[Future Trends] สำเร็จตามใครเขา หรือกรุยเส้นทางใหม่ด้วยตัวเอง? จำเป็นแค่ไหน ที่เราต้องยึด ‘สูตรสำเร็จ’ เหมือนคนอื่น หลายคนคิดว่า การเดินตามรอยเท้าผู้ที่ประสบความสำเร็จ คือทางลัดสู่ความสำเร็จได้เร็วที่สุด ซึ่งก็ไม่ถือ

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

14 ธ.ค. 2021 เวลา 00:30 • ความคิดเห็น

สำเร็จตามใครเขา หรือกรุยเส้นทางใหม่ด้วยตัวเอง?

จำเป็นแค่ไหน ที่เราต้องยึด ‘สูตรสำเร็จ’ เหมือนคนอื่น

หลายคนคิดว่า การเดินตามรอยเท้าผู้ที่ประสบความสำเร็จ คือทางลัดสู่ความสำเร็จได้เร็วที่สุด ซึ่งก็ไม่ถือเป็นเรื่องที่แปลกอะไร เพราะทุกคนย่อมมีบุคคลที่เป็นแรงบันดาลใจ หรือต้นแบบให้กับตัวเรา

แต่ชีวิตทุกคนย่อมมีทางเลือกที่ต่างกัน ความผิดพลาดของเรา บทเรียนของเรา ทุกคนมีเส้นทางการเดินทางสู่ความสำเร็จที่แตกต่างกัน การที่เราจะเลือกเอาแต่เดินตามความสำเร็จของผู้อื่นนั้น เป็นเรื่องที่ถูกต้องเหมาะสมแล้วจริงหรือไม่ เพราะเราเองก็ไม่เคยเห็น บิล เกตส์ (Bill Gates) คนที่สอง หรือบุคคลที่มีชื่อเสียงจากการก้าวเดินในเส้นทางเดียวกับบุคคลที่พวกเขาเคารพ

ในขณะที่เรายังคงตามรอยของคนที่เป็นต้นแบบนั้น เพื่อนๆ ก็อาจจะกำลังเริ่มต้นชีวิตการทำงานในบริษัทใหญ่ระดับประเทศ หรือรุ่นน้องอาจจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน และกำลังก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นไปแล้ว ความสำเร็จเหล่านี้ย่อมสร้างแรงกดดันให้เราไม่มากก็น้อย จนได้แต่ถามตัวเองว่า แล้วเส้นทางที่เราเลือกเดินนี้จะพาเราไปสู่ความสำเร็จได้จริงไหม

คำแนะนำจากคนที่ประสบความสำเร็จแล้วเป็นสิ่งที่ดี แต่คำแนะนำเหล่านั้นไม่ได้มีประโยชน์กับเราเสมอไป เพราะทุกคนย่อมมีความคิด และพื้นฐานชีวิตที่แตกต่างกัน อีกทั้งอุปสรรค และปัญหาที่ต้องพบเจอก็แตกต่างจากพวกเขาด้วย ยิ่งพยายามทำให้เหมือนคนอื่นเท่าไร ก็ไม่มีทางประสบความสำเร็จอย่างพวกเขาได้

ฉะนั้น คำแนะนำเหล่านี้จึงสามารถใช้ได้เพียงบางสถานการณ์ในชีวิต แต่สิ่งสำคัญ คือกระบวนการคิดที่เราต้องเป็นคนตัดสินใจ หรือกระบวนการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) ซึ่งเป็นงานวิจัยของ เบอร์นาร์ด รอธ (Bernard Roth) อาจารย์แห่งมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด

กระบวนการคิดเชิงออกแบบ คือการที่เราเลือกที่ฟังความต้องการของตัวเองเป็นหลัก เราควรเข้าใจตัวเองให้ได้ก่อน ฟังโดยห้ามดูถูกตัวเอง หรือคิดว่าเป็นไปไม่ได้แล้วเราจึงจะพบคำตอบว่า สิ่งที่ต้องการจะทำจริงๆ คืออะไร และต้องไม่ลืมที่จะตั้งคำถามกับตัวเองว่า เราจะได้สิ่งที่ต้องการมาด้วยวิธีใด หรือแก้ปัญหาอย่างไรได้บ้าง

ยกตัวอย่างเช่น ทำไมเราถึงไม่อยากทำงานนี้ต่อ เพราะรู้สึกเบื่อกับงาน หรือเพียงเพราะต้องการเวลาเพิ่มขึ้น เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับงานที่ทำอยู่ ถ้าเป็นอย่างนั้นการลาออกก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ถูกต้องที่สุด ซึ่งการที่เราค่อยๆ ตั้งคำถามแบบนี้เรื่อยๆ จะทำให้สามารถแก้ปัญหาทีละชั้นไปได้ เพื่อให้เห็นถึงแก่นแท้ หรือสิ่งที่ตนเองต้องการจริงๆ แต่ต่อให้รู้ว่ามันคือจุดมุ่งหมายของเรา แต่เราก็มักจะพบว่า การที่จะทำให้เราบรรลุเป้าหมายได้มันช่างยากเหลือเกิน ทั้งแรงกดดันจากตัวเองบวกกับความสำเร็จจากคนรอบข้าง

และเพื่อที่จะลดแรงกดดันเหล่านั้น การตั้งเป้าหมายให้เล็กลงก็อาจจะไม่เสียหาย นอกจากจะรู้ว่าตัวเองเติบโต และพัฒนาไปไกลแค่ไหนแล้ว เมื่อได้รับประสบการณ์จากความสำเร็จเล็กๆ เราจะเริ่มรู้สึกว่ามีความมั่นใจมากขึ้น ก็ถึงเวลาที่จะต้องก้าวไปสู่สิ่งที่ท้าทายกว่าเดิม ด้วยการกำหนดเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เมื่อนั้นเราจะภูมิใจกับทุกๆ ความสำเร็จที่เราได้มันมาด้วยตัวของเราเอง และจะเป็นการก้าวเดินที่ยาวขึ้นเพื่อที่จะถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้นด้วย

เราเท่านั้นที่จะเป็นผู้เลือกทางเดินชีวิตของตัวเอง เส้นทางที่เราต้องการ จงมั่นใจในทางเลือก ไม่ใช่ให้ใครเป็นผู้เลือกให้เรา เส้นทางนี้ไม่สามารถขอให้คนอื่นช่วยตัดสินใจแทนได้ แต่ต้องเริ่มจากตัวเองเท่านั้น อย่าให้ความสำเร็จของคนอื่นมาทำให้เรา ยอมละทิ้งความฝันของตัวเอง เพียงเพื่อการันตีว่าชีวิตจะประสบความสำเร็จตามคนอื่นๆ

หวังว่าหลังจากอ่านบทความนี้จบแล้ว หลายคนจะลองคิดทบทวนสักครั้งว่า ตัวคุณกำลังเดินในเส้นทางที่ใช่หรือไม่ โดยที่ผู้เขียนจะทิ้งคำที่ไปเจอมาให้เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจเองแล้วกันว่า คุณ ‘จะเป็นเพียงแค่ผู้สืบทอดตำนาน หรือจะเป็นอีกหนึ่งตำนานใหม่เสียเอง’