"แม่กำปอง" ในมุมมองใหม่ที่ใกล้ชิดธรรมชาติยิ่งขึ้น
อากาศเย็นๆแบบนี้ สถานที่เรามักจะนึกถึงคือ ยอดดอย ภูเขา ต้นไม้ วิวพระอาทิตย์สวยๆในวันหยุด ได้ชาร์ตพลังงานและสูดอากาศบริสุทธิ์
"บ้านแม่กำปอง จ.เชียงใหม่" น่าจะเป็นจุดหมายปลายทางของหลายๆคนที่อยากจะไปดื่มด่ำบรรยากาศและรับลมหนาวซักครั้ง แต่ก็อาจไม่ได้เสพความสุนทรีย์และธรรมชาติอย่างเต็มที่ เพราะความวุ่นวายของแม่กำปองในวันหยุดยาว
2 ปีที่แล้วผมมีโอกาสเดินทางไปที่หมู่บ้านแห่งนี้ และอยากจะลองเปลี่ยนมุมมองใหม่ของการเที่ยวที่แม่กำปองดูครับ
ผมเช่ามอเตอร์ไซค์จากเชียงใหม่เพื่อเดินทางไปยังแม่กำปองในช่วงเช้าที่อากาศยังไม่ร้อนนักและพยายามเลือกเส้นทางที่พอมีต้นไม้ให้ได้หลบแสงแดดบ้าง
ถ้ำเมืองออน
ไม่เกิน 2 ชั่วโมงของการเดินทางแบบไม่เร่งรีบ แวะพักดื่มกาแฟและชมถ้ำเมืองออนระหว่างทางเพื่อผ่อนคลายก็ทำให้เพลินไปได้ตลอดทาง
ถึงแม่กำปองผมเลือกกางเต็นท์ริมแม่น้ำต่างจากคนส่วนใหญ่ที่เข้าพักโฮมสเตย์ แต่ก็ไม่ได้แปลกอะไรเพราะคนที่เลือกแบบนี้ก็ไม่น้อย ข้อดีคือไม่แออัดวุ่นวายเหมือนในตัวหมู่บ้าน
ตั้งเต็นท์เสร็จ งีบหลับเอาแรงซักพักก่อนออกตามหาร้านกาแฟและมื้อเที่ยงในหมู่บ้านที่ห่างออกไปประมาณ 2 กิโลเมตร
กินข้าวเสร็จแวะไหว้พระ ชมอุโบสถกลางน้ำไฮไลต์ของหมู่บ้านแห่งนี้ที่มีเสน่ห์และมนต์ขลังไม่เหมือนที่ใด ก่อนขี่สองล้อคู่ใจขึ้นไปยังคาเฟ่ที่ปักหมุดเอาไว้
อุโบสถกลางน้ำ วัดแม่กำปอง
การได้นั่งจิบกาแฟจากเมล็ดที่ถูกปลูกและคั่วโดยชาวแม่กำปองแท้ๆ พร้อมกับการนั่งชมบรรยากาศของหมู่บ้านจากมุมสูงและรับลมเย็นๆ ช่างเป็นความรู้สึกที่ผ่อนคลายเหมือนได้เติมเต็มพลังชีวิตอีกครั้ง
บ้านแม่กำปอง จากมุมสูง
ผมจัดการมื้อเย็นที่หมู่บ้านแม่กำปอง ก่อนกลับลงไปลานกางเต็นท์เพื่อพักผ่อนในคืนแรกของที่นี่
วันที่ 2 ลองเปลี่ยนเส้นทางไปแถวแม่ลายที่อยู่ไม่ไกลกัน เส้นทางนี้มีคาเฟ่น่ารักๆอย่าง "อุตสาชงที่บ้าน" ให้แวะพักชมบรรยากาศ และปลายทางก็มี "The Giant" คาเฟ่กลางต้นไม้ใหญ่ให้ได้แวะชม
ร้านกาแฟเดอะไจแอนท์
ร้านกาแฟอุตสาชงที่บ้าน
แต่คืนนี้ผมตัดสินใจเปลี่ยนที่พักขึ้นไปกางเต็นท์บน "กิ่วฝิ่น" เป็นลานกางเต็นท์ของหน่วยพิทักษ์ป่าดอยล้าน ที่ต้องเดินทางผ่านหมู่บ้านแม่กำปองขึ้นเขาไปอีก 4 กิโลเมตร
เส้นทางค่อนข้างสูงชันและขับลำบาก แต่ถนนก็อยู่ในสภาพดีพอที่จะบิดสองล้อขึ้นไปได้ ที่นี่เงียบสงบมากและดูเหมือนว่าคืนนี้จะมีเต็นท์ผมเพียงหลังเดียว
อาหารการกินต้องเตรียมขึ้นมาเอง ส่วนห้องน้ำมีบริการและมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก 1 คน ผมกางเต็นท์เสร็จตั้งแต่ 4 โมงเย็นและงีบพักชั่วครู่ก่อนที่ช่วงเย็นจะขึ้นไปชมวิวที่กิ่วฝิ่น
ฟ้าเริ่มมืดก็กลับลงมายังเต็นท์ที่กางโดดเดี่ยวอยู่หลังเดียว จุดนี้ไม่มีคลื่นโทรศัพท์และไม่มีกิจกรรมอะไรให้ทำ ผมจึงอาบน้ำทำธุระส่วนตัวเพื่อเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำ และตั้งเวลาปลุกตอนเช้าเพื่อให้ทันออกไปชมพระอาทิตย์ขึ้น
หมอกตอนเช้าค่อนข้างหนาแต่พอแสงเริ่มมา ความสวยงามก็บังเกิด ได้นั่งดูแสงสวยๆ มีลมเย็นพัดผ่านแบบนี้มันดีจริงๆ ผู้คนส่วนใหญ่เดินทางขึ้นมากันตอนเช้าเพื่อชมวิวที่นี่ นับเป็นอีกจุดชมพระอาทิตย์ที่สวยงามและประทับใจสำหรับผมครับ
จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น กิ่วฝิ่น
และทั้งหมดคือ "แม่กำปอง" ในมุมมองใหม่ที่ใกล้ชิดธรรมชาติยิ่งขึ้น หวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้หลายคนได้ลองหาเส้นทางใหม่ในสถานที่เดิมๆที่คุ้นเคย คุณจะพบว่ายังมีเรื่องราวและสิ่งที่น่าค้นหาอยู่เสมอครับ
- 3
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
