เหล่านั้นมา set up บนเวทีให้อีกที เมื่อต้องขึ้นเวทีก็ได้ทีมงาน Back Stage นี่แหละเป็นผู้ดูแลทางเทคนิคบนเวทีให้ ไม่ว่าจะเป็นการประสาน sound engineer ในเรื่องการปรับเสียงต่างๆ ให้นักดนตรีได้ยิน การจดมาร์คปุ่มปรับเสียงบนตู้กีต้าร์ให้ ซึ่งก็ทำกันง่ายๆ โดยการติดเทปกระดาษกาวเป็นแถบยาวๆ ตามหน้ากว้างของตู้กีต้าร์ แล้วก็เขียนเป็นวงกลมตามตำแหน่งของปุ่มปรับเสียงต่างๆ ถ้ามี 6 ปุ่ม ก็เขียน 6 วง แล้วก็มาร์คขีด ตามตำแหน่งที่นักดนตรีเค้าปรับไว้ ซึ่งเรามักจะเรียกเลขตามหน้าปัดนาฬิกา เช่น ปุ่มเสียงสูง ปรับไปที่ 10 โมง ปุ่มเสียงกลางปรับไปที่บ่ายโมง
เมื่อ sound check วงแรกเสร็จ ก็ลอกเทปกระดาษกาวแผ่นนี้ออก ไปติดแอบๆ ไว้ซักที่หนึ่ง เรียงกันไปทุกวง พอถึงเวลาแสดงจริง ก็เอาแผ่นเทปกระดาษกาวนี้ มาติดลงไปบนตู้กีต้าร์ แล้วก็ปรับปุ่มต่างๆ ให้ตรงตามมาร์คที่เขียนไว้ ทำอย่างนี้ไปจนครบทุกวง เป็นไงล่ะครับ อะนาล็อคสุดๆ
เมื่อเวลาผ่านไป ศิลปินนักดนตรีเริ่มมีผู้ช่วย ช่วยยกของ ช่วยหิ้วอุปกรณ์ ช่วย set up เครื่องดนตรี ซึ่งสมัยนั้นจะเรียกกันว่า เด็กวง เด็กวงจะทำงานประสานกับทีม Back stage กลางอีกที แต่หน้าที่การประสานทางเทคนิคในช่วงซ้อม sound check หรือในระหว่างโชว์ก็ยังเป็นหน้าที่หลักของ Back stage อยู่ดี
เมื่อเด็กวงที่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของวงดนตรีศิลปินนั้นๆ นานวันขึ้น ก็เริ่มมีทักษะ มีความสามารถมากขึ้น นอกจากหน้าที่ยกของ set up เครื่องดนตรีแล้ว พวกเขายังมีความรู้ ความสามารถทางเทคนิคมากขึ้น ประกอบกับในช่วงเวลาที่นักดนตรีมีอุปกรณ์เครื่องดนตรีเป็นของตัวเอง ก็จะได้พวกเขาเหล่านี้ เป็นผู้ดูแลอุปกรณ์ทุกชิ้น เป็นผู้ set up อุปกรณ์ด้วยตัวเอง ทีมงาน Back stage กลางก็จะทำหน้าที่แค่เป็นผู้คอยสนับสนุนในสิ่งที่ขาดเหลืออีกที ซึ่งในช่วงเวลานี้เองคำว่าเด็กวง ได้หายไป ชื่อเรียกของพวกเขาคือ Technician (เทคนิเชี่ยน) หรือเรียกสั้นๆ ว่า Tech (เธค) ในช่วงแรกๆ วงดนตรีแต่ละวงก็จะมีเธคกันประมาณ 2-3 คน ที่ดูแลเครื่องดนตรีทั้งวง
แต่ในปัจจุบันนี้ วงดนตรีศิลปินส่วนมากจะมีเธคครบตำแหน่งนักดนตรี ถ้าวงมีสมาชิก 5 คน ก็จะมีเธค 5 คน และยังมี sound engineer ประจำวงอีก 1 หรือ 2 คน โดยที่ความสามารถของเธคทั้ง 5 คนนี้ ไม่ใช่แค่ set up เครื่องดนตรีได้เท่านั้น แต่ทั้ง 5 คนนี้ยังสามารถเล่นดนตรีได้ครบทั้งวงอีกด้วย ในเวลาการ sound check ถ้าสมาชิกตัวจริงของวงไม่ได้มา sound check ด้วยตัวเอง ก็จะเป็นหน้าที่ของเธคทั้ง 5 คนนี้แหละที่จะเล่นดนตรีเป็นเพลงๆ และหลายๆ เพลงให้ sound engineer ได้ปรับแต่งเสียงต่างๆ แทนนักดนตรีศิลปินตัวจริงอีกด้วย
ฝีมือของพวกเขาเหล่านั้นถือว่าไม่เบาเลยทีเดียว งานเทศกาลดนตรีบางงาน ในช่วงเวลา sound check ไม่มีศิลปินตัวจริงมาเองเลย ผมจึงได้ฟังฝีมือของเธคเหล่านี้ครบทุกวง ผมเคยมีความคิดว่า น่าจะมีใครซักคนจัดการประกวด Technician Music Award ขึ้นมา แล้วเชิญศิลปินตัวจริงมาเป็นกรรมการ ก็คงจะสนุกดี บางทีเราอาจจะมีศิลปินหน้าใหม่จากงานประกวดนี้ก็ได้นะ
โฆษณา