4 ธ.ค. 2021 เวลา 01:30 • คริปโทเคอร์เรนซี
“ถึงเวลาแล้วที่เกาหลีใต้จะยอมรับ BITCOIN และสินทรัพย์ดิจิตอล เราจำเป็นต้องศึกษาวิธีที่จะยอมรับ สินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้เป็น ‘ความรู้’ ในตลาดทุน”
4
นับเป็นการพูดที่ชัดเจนของ Son Byung-doo ประธานตลาดหลักทรัพย์เกาหลีใต้ หรือ Korea Exchange (KRX) ที่กล่าวในเวทีการประชุมนานาชาติ Global ETP Conference ปี 2021 ที่กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี ถึงการที่ประเทศจะต้องก้าวไปสู่การยอมรับต่อสินทรัพย์ดิจิทัลทั้ง บิตคอยน์ และคริปโตเคอเรนซี อื่นๆ ได้เสียที
“ถึงเวลาสำรวจวิธีที่จะยอมรับบิตคอยน์ และสินทรัพย์ดิจิทัล เราจำเป็นต้องศึกษาวิธีที่จะยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อเป็น องค์ความรู้ ในตลาดทุน”
นอกจากนี้ยังกล่าวถึงความคล้ายคลึงกันระหว่างบิตคอยน์ กับตลาดทุนแบบดั้งเดิม และเรียกร้องให้มีการคุ้มครองนักลงทุนและหามาตรการเพื่อความมั่นคงของการทำธุรกรรม
ปัจจุบันเกาหลีใต้มีจำนวนผู้ที่ลงทุน ครอบครอง และซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้ใช้มากกว่า 5 ล้านคน แม้ว่าหน่วยงานด้านการเงินของประเทศจะรักษาจุดยืนที่ว่า บิตคอยน์อยู่นอกขอบเขตการเงิน แต่ปริมาณการเทรดรายวันของสกุลเงินดิจิทัลก็มีมูลค่าสูงถึง 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 4.05 แสนล้านบาท และกำลังไต่ระดับเพื่อให้เข้าใกล้กับมูลค่าการซื้อขายในดัชนีคอมโพสิตของเกาหลีตลาดหุ้นเกาหลี (KOSPI) ที่ 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 5.41 แสนล้านบาท
1
“เนื่องจากสินทรัพย์ดิจิทัลกลายเป็นสินทรัพย์เพื่อการลงทุนหลักไปแล้ว จึงถึงเวลาต้องเตรียมกรอบการทำงานของทางหน่วยงาน ซึ่งตอนนี้เป็นเวลาสำหรับการพัฒนาแพล็ตฟอร์มการเทรดเพื่อให้แข่งขันโดยตรงกับแพล็ตฟอร์มในต่างประเทศ”
ประธาน KRX สังเกตเห็นความต้องการของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นสำหรับการลงทุนในบิตคอยน์ในประเทศ และกำลังมองหาวิธีที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเปิดรับกลุ่มสินทรัพย์ดิจิทัล หากเกาหลีใต้ไม่มีมาตรการรองรับที่เพียงพออาจทำให้นักลงทุนหนีไปลงทุนที่อื่นแทน
1
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังของเกาหลีใต้ได้ประกาศการตัดสินใจชะลอแผนการเก็บภาษีกำไรจากสกุลเงินดิจิทัล จากการแก้ไขที่ได้รับอนุมัติโดยคณะกรรมการการเงินของรัฐสภาเกาหลีใต้ในกฎหมายภาษีคริปโต ซึ่งกำหนดให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2565 โดยเลื่อนออกไปเป็นเวลา 1 ปี
5
โดยการเก็บภาษีจากผลกำไรจากได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากจะมีการจัดเก็บภาษีสูงถึง 20% สำหรับกำไรจากสินทรัพย์ดิจิทัลมากกว่า 2,100 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 74,000 บาท จากนักลงทุนสกุลเงินดิจิทัล เป็นผลให้นักลงทุนยื่นคำร้องประณามแผนรีดภาษีสุดโหดดังกล่าว
2
ทั้งการคัดค้านมีเหตุผลหลักๆ สองประการคือ ประการแรก นักลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลถูกเก็บภาษีมากกว่านักลงทุนในตลาดหุ้น โดยกำไรจากหุ้นจะเริ่มจ่ายภาษีก็ต่อเมื่อมีกำไรมากกว่า 42,450 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.43 ล้านบาท แต่กำไรจากคริปโตฯ กลับต้องเริ่มจ่ายภาษีเมื่อได้กำไรเพียง 2,100 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 74,000 บาท เท่านั้น นอกจากนี้ภาษีคริปโตฯ ยังถูกกำหนดให้มีผลบังคับใช้ 1 ปีก่อนหน้าภาษีกำไรจากหุ้นอีกด้วย
ประการที่สอง หน่วยงานไม่เคยมีการออกมาตรการใดๆ มาดูแล อำนวยความสะดวก หรือช่วยเหลือป้องกันสำหรับนักลงทุนในคริปโตฯ เลยดังนั้น ในเมื่อไม่ช่วย ยังจะมาขูดรีดเอาแบบดื้อๆ นักลงทุนคริปโตฯ มองว่าการเก็บภาษีนี้ไม่สมเหตุสมผล
╔═══════════╗
ไม่พลาดบทความสาระดีๆ ที่ Reporter Journey ตั้งใจสร้างสรรเพื่อผู้ติดตามทุกท่าน อย่าลืมกดติดตามเพจ ติดตาม Reporter Journey ได้ทุกช่องทางที่
╚═══════════╝
.
ติดตาม Reporter Journey ได้ทุกช่องทางที่
โฆษณา