8 ธ.ค. 2021 เวลา 11:00 • ยานยนต์
เหตุผลที่ ไฮพรีเมียมดีเซล S B7 เหนือชั้นกว่าน้ำมันดีเซล พรีเมียม อื่น ๆ
บางจาก X ลงทุนแมน
1
นับจากภาครัฐประกาศคลายล็อกดาวน์ พร้อมกับเปิดประเทศ
กิจกรรมที่เป็นฟันเฟืองเศรษฐกิจต่าง ๆ เริ่มเดินเครื่องกลับมาทำงาน
ไม่ว่าจะเป็น สถานที่ท่องเที่ยว, ร้านอาหาร, ศูนย์การค้าต่าง ๆ ที่เริ่มจะเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย
ทีนี้พอคนทั่วไปเริ่มออกมาใช้ชีวิตประจำวันข้างนอกมากขึ้น
ก็เลยทำให้จำนวนรถบนท้องถนนเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ที่มาพร้อมการจราจรที่ติดขัด
สิ่งที่ตามมาก็คือรถยนต์ที่ใช้น้ำมันสูตรปกติ ที่มีจำนวนมากที่สุดบนท้องถนน
ได้ปล่อยฝุ่นละออง PM 2.5 ทำให้ท้องถนนเมืองไทยต้องเผชิญกับเรื่องนี้อีกครัง
1
โจทย์เรื่องนี้มันเลยมาอยู่ที่ว่าในท้องตลาดบ้านเรา ที่มีน้ำมันให้เลือกมากมายหลายสูตร
แต่กลับมีเพียงไม่กี่บริษัทผู้ผลิตน้ำมันที่จริงจัง และคิดค้นน้ำมันเพื่อลดปัญหาฝุ่น PM 2.5
โดยหนึ่งในผู้เล่นที่โดดเด่นและให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ก็คือ บางจาก ที่มี “ไฮพรีเมียมดีเซล S B7”
ที่นอกจากเป็นน้ำมันที่ลดการปล่อยฝุ่น PM 2.5 ได้ดีที่สุดในตลาด ณ เวลานี้แล้วนั้น
บางจาก ยังมั่นใจว่า “ไฮพรีเมียมดีเซล S B7” คือน้ำมันดีเซลในกลุ่ม พรีเมียม
ที่มีคุณภาพเหนือกว่าคู่แข่งรอบด้าน
3
แล้วทำไม “ไฮพรีเมียมดีเซล S B7” ถึงมายืนอยู่ตรงจุดนี้ได้
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ก่อนอื่นเรามาดู “จุดเปลี่ยน” ที่ทำให้น้ำมันดีเซลเติบโตในเมืองไทย
เรื่องนี้คงต้องย้อนกลับไปช่วงก่อนปี 2000 ที่เวลานั้นรถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลส่วนใหญ่
จะเป็นรถที่ใช้กำลังสูง เช่น รถกระบะ, รถบรรทุก
เหตุผลเพราะ เครื่องยนต์ดีเซล จะให้กำลังอัดสูงสร้างแรงบิดได้มากกว่าเครื่องยนต์เบนซิน
แต่จุดอ่อนก็คือ เครื่องยนต์ดีเซลจะมีเสียงดังปล่อยมลภาวะมากกว่า
จนเมื่อค่ายรถทั่วโลก เริ่มพัฒนาลบจุดอ่อนตรงนี้ให้หายไป
จากนั้นก็นำเครื่องยนต์ดีเซลไปใส่ในรถเก๋งและรถ SUV
ทำให้เวลานี้เราได้เห็นรถยนต์หลายรุ่น ตั้งแต่ค่ายรถญี่ปุ่นจนถึงรถหรูแบรนด์ยุโรป
ต่างมีเครื่องยนต์ให้เลือกทั้งเบนซินและดีเซล
ตรงนี้เองที่ทำให้การใช้น้ำมันดีเซลเติบโตขึ้น พร้อมกับทำให้หลายบริษัทพลังงาน
คิดค้นสูตรน้ำมันดีเซลคุณภาพสูงมากมาย
หนึ่งในนั้นคือ บางจาก ที่จริงจังกับตลาดนี้ และทำได้ดีจนต้องจับตามอง
ทีนี้ยิ่งทาง บางจาก ขายน้ำมันดีเซลมากขึ้นเท่าไร
ก็ได้เรียนรู้ว่ามีผู้ใช้รถเครื่องยนต์ดีเซลกลุ่มใหญ่
ที่ต้องการน้ำมันดีเซลคุณภาพสูงกว่าสูตรพรีเมียมธรรมดาทั่วไป
เพื่อให้รถแรง ขับขี่สนุก ลดการปล่อยมลพิษ และรักษาเครื่องยนต์ให้ยืนยาว
เลยเป็นที่มาให้ทีมวิจัย บางจาก คิดค้นสูตรน้ำมัน “ไฮพรีเมียมดีเซล S B7”
ที่ได้เปิดตัวช่วงปี 2560 โดยตั้งเป้ายอดขายเริ่มต้นคือ 4 ล้านลิตรต่อเดือน
ทีนี้เมื่อผู้ใช้รถเครื่องยนต์ดีเซลทดลองใช้ก็รับรู้ถึงความต่าง หากเทียบกับดีเซล พรีเมียม อื่น ๆ
ก็เลยทำให้ยอดขายในแต่ละปีเติบโตต่อเนื่อง
หลักฐานที่ชัดเจนก็คือ เมื่อน้ำมัน ไฮพรีเมียมดีเซล S B7 ได้จำหน่ายช่วงปี 2560
ก็เป็นอีกหนึ่งสารกระตุ้นให้อัตราการใช้น้ำมันดีเซล พรีเมียม ในประเทศไทยเติบโตขึ้น
ปี 2560 ปริมาณใช้น้ำมันดีเซล พรีเมียมในประเทศเฉลี่ย 2.13 ล้านลิตรต่อวัน
ปี 2562 ปริมาณใช้น้ำมันดีเซล พรีเมียมในประเทศเฉลี่ย 2.33 ล้านลิตรต่อวัน
คำถามก็คือ แล้วอะไรที่เป็นตัวชี้วัดว่า “ไฮพรีเมียมดีเซล S B7” เหนือชั้นกว่า ดีเซล พรีเมียม อื่น ๆ ?
นอกจากเป็นน้ำมันที่ใช้ได้กับรถเครื่องยนต์ดีเซลที่ครอบคลุมทุกประเภท
ทั้งเครื่องยนต์รุ่นใหม่และเก่า
รู้หรือไม่ว่า น้ำมันดีเซลสูตรนี้ เป็นการใช้เทคโนโลยีการกลั่นขั้นสูง
ทำให้ได้น้ำมันใสบริสุทธิ์มีค่าซีเทนสูงถึง 70 ขณะที่กรมธุรกิจพลังงาน
กำหนดน้ำมันดีเซลทั่วไปอยู่ที่ 50
ทีนี้หากเรามองไปที่ น้ำมันดีเซล เกรด พรีเมี่ยม ที่ขายอยู่ในสถานีบริการน้ำมันต่าง ๆ
ส่วนใหญ่จะมีค่าซีเทนอยู่ที่ 54 - 55 ขณะที่บางรายไม่ระบุค่าซีเทนชัดเจน
ซึ่งนั่นแปลว่า “ไฮพรีเมียมดีเซล S B7” ของบางจาก น่าจะมีค่าซีเทนสูงที่สุด
1
และการมีค่าซีเทนสูงกว่าคู่แข่ง ส่งผลให้เมื่อน้ำมันถูกฉีดเข้าสู่ห้องเผาไหม้เครื่องยนต์
ทำให้เกิดการจุดระเบิดเร็วกว่าปกติ สิ่งที่ผู้ขับขี่สัมผัสได้ทันที
คือ เครื่องยนต์สตาร์ตติดง่าย, อัตราเร่งเครื่องยนต์แรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ไม่ว่าจะเป็นทางเรียบและทางชัน
ขณะเดียวกันในตัวน้ำมันสูตรนี้ก็มีส่วนผสมสาร Hi Active Cleansing
ที่ช่วยทำความสะอาดหัวฉีดสูงขึ้นกว่า 70% หากเทียบกับน้ำมันดีเซล พรีเมียม อื่น ๆ
ที่จะช่วยให้เกิดการเผาไหม้สมบูรณ์แบบที่จะทำให้เครื่องยนต์รถเราสะอาด
ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ให้ยาวนานขึ้นกว่าใช้น้ำมันดีเซลธรรมดาทั่วไป
นั่นแปลว่า หากเราใช้น้ำมัน “ไฮพรีเมียมดีเซล S B7” เป็นประจำ
ก็จะทำให้รถยนต์เรามีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นกว่าเดิม
พร้อมกับช่วยประหยัดค่าซ่อมบำรุงรถไปในตัว
ขณะเดียวกันทุก ๆ ครั้ง หากเราจะเลือกเติมน้ำมันสิ่งที่ต้องคำนึงถึง
ก็คือน้ำมันสูตรที่เลือกทำให้รถมีอัตราเร่งได้ดีกว่าเดิมมากแค่ไหน ?
ตรงนี้ถือว่า บางจาก ทำการบ้านมาอย่างดีเมื่อผลทอดสอบ “ไฮพรีเมียมดีเซล S B7”
ทำให้รถแรงทุกจังหวะการเร่งไม่ว่าจะทางตรงหรือทางชัน
และหากเป็นรถขนาดใหญ่อย่างรถกระบะ SUV ก็ให้ความรู้สึกขับขี่เหมือนรถเก๋ง
สร้างความมั่นใจในทุกจังหวะการแซง
อีกทั้งผลทดสอบยังระบุว่า “ไฮพรีเมียมดีเซล S B7” ประหยัดน้ำมันได้ 4.3%
หากเทียบกับน้ำมันดีเซลสูตรธรรมดา
อีกเรื่องที่หลายคนอาจไม่เคยรู้นั่นคือ “ไฮพรีเมียมดีเซล S B7” ได้มาตรฐานเป็นน้ำมันระดับโลก
ด้วยมาตรฐาน EURO 5 ที่ช่วยลดค่ากำมะถันลงถึง 5 เท่า (เมื่อเทียบกับ EURO 4)
ผลลัพธ์คือ เครื่องยนต์ของรถจะเผาไหม้สมบูรณ์ ลดมลภาวะฝุ่นควัน PM 2.5
ถึงตรงนี้หากมองในเชิงการแข่งขัน ก็ต้องยอมรับว่า บางจาก เดินมาถูกทาง
เมื่อธรรมชาติการแข่งขันในธุรกิจพลังงาน หากใครก็ตามที่ กล้าคิด กล้าทำ สร้างสิ่งใหม่ ๆ ที่มาตอบโจทย์ผู้ใช้รถบนท้องถนน
ในขณะที่คู่แข่งยังเลือกที่จะยืนอยู่ในจุดเดิม
เพราะฉะนั้นการมีน้ำมัน “ไฮพรีเมียมดีเซล S B7”
ที่เหนือกว่าน้ำมัน ดีเซล พรีเมียม ทั่วไปในท้องตลาด
นอกจากจะทำให้ประสบความสำเร็จในเรื่องยอดขาย
ก็ยังทำให้แบรนด์ บางจาก เป็นผู้นำในธุรกิจน้ำมันดีเซล ในสายตาลูกค้า
1
ส่วนประโยชน์ทางฝั่งผู้ใช้รถเครื่องยนต์ดีเซล ก็จะได้น้ำมันที่ตอบโจทย์การขับขี่
และรักษาสุขภาพรถให้แข็งแรง มีอายุยาวนาน นั่นเอง..
1
References
-ข่าวประชาสัมพันธ์ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน)
โฆษณา