5 ธ.ค. 2021 เวลา 06:33 • หุ้น & เศรษฐกิจ
📍 Crypto ก็มีหลาย Asset Class นะครับ 🥲
ผมมองสินทรัพย์คริปโตบน DeFi เป็นหลาย Asset Class
1. Crypto ที่เหมือนกับธุรกิจ
ในกรณีนี้คือ Crypto ที่เป็น Gov Token ของ DeFi protocol ที่เหมือนกับธุรกิจเช่น Banking, Dex, Asset Management ในกรณีแบบนี้ เราสามารถประเมินมูลค่าของ Crypto นี้ได้ในรูปแบบเดียวกับการประเมินมูลค่าธุรกิจในโลก traditional เช่น ผมหา P/E ของ Crypto กลุ่มนี้ด้วย Market Cap/Net Profit ตัวอย่างเหรียญกลุ่มนี้ เช่น MKR, MIR, ANC, DOP, WARDEN, COMP, UNI, AAVE
2. Crypto ที่เหมือนทองคำ
1
ในกรณีนี้คือ Bitcoin ที่ไม่ได้สร้าง productivity ใดๆ ให้กับระบบเศรษฐกิจ แต่เป็นสินทรัพย์ที่ใช้เป็น store of value เพื่อให้เรา hedge กับเงินเฟ้อ มีจำนวนจำกัด และได้ความความเชื่อถือสูง โดยผมจะประเมินมูลค่า จากการเทียบการ growth ของ Bitcoin กับ growth ของ world total money supply คือเมื่อไหร่ก็ตามที่ธนาคารกลางโลกยังอัดฉีด QE เข้าระบบเศรษฐกิจ Crypto อย่าง Bitcoin ก็ควรมีราคาวิ่งเป็นขาขึ้นตามปริมาณเงินบนโลกที่เพิ่มขึ้น เหมือนที่หลายๆ คนบอกว่า "Bitcoin ไม่ได้แพงขึ้นหรอก ค่าเงินบนโลกมันถูกลงต่างหาก"
รวมถึงบางคนอาจจะประเมินมูลค่า Crypto ประเภทนี้ด้วยต้นทุนการผลิต เช่น ต้นทุนการขุด 1 BTC เป็นเงินเท่าไหร่ เหมือนกับต้นทุนหน้าเหมืองของทองคำ เมื่อไหร่ก็ตามที่ราคาร่วงลงมาใกล้กับต้นทุนการผลิต เมื่อนั้น supply จะเริ่มลดลง และราคาจะปรับตัวให้เหมาะสมกับ supply ที่ลดลงในที่สุด (ต้นทุนการขุดปัจจุบันของ BTC อยู่แถวๆ $8,000-$11,000 ในขณะที่ต้นทุนหน้าเหมืองของทองคำอยู่แถวๆ $900-$1,300)
3. Crypto ที่เหมือนกับ Commodity
Crypto กลุ่มนี้ผมมองถึงกลุ่ม Blockchain Infrastructure เช่น ETH, BNB, LUNA, DOT, SOL, ADA เหรียญกลุ่มนี้ไม่ได้เหมือนกลุ่มที่เป็นธุรกิจ แต่เหรียญกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่เป็นวัตถุดิบสำหรับ Dapp ที่ต้องการรันบน Blockchain เช่น MKR, COMP, AAVE เปิดธนาคารบน Ethereum Blockchain ก็จำเป็นต้องใช้ ETH เป็นน้ำมันในการขับเคลื่อน, Mirror เปิด exchange บน Terra ก็ต้องใช้ Luna ในการขับเคลื่อน, หรือ Pancake เปิด Dex บน BSC ก็ต้องใช้ BNB เป็นวัตถุดิบ
1
เหมือนในโลกจริง ที่ธุรกิจ logistics ก็ต้องใช้น้ำมันเป็นโภคภัณฑ์หลักในการทำธุรกิจ, ธุรกิจขนมก็ต้องใช้ข้าวโพดและน้ำตาล, อสังหาริมทรัพย์ก็ใช้เหล็ก, อิเลคโทรนิคใช้ทองแดง
ดังนั้น ราคาของโภคภัณฑ์จึงขึ้นกับ demand/supply เป็นหลัก ราคาเหรียญกลุ่มนี้จึงขึ้นกับการเติบโตและความต้องการใช้งาน decentralized finance ของแต่ละ platform
ในรายการคุณอิกผมพูดแค่นี้ แต่จริงๆ ผมคิดว่ามีอีกหลาย Asset Class ที่น่าพูดถึง เช่น
4. Crypto ที่เหมือนกับ Money
กลุ่มนี้เป็นตัวแทน fiat money อย่างเช่น USDT, USDC, UST, DAI, BUSD อันนี้ไม่ต้องประเมินมูลค่าอะไรเพราะราคาตรึงกับค่าเงินดอลล่าร์อยู่แล้ว แต่ต้องประเมินความเสี่ยงในกรณีที่มันไม่สามารถ peg กับดอลล่าร์ได้
5. Crypto ที่เป็นตัวแทนงานศิลป์ อย่าง NFT ซึ่งกลไกการประเมินมูลค่า ทำได้ยากมาก
มูลค่าของ Asset Class แต่ละแบบก็มีกลไกการประเมินที่แตกต่างกันไป การเหมารวม Crypto ทุกประเภทว่าประเมินมูลค่าไม่ได้ และไม่มี Intrinsic Value จึงเป็นเรื่องที่ผิดพลาดของนักลงทุนในโลกยุคเดิม
ในโลกคริปโตนั้น มีทั้งเหรียญดีและไม่ดี
ไม่มีใครจะทำให้เหรียญทุกเหรียญเป็นเหรียญดีได้ทั้งหมด
การทำให้โลก DeFi มีความปรกติสุขเรียบร้อย
จึงมิใช่การทำให้ทุกเหรียญเป็นเหรียญดี
หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมเหรียญดี
ให้เหรียญดีได้ครองโลก DeFi
และควบคุมเหรียญไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ
ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้
ผมเอามาจากโพสFBของพี่ Niran pravithana
โฆษณา