Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ชีวิต ∙ อิคิ ∙ 生き : ใช้ชีวิตแบบที่อยากมีชีวิต
•
ติดตาม
6 ธ.ค. 2021 เวลา 00:15 • หนังสือ
=======================
“สัปดาห์ละบทสองบท” || วันจันทร์
=======================
🌅• รุ่งอรุณแห่งการเปลี่ยนแปลง - Defining Moment
✍🏻• รวิศ หาญอุตสาหะ เขียน
🔖• Defining Moment ตอนที่ 4 || สี่คำถามหยุดความขี้เกียจ
📝• บันทึกใจความแบบดิบ ๆ ที่ยังไม่ผ่านกระบวนการแปรรูป พร้อม บันทึกการอ่านของ อิคิ ∙ 生き
[ รุ่งอรุณแห่งการเปลี่ยนแปลง ]
==================
④
สี่คำถามหยุดความขี้เกียจ
==================
คุณเป็นคนขี้เกียจทำงานก่อนกำหนดส่ง และชอบเลื่อนไปทำวันอื่น ๆ หรือเปล่า
[ ใช่ค่ะ อิคิ ∙ 生き เป็นคนแบบนี้เลย ]
ในบทความเรื่อง “Want to Stop Procrastinating in 2021?” เขียนโดย เจฟฟ์ ฮาเดน ได้พูดถึงจากวิจัยเกี่ยวกับผลกระทบของการเป็นคนชอบเลื่อนงานไว้ว่า . . .
“คนที่ชอบผัดวันประกันพรุ่งบ่อย ๆ มีแนวโน้มจะมีรายได้น้อย อาจต้องเผชิญกับความวิตกกังวล และยังเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด นั่นเป็นเพราะการเลื่อนกิจกรรมใด ๆ ออกไป ไม่ใช่แค่งานนั้นจะเสร็จช้าลงแต่ยังหมายถึงการต้องแบบรับความเครียดที่เพิ่มขึ้นด้วย”
การทำงานสร้างสรรค์ของมนุษย์นั้นเกี่ยวข้อกับแรงจูงใจ จากการศึกษาเรื่อง A Low-Intensity, High-Frequency Intervention to Reduce Procrastination จากเว็บไซต์ Applied Psychology ได้เผยแพร่การทดลองที่ผู้วิจัยได้ส่งข้อความเป็นคำถามสี่ข้อ เพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำรายงานไปให้นักศึกษากลุ่มหนึ่ง จำนวนสองครั้งต่อวัน
โดยข้อความที่ส่งไปมีใจความดังต่อไปนี้ . . .
①
เราพบว่า นักศึกษาเจ๋ง ๆ ในคลาสนี้มักเริ่มทำรายงานผลแล็บก่อนจะถึงกำหนดส่งเสมอ เพื่อพิสูจน์ว่าคุณอ่านข้อความนี้แล้ว ในช่องต่อไปนี้ กรุณาทวนอีกครั้งว่านักศึกษาที่เจ๋งที่สุดทำอย่างไร
②
ลองจินตนาการถึงตัวเองในช่วงเวลาก่อนถึงกำหนดส่งงาน ซึ่งคุณยังไม่ได้เริ่มทำเลย คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง
[ อิคิ ∙ 生き จะรู้สึกหวาดผวา นอนหลับไม่สนิท ไม่มีสติ บางครั้งบางคราวรู้สึกคลื่นไส้ เกิดอาการเริ่มหาเหตุผลและคำแก้ตัวที่ยังไม่ได้ทำงานนั้นค่ะ ]
③
มีงานวิจัยบอกว่า การย่อยงานใหญ่ ๆ ให้เป็นส่วน ๆ จะช่วยทำให้คุณรู้สึกอยากทำงานมากขึ้น งานส่วนเล็ก ๆ ที่คุณกำลังจะทำเป็นอันดับต่อไปคืออะไร
④
ถ้าคุณต้องทำสิ่งหนึ่งที่จะทำให้รายงานแล็บเสร็จทันเวลา สิ่งนั้นคืออะไร
หลังจากส่งข้อความข้างต้นติดต่อกันเป็นเวลาสองสัปดาห์ ปรากฎว่านักศึกษาที่รับข้อความนั้นเริ่มทำรายงานผลแล็บก่อนกำหนดส่งเร็วขึ้นกว่าคนที่ไม่ได้รับข้อความ
จริง ๆ แล้วเราไม่สามารถทำให้นักศึกษาเหล่านั้นลงมือทำรายงานได้ทันที แต่มันเกิดจากการส่งข้อความซ้ำ ๆ โดยใช้เวลาประมาณหนึ่ง
[ รุ่งอรุณแห่งการเปลี่ยนแปลง ]
จากการทดลองข้างต้นคุณรวิศกล่าวว่า เราน่าจะนำเนื้อหาจากการวิจัยนี้มาประยุกต์ใช้กับการสร้างแรงจูงใจให้กับตัวเองได้ โดยการนำคำถามสี่ข้อมาปรับใช้ดังต่อไปนี้
|| ข้อที่ 1 ||
คนที่ประสบความสำเร็จจะทำยังไง ถ้ามีเป้าหมายเดียวกับเรา
ให้ลองคิดเล่น ๆ ว่าเพื่อนร่วมงานของเราที่ทำงานรวดเร็วจะทำอะไรอยู่บ้าง ถ้าเขาต้องการทำงานนี้ หรือคิดแบบสุดโต่งเลยก็ได้ค่ะว่า บิล เกตส์ หรือ อีลอน มักส์ จะทำอย่างไรเพื่อให้เป้านี้สำเร็จ
[ อิคิ ∙ 生き คิดว่าวิธีนี้น่าสนใจค่ะ สำหรับ อิคิ ∙ 生き แทนที่จะคิดถึงคนไกลตัว คิดถึงคนใกล้ตัวที่เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเรา ก็น่าจะสร้างแรงจูงใจให้กับเราได้ดีเลยค่ะ ]
|| ข้อที่ 2 ||
ฉันรู้สึกยังไงถ้างานนี้ไม่เสร็จ หรือ ไม่เหลือเวลาในการทำมันให้ดี
ตรวจสอบความรู้สึกนึกคิด จำลองสถานการณ์ที่เราทำงานนี้ไม่เสร็จ หรือต้องรีบปั่นให้ทันเวลา จนไม่สามารถทำมันให้ยอดเยี่ยมได้ เราจะผิดหวังเสียใจ เสียดาย และเสียโอกาสมากแค่ไหน
[ ตอนนี้แค่ อิคิ ∙ 生き ลองหลับตาคิด ก็รู้สึกมวลในท้องเริ่มก่อตัวสร้างความปั่นป่วนขึ้นมาแล้วค่ะ ]
|| ข้อที่ 3 ||
อะไรคือสิ่งแรก (หรือสิ่งต่อไป) ที่ฉันจำเป็นต้องทำ
คำถามนี้จะช่วยให้เราแบ่งงานออกเป็นส่วน ๆ โดยการเรียงลำดับความสำคัญจากขั้นตอนแรกไปขั้นตอนสุดท้าย และค่อย ๆ ลงมือทำไปทีละขั้นตอนให้สำเร็จไปเรื่อย ๆ จะได้ไม่รู้สึกเหนื่อย หรือ รู้สึกว่างานเยอะเกินไปจนท้อ
|| ข้อที่ 4 ||
ถ้าให้เลือกทำสิ่งเดียวที่จะทำให้งานเสร็จทันเวลา สิ่งนั้นคืออะไร
หาขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการทำงานนี้ให้สำเร็จ ตัดทอนความยุ่งยากทั้งหลายออกไป เพื่อให้ได้สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เราต้องทำ และยึดถือไว้เลยว่า หากอยากทำงานให้เสร็จทันเวลาต้องทำสิ่งนี้
[ รุ่งอรุณแห่งการเปลี่ยนแปลง ]
นอกจากคำถามสี่ข้อข้างต้น คุณรวิศแนะนำให้เพิ่มอีกหนึ่งคำถามด้วยค่ะ นั่นคือ “ถ้างานนี้ไม่เสร็จ ใครบ้างที่จะได้รับผลกระทบ” อาจมีหลายคนที่กำลังรองานจากเรา ดังนั้นให้ลองคิดดูว่าถ้างานไม่เสร็จ จะสร้างความเสียหายอะไรกับใครบ้าง และเราสามารถผิดชอบต่อผลที่เกิดขึ้นได้หรือไม่
คุณรวิศแนะนำให้นำคำถามเหล่านี้มาตั้งเตือนตัวเองสักสองครั้งต่อวัน ติดต่อกันสองสัปดาห์ และสังเกตดูว่าเรามีการปรับเปลี่ยนการทำงานไปอย่างไรบ้าง
ที่สำคัญเริ่มถามคำถามเหล่านี้ตอนนี้เลย อย่าบอกว่า “พรุ่งนี้ค่อยถาม” ล่ะ!
[ อิคิ ∙ 生き อ่านถึงตรงนี้ก็อดหัวเราะไม่ได้ ถ้าคุณรวิศไม่เตือนเราอาจได้เริ่มถามพรุ่งนี้จริง ๆ นะเนี่ย 😆 ]
[ อิคิ ∙ 生き's Memo ]
อิคิ ∙ 生き ชอบชื่อตอนนี้มากค่ะ “สี่คำถามหยุดความขี้เกียจ” เพราะ อิคิ ∙ 生き เป็นคนที่ขี้เกียจที่สุดในโลกคนนึงเลย
ด้วยความที่ อิคิ ∙ 生き เป็นคนที่ใช้อารมณ์ ความรู้สึกกับ เรื่องต่าง ๆ สูง หรือจะเรียกว่า Sensitive และ Emotional ก็ได้ค่ะ
หากจะพูดถึงศาสตร์ “นพลักษณ์” อิคิ ∙ 生き เป็นคนฐานใจโดยแท้ค่ะ หรือเรียกภาษาอังกฤษว่า The Tragic Romantic (บุคคลที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์ศิลปิน) เพื่อน ๆ ดูคำจำกัดความของคนประเภทนี้ได้ในคอมเม้นด้านล่างนะคะ อิคิ ∙ 生き จำไม่ได้แล้วว่าทำเทสจากเว็บไซต์ ไหนแต่ถ้าเพื่อน ๆ อยากลองทดสอบตัวเองดู สามารถค้นหาคำว่า “แบบทดสอบนพลักษณ์” ใน Google ได้นะคะ
แม้ว่าเวลาที่เราตัดสินใจแล้วว่าจะลงมือทำอะไร เราก็จะทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุดค่ะ แต่กรรมของการเป็นคนแบบนี้คือ เรามักจะต้องรออารมณ์ก่อนจะลงมือทำอะไรซักอย่าง ถ้าไม่มีอารมณ์เราก็จะไม่ได้ทำสิ่งเหล่านั้นเสียที
อิคิ ∙ 生き เป็นคนแบบนี้เลยค่ะ หากงานไหนอารมณ์ไม่มา จะเกิดอาการผลัดวันประกันพรุ่ง ผลัดแล้วผลัดอีก รู้ตัวอีกทีใกล้ถึงกำหนดส่งซะแล้ว
นอกเหนือจากคำถาม 4 + 1 ข้อที่คุณรวิศแนะนำข้างต้น วิธีแก้ไขปัญหาผลัดวันประกันพรุ่งของ อิคิ ∙ 生き คือ
①
หากรู้ตัวว่าเราเป็นคนอีเหลื่อยเฉื่อยแฉะ เราควรหาหนังสือพัฒนาตัวเอง หรือ หนังสือการบริหารเวลามาอ่านเยอะ ๆ ค่ะ อ่านน้อย ๆ แต่อ่านทุกวัน และลงมือนำสิ่งที่หนังสือแนะนำไปลงมือปฏิบัติดูด้วยนะคะ
อิคิ ∙ 生き รู้ตัวว่าเราเป็นคนบริหารเวลาไม่ดี จึงชอบอ่านหนังสือประเภทนี้มากค่ะ
②
พยายามตัดอารมณ์ความรู้สึกออกด้วยการวางแผนการทำงานให้มากขึ้น นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไม อิคิ ∙ 生きต้องมีแผนงานประจำปี ประจำเดือน ประจำสัปดาห์ และ ประจำวัน เพราะถ้าไม่ทำถึงขนาดนี้ อิคิ ∙ 生き จะเอาตัวเองไม่อยู่เลยค่ะ แม้กระทั่งทำขนาดนี้แล้ว ก็ยังเอาตัวเองไม่อยู่ 100% แต่ก็ดีขึ้นนะคะ
อิคิ ∙ 生き สังเกตตัวเองว่า เวลาที่เขียนส่ิงที่ต้องทำลงไปในแผนงาน จะส่งผลให้เราลงมือทำได้สำเร็จมากขึ้น อิคิ ∙ 生き ยอมรับนะคะ ว่างานบางงานที่ไม่สำคัญ ถ้ายังไม่ทำวันนั้นก็จะไม่มีผลอะไร เราก็มักจะเลื่อนแล้วเลื่อนอีกบ้าง แต่ อิคิ ∙ 生き รับประกันว่า งานสำคัญที่ต้องทำในวันนั้น ๆ เราจะได้ทำทั้งหมดค่ะ
③
จินตนาการว่า ถ้าใกล้ถึงกำหนดแล้วเรายังไม่ทำอะไรซักอย่าง เราจะรู้สึกอย่างไร
อย่างที่ อิคิ ∙ 生き ตอบคำถามคุณรวิศไปข้างต้นเลยค่ะ คือถ้าเป็นน้อย ๆ อิคิ ∙ 生き ก็จะรู้สึกว่าจิตใจไม่ผ่อนคลาย เหมือนมีอะไรกังวลอยู่ในใจตลอดเวลา แต่ถ้าเป็นมาก อิคิ ∙ 生き มักจะรู้สึกมวนท้องและผะอืดผะอมค่ะ แค่คิดตอนนี้ก็เริ่มเวียนหัวแล้ว
เมื่อคิดได้แบบนี้ทีไร เราก็สามารถเอาตัวเองไปวางแผน ลงมือทำสิ่งที่ต้องทำได้ทุกทีค่ะ แต่บางครั้งก็เผลอไผลไม่ได้คิด พ่ายแพ้ความขี้เกียจอาการก็ยังมีให้เห็นอยู่บ่อยครั้งเช่นเดียวกันค่ะ
④
กำหนดวันไว้เลยค่ะ ว่าวันไหนเราจะทำงาน วันไหนเราจะพักผ่อน
ส่วนตัว อิคิ ∙ 生き การกำหนดเช่นนี้จะทำให้เราทำงานได้เต็มที่มากขึ้นค่ะ ถ้าเราทำงานแบบไม่มีแผน ทำมันไปทุกวันไม่มีการกำหนดวันพักผ่อนที่แท้จริง ยังไงเราก็จะต้องไปลักโขมยเวลาพักผ่อนในวันทำงานค่ะ
อิคิ ∙ 生き จะกำหนดไว้ว่าวันอาทิตย์คือวันต้องห้าม ห้ามจับงาน ห้ามเสพข่าวสาร ไม่เรียนหนังสือยกเว้นการอ่านหนังสือในตอนเช้า สิ่งนี้ทำให้ อิคิ ∙ 生き สามารถทำงานอย่างจริงจังได้มากขึ้นในวันที่ อิคิ ∙ 生き ระบุว่าทำงานค่ะ เพราะเรารู้ว่าวันอาทิตย์จะเป็นวันพักผ่อนอย่างแท้จริงนั่นเอง
ที่สำคัญอย่าทำงานหนักเกินไปจนไม่มีเวลาพักผ่อนนะคะ เพราะการทำแบบนี้จะทำให้เราโหยหาวันพักผ่อนตลอดเวลา เราจะรู้สึกว่าพักแค่ไหนก็ยังไม่พอค่ะ
ก่อนจากกัน อิคิ ∙ 生き ฝากเกร็ดเล็ก ๆ ไว้นิดนึงนะคะ วิธีง่าย ๆ ที่จะรู้ได้ว่าเราเป็นคน Emotional หรือ ใช้อารมณ์ขับเคลื่อนชีวิตหรือไม่ ให้ลองสังเกตตัวเองเวลาดูหนังรักโรแมนติกดูค่ะ
เอาง่าย ๆ เลย เมื่อวาน อิคิ ∙ 生き เพิ่งนั่งดูหนังโรแมนติกสัญชาติเกาหลีในตำนานที่ชื่อว่า “The Classic” ที่ Netflix เพิ่งนำกลับมาฉายอีกครั้ง กับคุณโอ๋แฟน อิคิ ∙ 生き ค่ะ
สำหรับคน Emotional แบบ อิคิ ∙ 生き ส่ิงที่เกิดขึ้นคือ อิคิ ∙ 生き นั่งน้ำตาไหลไปประมาณ 40% ของเรื่องค่ะ ถ้าเป็นฉากสุข ก็จะมีน้ำตาแห่งความตื้นตันเอ่อล้นออกมา แต่ถ้าฉากเศร้าน้ำตาก็จะไหลเป็นหยด เพราะ อิคิ ∙ 生き ปล่อยอารมณ์ของตัวเองให้ดำดิ่งไปกับหนัง
ส่วนคน Rational หรือ คนที่ใช้เหตุผลในการขับเคลื่อนชีวิตแบบคุณโอ๋ ก็จะเกิดอาการดูไปก็จะพากย์ไป เดาความเป็นไปของหนังไป วิจารณ์การกระทำของตัวละคร หาความซึ้งไม่ได้เลยจริง ๆ 😆
หากใครดูหนังแล้วมีอาการแบบ อิคิ ∙ 生き อาจสันนิษฐานได้ว่าเราเป็นคนฐานใจที่ใช้อารมณ์ความรู้สึกขับเคลื่อนชีวิตค่ะ
ส่วนข้อดีของคนที่ใช้เหตุผลขับเคลื่อนชีวิตเป็นหลักแบบคุณโอ๋ ก็คือ คนเหล่านี้จะลงมือทำสิ่งที่ควรต้องทำได้ง่ายดายค่ะ ไม่ต้องรออารมณ์แบบเรา มีอะไรต้องทำก็ลงมือทำเลยก็แค่นั้น อิคิ ∙ 生き สังเกตจากคุณโอ๋ คุณโอ๋จะทำงานเร็วกว่า อิคิ ∙ 生き มาก เพราะไม่ต้องรออารมณ์ มีอะไรต้องทำก็ทำเลย
ที่สำคัญคุณโอ๋ไม่ได้เป็นนักนิยมความสมบูรณ์แบบ (Perfectionist) ค่ะ คือทำอะไร คุณโอ๋จะทำแบบพอใช้ได้ ไม่เสียเวลาไปกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่จำเป็น ซึ่งแตกต่างจาก อิคิ ∙ 生き โดยสิ้นเชิง ถ้า อิคิ ∙ 生き ทำอะไรจะต้องเก็บรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปเสียหมด จนบางครั้งก็รู้สึกเหนื่อยกับตัวเองและใช้เวลามากโดยไม่จำเป็น
ที่สำคัญผลลัพธ์อาจไม่ได้ต่างกันมาก เช่นตอน อิคิ ∙ 生き เรียนปริญญาโทกับคุณโอ๋ แม้ อิคิ ∙ 生きจะได้เกรด A มากวิชากว่า แต่เราสองคนก็ได้เกรียตินิยมเหมือนกัน
ยิ่งมาตอนทำงานยิ่งเห็นได้ชัดเลยค่ะ ธุรกิจคุณโอ๋เติบโตไปได้เร็วมาก ๆ เพราะคุณโอ๋รู้ว่าควรต้องจดจ่อกับสิ่งสำคัญและลงมือทำ อิคิ ∙ 生き ไม่เคยเห็นคุณโอ๋ทำงานหนักหามรุ่งหามค่ำแบบ ไม่เคยได้ยินคุณโอ๋บ่นว่างานเยอะ ทำงานไม่ทันแบบ อิคิ ∙ 生き เลย คุณโอ๋รู้ว่าเวลาไหนคือเวลาทำงาน เวลาไหนคือเวลาพัก โดยสัญชาตญาณเลยค่ะ
แต่เราทั้งสองคนก็เป็นส่วนผสมที่ดีและเติมเต็มในสิ่งที่ขาดของกันและกันได้นะคะ บางเรื่องที่ อิคิ ∙ 生き ใช้เวลาไม่มีประสิทธิภาพก็มักจะถูกคุณโอ๋อบรมสั่งสอนอยู่บ่อย ๆ ส่วนบางเรื่องที่ต้องใช้ความละเอียด อิคิ ∙ 生き ก็มีโอกาสเตือนในสิ่งที่คุณโอ๋นึกไม่ถึงเช่นกัน
วันนี้ อิคิ ∙ 生き กล่าวถึง THE IDOL ของ อิคิ ∙ 生き มามากแล้ว อิคิ ∙ 生き คิดว่าหากใครเป็นคนที่ชอบผลัดวันประกันพรุ่งก็ลองนำคำถามที่คุณรวิศแนะนำ และ วิธีแก้ไขของ อิคิ ∙ 生き ไปลองปฏิบัติดูนะคะ
ส่วนคนที่นิยมความสมบูรณ์แบบ ณ วันนี้ อิคิ ∙ 生き คิดว่าเราคงต้องเพิ่มการมองภาพรวมและจดจ่อเฉพาะสิ่งสำคัญให้มากขึ้น อยู่กับความไม่สมบูรณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตของเราให้ได้ อิคิ ∙ 生き เชื่อว่าถ้าทำได้ ชีวิตเราจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ
สำหรับวันนี้ อิคิ ∙ 生き ขอจบบันทึกการอ่านไว้แต่เพียงเท่านี้ ในวันจันทร์หน้าเรามาพบกับ “รุ่งอรุณแห่งการเปลี่ยนแปลง” บทต่อไปกันนะคะ อิคิ ∙ 生き ขอกล่าวคำว่า “อรุณสวัสดิ์” กับทุกท่านในเช้าวันแรกของสัปดาห์ วันนี้อากาศเย็นเชียวค่ะ อิคิ ∙ 生き สวัสดีเช้าวันจันทร์นะคะ 🙏🏻😊
หมายเหตุ : หากเพื่อน ๆ ท่านใดสนใจเนื้อหาจากหนังสือเล่มนี้ จนรอ อิคิ ∙ 生き สรุปเรื่องราวทีละบทของ “รุ่งอรุณแห่งการเปลี่ยนแปลง” ไม่ไหวก็สามารถสั่งซื้อหนังสือได้ที่ Link ด้านล่างนะคะ
https://www.facebook.com/KOOBBOOKS/
#สัปดาห์ละบทสองบท #รุ่งอรุณแห่งการเปลี่ยนแปลง
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
สัปดาห์ละ. . .บท 2 บท
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย