2 ธ.ค. 2021 เวลา 15:52 • หนังสือ
📚วรรณกรรมแปลร่วมสมัย
มหัศจรรย์ห้องสมุดเที่ยงคืน
The Midnight Library
มหัศจรรย์ห้องสมุดเที่ยงคืน
“ วิธีเดียวที่จะเรียนรู้ คือการได้ใช้ชีวิตนั้น “
🍀🍀🍀
“ การทำสิ่งหนึ่งแตกต่างออกไป ก็มักจะเหมือนกับการทำทุกอย่างแตกต่างออกไป เราไม่สามารถย้อนกลับการกระทำของเราได้ในช่วงชีวิตหนึ่ง ไม่ว่าเราจะพยายามมากแค่ไหนก็ตาม… ”
“ ทุกชีวิตล้วนมีการตัดสินใจหลายล้านเรื่อง ใหญ่บ้าง เล็กบ้าง แต่ทุกครั้งที่การตัดสินใจอีกแบบหนึ่งถูกเลือกแทนอีกแบบหนึ่ง ผลลัพธ์ที่ได้จะแตกต่างกันออกไป การเปลี่ยนแปลงที่ไม่อาจแก้ไขได้จะเกิดขึ้น ซึ่งมันนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ผกผันขึ้นไปอีก หนังสือเหล่านี้คือประตูสู่ทุกชีวิตที่เธออาจมีได้ “
“ ความเศร้าเสียใจนั้นเป็นเนื้อแท้ส่วนหนึ่งของโครงสร้างแห่งความสุข คุณไม่อาจมีสิ่งหนึ่งโดยปราศจากอีกสิ่งหนึ่งได้ แน่นอนว่าพวกมันมาในระดับและในปริมาณที่แตกต่างกัน แต่ไม่มีชีวิตไหนที่คุณจะมีความสุขอย่างแท้จริงได้ตลอดไป การคิดแบบนั้นมีแต่จะเพิ่มความทุกข์มากขึ้นในชีวิตที่คุณกำลังอยู่ “
นับว่าเป็นวรรณกรรมแปลร่วมสมัยที่เข้ากับยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ในโลกที่ผู้คนต่างเปลี่ยวเหงาเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่ต้องเผชิญอย่างเลี่ยงไม่ได้ ความยากลำบากของชีวิตในแต่ละวัน หรือกระทั่งอดีตที่รั้งเราไว้ด้วยความเสียใจซึ่งอยากจะกลับไปแก้ไข จะเป็นอย่างไร ถ้าเราได้พบกับห้องสมุดสุด(ลับ)มหัศจรรย์ ที่พร้อมจะมอบชีวิตใหม่ คุณ(เรา)จะทำอะไรที่ต่างออกไปไหม หากมีโอกาสแก้ไขสิ่งที่เคยเสียใจอีกครั้ง
นอรา ซีด หญิงสาววัย 35 ปี ตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง จากโรคซึมเศร้าและความผิดหวังที่สั่งสมมานาน หลังจากกินยาเกินขนาดเพื่อปลิดชีพ ระหว่างที่สติหลุดลอยในระหว่างความเป็นกับความตาย นอราก็มาอยู่ที่ห้องสมุดเที่ยงคืนแล้ว โดยไปเจอกับบรรณารักษ์ที่โรงเรียนเก่าคือมิสซิสเอล์ม คอยไกด์เธอผ่านห้องสมุดแห่งนี้ นอราพบว่ามันเต็มไปด้วยความพิศวง เพราะห้องสมุดยาวไม่มีที่สิ้นสุดและหนังสือแต่ละเล่มในนั้นล้วนบันทึกเกี่ยวกับ ‘ความเศร้าเสียใจ’ ของเธอแต่ละเรื่องไว้ภายในหนังสือหนึ่งเล่ม และนั่นคือชีวิต ๆ หนึ่งเส้นทางที่ต่างไป
สิ่งที่พิเศษของห้องสมุดนี้ ก่อนที่เธอจะก้าวผ่านช่วงเวลาที่เธอต้องการคือ ‘ความตาย’ เธอจะได้เลือกชีวิตที่เต็มไปด้วยความเศร้าเสียใจและอยากกลับไปแก้ไข และเพื่อดูว่าชีวิตไหนที่เธออยากจะใช้มากที่สุด ในทุก ๆ ความเป็นไปได้ของชีวิตของเธอเอง
ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขเรื่องที่เกือบจะลงเอยด้วยการแต่งงานกับคนรักเก่า จะเป็นยังไงหากเธอใช้ชีวิตกับเขา, เรื่องที่เธออาจจะเป็นแชมป์ว่ายน้ำโอลิมปิก ชีวิตเธอจะเป็นแบบไหนด้วยการเลือกเส้นทางนี้, หรือจะเป็นนักวิทยาธารน้ำแข็ง เป็นร็อคสตาร์ก้องโลก เป็นผู้ดูแลสัตว์ หรือการเป็นแม่คน และเป็นแบบอื่น ๆอีกพันล้าน นอราจะสามารถกลับไปแก้ไขและเลือกเส้นทางเดินที่ต่างออกไปจากที่เป็นอยู่และลงหลักปักฐานในชีวิตที่คิดว่าดีที่สุดได้เช่นนั้นหรือเปล่า
หากชีวิตแต่ละเส้นทางที่เธอเลือก ถ้าหากว่ามันเต็มไปด้วยความผิดหวัง เธอจะกลับมาที่ห้องสมุดแห่งนี้ และทดลองเลือกใช้ชีวิตที่พอใจใหม่อีกครั้ง แล้วกี่ครั้งกันที่เธอจะพึงพอใจกับชีวิตที่เลือก? มันจะมีชีวิตที่มีความสุขมากกว่านี้ไปอีกไหม?
The Midnight Library by Matt Haig
แต่สุดท้ายแล้ว... เราคงต้องค้นหาชีวิต ช่วยลุ้นร่วมกับนอราในแต่ละหนังสือแห่งความเศร้าเสียใจไปกับเธอ และการตัดสินใจแบบไหน ที่มาจากสิ่งเล็ก ๆ ที่เราไม่ควรละเลย ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงชีวิตไปอย่างมหาศาล
ซึ่งต้องบอกว่าหนังสือเขียนโดยนักเขียนที่เผชิญกับโรคซึมเศร้า เป็นเจ้าของหนังสือดัง Reason to stay alive ที่เกี่ยวกับประสบการของโรคซึมเศร้าด้วย ต่างกันที่ในหนังสือเล่มนี้เขาหยิบจับตัวละครมาบอกเล่าความเศร้าเสียใจและและถ่ายทอดความต้องการที่จะมีชีวิตที่ต่างจากชีวิตเดิมอย่างเต็มเปี่ยมและพาเราจินตนาการพร้อมทั้งลุ้นไปกับนอราท่ามกลางหนังสือแห่งความเศร้าเสียใจที่มากมายเหลือเกิน
สำหรับแอดมิน คิดว่าเป็นหนังสือวรรณกรรมที่ทำให้เราตระหนักถึงคุณค่า ความงดงามและแก่นแท้ของชีวิตอย่างค่อนข้างทะลุปรุโปร่ง ว่าที่เราเป็นอยู่ ณ ปัจจุบันนี้ เราไม่จำเป็นต้องค้นหาความหมายของชีวิตก็ได้ เพียงแต่ต้องใช้ชีวิตเท่านั้นเอง แล้วจะเห็นว่าระหว่างทาง ไม่มีชีวิตไหนในเวอร์ชันอื่น ๆ ของเราดีไปมากกว่าหรือย่ำแย่น้อยกว่านี้ และเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เจอความเศร้าเสียใจอยู่ในนั้นสักนิด เรียกว่าเป็นหนังสือที่ฮีลใจได้ดีจริง ๆ และเป็นสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นภายในปีนี้
สำหรับใครที่กำลังทุกข์ใจหรือแบกความเศร้าเสียใจมาโดยตลอด หนังสือเล่มนี้อาจช่วยชุบชูจิตวิญญาณและหัวใจที่บอบช้ำให้คุณได้ อย่างน้อย ๆ ก็มีหนังสือที่คอยถ่ายเทความรู้สึกหนักอึ้งลงได้นะคะ เป็นกำลังใจให้นักอ่านทุกท่าน ผู้ติดตาม และผู้ที่เข้ามาอ่านบล็อกนี้ค่ะ 🍀
บางทีชีวิตก็แค่นี้จริง ๆ นะ You don't have to understand life, you just have to live it.
นักเขียน : แมตต์ เฮก (Matt Haig)
นักแปล : วรรธนา วงษ์ฉัตร
สำนักพิมพ์ : Beat
โฆษณา