อยากตื่นมาแล้วเจอแบบนี้
มาที่เกาะหลีเป๊ะสิครับ
โพสต์นี้ ผมรวบรวมทุกสิ่งที่หาข้อมูลมาไว้หมดเลย อ่านแล้วครบถ้วนพร้อมไปแน่นอน
เรื่องมันก็เกิดจากไปเห็นรูปปะการัง 7 สี แล้วค้นหาว่ามันอยู่ที่ไหน ก็พบว่ามันคือร่องน้ำจาบัง ซึ่งอยู่ใกล้กับเกาะหลีเป๊ะ ทริปนี้จึงเกิดขึ้นมา ตอนแรกคิดว่าจะไปนอนที่สตูลและหาทัวร์แบบ 1 วันไป แต่โดนบริษัททัวร์ดักไว้ว่า ถ้าคนไปไม่ถึง 12 คน จะยกเลิก (ทำอย่างกะบ้านผมอยู่แถวนั้น จะไปเมื่อไหร่ก็ได้) ก็เลยขอเอาชัวร์ ๆ ดีกว่า สรุปก็ได้ไปนอนที่เกาะหลีเป๊ะจนได้ มาดูกันว่า 3 คืนที่เกาะหลีเป๊ะเป็นอย่างไร อาจจะเจอเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มองข้ามไปก็ได้ ตามไปอ่านแต่ละรูปกันเลยดีกว่าครับ
ที่พักของทริปนี้ ชื่อ Andaman Beach Resort
ทะเลที่ไล่สีครบโทนแบบนี้หาไม่ได้ง่าย ๆ
ปะการัง 7 สีที่ร่องน้ำจาบัง
หาดหน้ารีสอร์ท
แดดไม่ร้อนเพราะมีลมพัด แต่ผิวคล้ำได้เลย
ขึ้นเรือที่ท่าเทียบเรือปากบารา
เอาล่ะครับ การเดินทางต้องมีจุดเริ่มต้น การเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะนั้นอาจจะต้องหลายต่อหน่อยตั้งแต่เครื่องบิน รถ เรือ กันเลยทีเดียว คำแนะนำสำหรับคนกรุงเทพฯ ก็คือ ให้หาไฟล์ทบินไปลงหาดใหญ่ตอนเช้า ถึงไม่เกิน 8.30-9.00 น. เพราะรถช่วงโควิดมีรอบเดียว ส่วนคนเชียงใหม่ อาจจะลำบากกว่านิดเพราะมีวันละไฟล์ทตอนเย็น ต้องไปนอนแถวสนามบินหาดใหญ่คืนนึงก่อนกลับสนามบินไปขึ้นรถตอน 9.30 น. วันรุ่งขึ้น
ส่วนรถจะเป็นรถตู้มีวันละเที่ยวรับจากสนามบินหาดใหญ่ไปลงท่าเรือปากบารา และเรือเป็นสปีดโบ๊ทลำใหญ่ มีเรือออกวันละ 2 เที่ยว คือ 11.30 และ 13.00 น. (เรือรอบ 11.30 จะแวะเกาะตะรุเตาและเกาะไข่ ให้ถ่ายรูปเล่นแป้บนึงด้วย) เรือรอบ 11.30 จะถึงเกาะราว 13.30 ส่วนขากลับจะต้องออกจากเกาะหลีเป๊ะ 9.30 น. รถตู้จะรอรับ 11.30 น. ไปส่งสนามบิน ให้เลือกไฟล์ทบินกลับหลัง 17.00 น. จะปลอดภัยสุดครับ ตั๋วรถ+เรือ+ทัวร์ดำน้ำสามารถหาได้ตามเพจของบริษัททัวร์เลย จะซื้อรวม หรือซื้อแยกก็ได้ บางบริษัทก็รวมที่พัก 2 คืนไปด้วย
ท่าเทียบเรือเกาะตะรุเตา
ที่ท่าเรือมีการตรวจคนฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว 14 วันหรือตรวจ ATK มาแล้ว ก่อนเข้าท่าเรือต้องจ่ายค่าเข้าอุทยาน 20 และค่าผ่านท่าเรือ 60 (อายุเกิน 60 ไม่เสียสักบาท) เรือจะพาแวะเกาะตะรุเตาแป้บนึง ให้จำชื่อเรือให้ดี เดี๋ยวจะกลับเรือผิด ที่เกาะตะรุเตาจะโดนตรวจบัตรเข้าอุทยานด้วย (ต้องพกติดตัวตลอด ห้ามหาย เวลาไปดำน้ำเกาะต่าง ๆ จะโดนเจ้าหน้าที่เรียกตรวจ) อยู่เกาะตะรุเตาให้เลือกกิจกรรมอย่างเดียว จะไหว้พระ ถ่ายรูป เข้าห้องน้ำ เพราะนั่นเป็นสิ่งเดียวที่ทำได้ก่อนโดนเรียกกลับเรือครับ
สะพานหิน เกาะไข่
จุดแวะต่อมาของเรือรอบ 11.30 คือ เกาะไข่ ที่มีสะพานหินธรรมชาติให้คู่รักไปเดินลอดกัน แต่ก็เช่นเคย แวะแป้บเดียว ใครยังไม่อยากเท้าเปียกตอนนี้ ยังไม่ต้องลงก็ได้ครับ เรืออาจจะจอดใกล้พอที่จะถ่ายรูปจากบนเรือได้ แต่ถ้าใครอยากไปถ่ายใต้สะพานหินก็จัดไป
ท่าเทียบเรือหาดพัทยา เกาะหลีเป๊ะ
เรือจะมาจอดที่หาดพัทยาครับ บนเกาะหลีเป๊ะมีพื้นที่ประมาณ 3 ตารางกิโลเมตร มี 3 ฝั่งคือ หาดพัทยา (ที่เพี้ยนมาจากบันดาหยา) หาดซันไรส์ (ที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นได้) และหาดซันเซ็ต (ที่ชมพระอาทิตย์ตกได้) ทุกฝั่งมีที่พักให้เลือกหลายแบบไม่ว่าจะเป็นโฮสต์เทลไม่ติดหาดใด ๆ บ้านพักใกล้ถนนคนเดิน กระต็อบพัดลมติดทะเล บังกาโลติดทะเล รีสอร์ทติดทะเล รีสอร์ทบนเนินเขามากสุดถึง 4 ดาว ถ้าชอบความคึกคักหน่อยก็ต้องที่พักแถวหาดพัทยาเพราะติดถนนคนเดินเลย แต่หาดจะสีสวยในระดับนึง (ไม่มาก แต่ก็สวยประมาณนึง)
ถ้าชอบความเป็นส่วนตัวต้องที่พักฝั่งซันเซ็ต ฝั่งนี้หาดของรีสอร์ทจะเป็นหาดส่วนตัว รีสอร์ทจะอยู่บนเขา ๆ หน่อยจะลงหาดต้องลงบันได ขึ้นที่พักต้องปีนเขาหน่อย ๆ หาดจะมีหินเยอะ เหมาะกับคนอยากเป็นลิตเติ้ลเมอร์เมด ส่วนแฟนพันธุ์แท้เรือหางยาวต้องหาดซันไรส์ เรือจอดขวักไขว่ แต่ ... มีบางรีสอร์ทที่อยู่ต้น ๆ หาด ไม่ค่อยมีเรือ นั่นคือ Zodiac Seesun Resort, Andaman Beach Resort และ Lipe Beach Resort ครับ (รีสอร์ทหลังจะถ่ายติดเรือบ้างกรุบกริบ) จะมีรีสอร์ฝั่งหาดพัทยาที่ร่วมโปรเราเที่ยวด้วยกันคือ บันดาหยารีสอร์ท อาคิรารีสอร์ท มะลิรีสอร์ท และฝั่งซันไรส์จะมี โซเดียสซีซันรีสอร์ท เม้าเทิร์นรีสอร์ท กับอิดิลลิค รีสอร์ทครับ
ห้อง Beach Front ของ Andaman Beach Resort
เมื่อถึงท่าเทียบเรือที่หาดพัทยาแล้ว แต่ละรีสอร์ทก็จะส่งคนมารับ รีสอร์ทที่หาดพัทยาสามารถเดินเข้าได้เลย ส่วนหาดอื่น ๆ รีสอร์ทจะนำรถมอเตอร์ไซค์พ่วงมารับครับ รถมอเตอร์ไซค์พ่วงเนี่ยเป็นพาหนะหลักของการเดินทางบนเกาะหลีเป๊ะเลย รีสอร์ทไหนคนมากหน่อยก็อาจมีรถอื่นที่ใหญ่กว่ามารับ ส่วนที่พักของผมเองชื่อ Andaman Beach Resort อยู่ต้นหาดซันไรส์ ถัดจาก Zodiac Seesun Resort
Andaman Beach Resort เดิมชื่อ Andaman Resort ช่วงโควิดระบาดปีนี้ก็มีอันต้องเปลี่ยนเจ้าของ ซึ่งเจ้าของใหม่ก็มีที่พักอีกแห่งที่ถนนคนเดินด้วย และได้เปลี่ยนชื่อเป็น Andaman Beach Resort ห้องก็เพิ่งเปิดรับจองช่วงครึ่งหลังของเดือนตุลาคมนี่เองครับ ที่เลือกที่นี่เพราะอยากนอนติดหาดแบบตื่นมาก็เจอทะเล นอนในห้องก็อยากนอนดูทะเล อยากลงทะเลก็เปิดประตูแล้ววิ่ง 10 ก้าวลงไปเลย ทะเลหน้ารีสอร์ทก็ไม่มีเรือหางยาวจอดมากมายนัก เรียกได้ว่าโลเคชั่นเกือบจะดีที่สุดเลยก็ว่าได้ ห้องพักที่จองมาเป็น Beach Front Room ภายในห้องก็จะมีเตียง Queen Size 1 เตียง มีตู้แขวนเสื้อผ้า โต๊ะกระจก บาร์และตู้เย็น โต๊ะหัวเตียงอีก 1 ตัว ไม่มีไดร์เป่าผมและเครื่องต้มน้ำ (ตรงนี้ตอนที่ดูคลิปแนะนำที่ยังเป็นเจ้าของเดิมมี) แต่ก็ขอไดร์และกาต้มน้ำชงกาแฟจากเจ้าของรีสอร์ทได้ครับ
2 ด้านของห้องเป็นกระจกเปิดโล่ง เห็นทะเลได้จุใจ
อีกด้านของห้องก็แบบนี้เลย จะนอนท่าไหนก็เห็นทะเล นอนเปิดแอร์เย็น ๆ เปิดม่านดูทะเลก็ไม่ร้อน (แต่แนะนำให้ไปนอนเปลหน้าห้อง ลมเย็น ๆ พัดตลอด ยุงไม่ค่อยเจอ รับรองหลับเพลิน) เท่าที่นอนมาสามคืน แดดจัด ๆ จะอยู่ช่วง 10.00 - 12.00 พอเข้าช่วงบ่ายแดดจะอ่อนลงแล้ว จะถ่ายรูปแบบเห็นคนด้วยริมทะเล ต้องช่วงบ่ายเพราะแดดจะส่องมาทางด้านข้างเรา ไม่ย้อนแสงแบบถ่ายตอนเช้า แต่ถ้าไม่เอาติดคน ถ่ายตอน 10.00 - 11.30 สีทะเลแจ่มสุด ถ่ายทะเลอย่างเดียวช่วงบ่ายสีจะจืดลงนิด ๆ ครับ
ฝั่งนี้จะเห็นเรือน้อยมากเพราะเลยเขตจอดเรือ (ใครเป็นแฟนพันธุ์แท้เรือให้เลือกรีสอร์ทอื่น) หน้าห้องมีระเบียงมีเก้าอื้นั่งเล่น 2 ตัว และเปลตาข่าย (มีทุกห้องเลย) ส่วนห้องนี้เป็นห้องเดียวของรีสอร์ทที่เปิดโล่ง 90 องศาแบบในรูป ด้านข้างมีที่ตากผ้า แดดส่องถึงตอนช่วงเช้า แห้งแน่นอน หน้าห้องมีบันไดขึ้น และมีที่ล้างเท้าก่อนขึ้นบันได (แถวที่ล้างเท้ามีปูเสฉวนตัวเล็ก ๆ เยอะ ระวังเหยียบนะครับ สงสารน้อง
ห้องน้ำ
ห้องน้ำค่อนข้างกว้างกว่าที่คิดเป็นฝักบัวอาบน้ำ มีเครื่องทำน้ำร้อน (แต่ไม่ต้องเปิดเครื่องน้ำก็อุ่นอยู่แล้วครับ) มีสบู่ แชมพู อ่างล้างหน้า ชักโครก ดูสะอาด ไม่น่ากลัว ม่านกั้นโซนเปียกโซนแห้งก็เป็นของใหม่ ไม่มีรา เคาท์เตอร์อ่างอ้างหน้าก็ขาว ๆ ดูใหม่ ๆ ครับ
ทะเลหน้ารีสอร์ท
และนี่คือภาพทะเลหน้ารีสอร์ทช่วงเวลา 10.00-11.30 น. ได้ทะเลไล่สีกันตั้งแต่สีขาว ฟ้าอ่อน ฟ้า ฟ้าอมเขียว น้ำเงิน ครบโทนกันไปเลย หาดหน้ารีสอร์ทค่อนข้างใส ปะการังจะอยู่เลยไปหน่อย เล่นน้ำได้เลย ไม่ค่อยเจอเรือพุ่งเข้ามาที่หาด แต่ถ้าเลยไปหน้าหาดของหลีเป๊ะบีช รีสอร์ท จะมีเชือกกั้นให้ดำน้ำดูปลาการ์ตูนได้ด้วย (ดำดูนีโม่หน้าหาดได้เลย มันดีสุด ๆ แล้ว) ส่วนหน้าหาดด้านภูเขานั่นคือโซเดียส ซีซัน รีสอร์ท หาดเขาไม่เห็นเรือจอดเลย รีสอร์ทนี้กิจกรรมเยอะ มีบาร์ริมทะเล มีหาดส่วนตัว (โซเดียสบีช) และเดินอ้อมไปชมพระอาทิตย์ตกได้ด้วย เดินจากอันดามันบีชรีสอร์ทไปไม่ไกลครับ
หาดโซเดียส
ว่าแล้วก็เดินมาให้ดูเลย จุดนี้จะเป็น Zodiac Beach หาดส่วนตัวของโซเดียส ซีซันรีสอร์ท (พักรีสอร์ทอื่นก็มาใช้บริการห้องอาหาร บาร์ และถ่ายรูปเล่นที่หาดนี้ได้ครับ มีพร็อพสไตล์ฮาวาย ๆ เต็มไปหมด
หาดซันเซ็ต
ใกล้ค่ำ เราสามารถเดินอ้อมหาดโซเดียส ก็เจอหาดซันเซ็ตหน้าเม้าเทิร์นรีสอร์ท (Mountain Resort) อย่างที่เคยบอกไว้ครับว่าหาดฝั่งนี้จะมีหินมากหน่อย เรามานั่งบนโขดหินชมพระอาทิตย์ตกกันตรงนี้ได้ บรรยากาศดี มีลมพัดตลอด ไม่ต้องรำคาญยุงเลย
จุดเชื่อมระหว่างหาดโซเดียส กับหาดซันเซ็ต
พอพระอาทิตย์เริ่มหายแต่ยังมีแสงอยู่บ้าง พาไปเดินถนนคนเดินกันดีกว่า เราเดินออกถนนหน้ารีสอร์ทได้ แต่จะเจอน้ำขังอยู่บ้าง (ชาวบ้านเดินลุยน้ำขังกันปกติมาก เหมือนไม่มีน้ำ) ถ้าจะเลี่ยงน้ำขังให้เดินออกทางชายหาดไปทางซ้ายของหาดซันไรส์ เดินผ่านโรงเรียนหลีเป๊ะ แล้วเดินเข้าสักรีสอร์ทนึง (อาจจะศลิสารีสอร์ท หรือวาปีรีสอร์ท) ก็ไปโผล่ถนนปกติที่ใกล้ถนนคนเดินได้ครับ
ถนนคนเดินเกาะหลีเป๊ะ
ว่าด้วยเรื่องถนนคนเดิน ถ้าคุณอ่านคำแนะนำร้านอาหารดัง ๆ ก่อนยุคโควิด คุณจะพบว่า ปัจจุบันทุกร้านปิดหมดเลย เช่น ร้านจ่ายาว ร้านภูบาร์ ร้านโรตีเตอร์บิลัง ปิดหมด ถนนคนเดินก็มีคนมาเดินบ้าง ไม่มากนัก มีร้านอาหารเปิดหลายร้านอยู่เหมือนกัน สามารถมาเดินซื้อของฝาก เสื้อผ้า หาร้านนวด คลินิก ที่พัก ร้านโชห่วย เซเว่น หรือร้านขายอุปกรณ์ดำน้ำและเดินหาด แถวนี้เลย
เซเว่นแห่งเดียวบนเกาะ
หน้าเซเว่นดูคนจะเยอะที่สุดแล้ว บนเกาะหลีเป๊ะรณรงค์ไม่ใช้ถุงพลาสติกกัน ควรพกกระเป๋าผ้าเข้าเซเว่นด้วย บางรีสอร์ทจะมีกระเป๋าจ่ายตลาดให้ใช้ในห้องด้วย เอาออกมาซื้อของได้ รถแท็กซี่พ่วง คิดราคารายบุคคล เที่ยวละ 50 บาท ต่อคน เมื่อย ๆ หรือหิ้วของเยอะก็จ้างได้ครับ หน้าเซเว่นจะมีหลายคันเลย
ร้านไทยเดิม
ร้านอาหารแนะนำคืนแรกต้องที่นี่เลย ร้านไทยเดิม ถ้าเดินมาจากถนนคนเดิน ผ่านแยกเซเว่นแล้วตรงไปอีกนิดก็เจอครับ อาหารรสชาติดี ราคาไม่แพงและยังใช้คนละครึ่งกับเราเที่ยวด้วยกันได้อีก
กลางคืนยังมีแสงไฟ
เนื่องจากช่วงนี้รีสอร์ทเพิ่งเปิดตัวใหม่ คนจึงยังไม่ค่อยมีมาพักที่รีสอร์ท กลางคืนจะวังเวงเล็ก ๆ แต่ไม่ต้องกลัวเงียบเพราะห้องนี้ติดหลีเป๊ะบีชรีสอร์ท คนพลุกพล่านมาก หาดหน้าห้องมีเตียงชายหาดเปิดไฟให้ด้วยยามค่ำคืน กลางคืนถ้าเป็นไปได้อยู่แต่ในห้องจะดีที่สุด เพราะปูจะออกหากินเยอะ ปูปกติวิ่งเร็วอยู่แล้ว แต่ปูเสฉวนอีกนั่นแหล่ะที่เดินช้า อาจสังเวยชีวิตใต้เท้าคุณได้ นอนที่นี่ อยู่ในห้องก็ยังได้ยินเสียงทะเลตลอดเวลา ไม่เงียบ ๆ วังเวงแน่นอน (ส่วนสิ่งเร้นลับ ไม่เจออะไรนะครับ ตลอด 3 คืนเลย ที่หลีเป๊ะปลอดภัยตอนช่วงสึนามิด้วย)
รุ่งเช้าวันที่ 2
เช้าเลยดีกว่า อยู่หาดซันไรส์ ก็ต้องตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นสิ
เดินทางไปดำน้ำโดยเรือหางยาว
เช้าวันใหม่ ผมมีนัดกับเรือเหมาไป เพราะเวลาลงน้ำเราต้องถอดหน้ากากอนามัย ยังไม่พร้อมคลุกคลีผู้คน ก็เลยเหมาไปเอง ปกติทัวร์จอยทริป ราคาจะไม่แรง เลือกได้ว่าจะดำน้ำโซนใน (ราคาถูกที่สุด แวะร่องน้ำจาบังที่มีปะการัง 7 สีด้วย) โซนนอกแพงกว่า ปกติจะแถมมาแวะร่องน้ำจาบังด้วย การจะดำน้ำดูปะการัง 7 สีให้ดีที่สุดควรเลือกวันขึ้นหรือแรม 8 ค่ำ บวกลบสามวัน น้ำจะไม่เชี่ยวมากและไม่ขุ่นมาก แต่รู้อะไรไหมครับ ผมพลาดที่ไม่ศึกษาเรื่องนี้มา มารู้วันก่อนไปว่าวันที่ผมจองทัวร์คือ แรม 1 ค่ำ ซึ่งน้ำขึ้นน้ำลงแบบจัดเต็ม ร่องน้ำจาบังเชี่ยวที่สุด แรงสุด และขุ่นสุด จะรอดไหม จะได้เห็นปะการัง 7 สีไหมนะ
ลงน้ำจุดแรกที่ร่องน้ำจาบัง
พอถึงร่องน้ำจะมีเชือกหน้าตาแบบนี้เป็นวง ๆ อยู่สามวง คนขับเรือก็ชี้ ๆ ว่าอยู่ในวงนั้น ที่เหลือคือมาสเตอร์การ์ดก็ไม่ช่วยอะไร ลงน้ำไปสิเพ่ เกาะเชือกไปนะ เอาชูชีพไปด้วยเผื่อเมื่อยจะได้ใส่ลอยเฉย ๆ น้ำเชี่ยวมากแบบถ้าปล่อยเชือกก็ปลิว ควรใส่ตีนกบจะเกาะจะว่ายได้ดีขึ้นครับ แล้วเชือกเนี่ยนะ บางจุดมันจะมีหอยสองฝาสีขาวที่ตัวมันข้างในมีหนามยื่นออกมาสีดำ ๆ เหมือนหอยเม่น ผมโดนแทงนิ้วไป 1 จึ๊ก และเชือกเนี่ย ไถจนร่องเล็บหลุดมาแล้ว (เลือดซิบเชียวตอนกลับเรือ)
เกาะเชือก สาวเชือกไปให้ถึงจุดหมาย
ปะการัง 7 สี
แม้จะเป็นวันที่น้ำขุ่นที่สุดและกระแสน้ำแรงที่สุด ถึงเกาะเชือกก็ยังพอมองเห็นปะการัง 7 สีได้นะ แค่ไม่สามารถดำลงไปถ่ายใกล้ ๆ ได้ แต่เห็นเป็นทุ่งดอกไม้ใต้ทะเลแบบนี้ก็ฟินแล้ว
อีกมุม
เสียดายที่น้ำแรง ลงไปถ่ายใกล้ ๆ ไม่ได้ ไปคราวหน้าจะดูข้างขึ้นข้างแรมดี ๆ แล้ว แต่อย่างน้อยก็โชคดีที่ได้รูปล่ะนะ ไม่ใช่ขุ่นจนมองไม่เห็นอะไรเลย
ถ่ายตัวเองซะหน่อย
อันนี้คือเฮือกเดียวที่ดำลงไปในโซนร่องน้ำ แล้วดันเป็นเฮือกที่กระแสน้ำพัดน้ำขุ่นมาพอดี สรุปเห็นนายแบบชัดเจน 555
เกาะอาดัง
เมื่อหมดแรงต้านน้ำ (มีเรือเหมาแวะมาลงแล้วผ่านไป 4 ลำแล้ว) เรือก็พาไปจุดต่อไปคือเกาะอาดัง ทะเลหน้าหาดสงบ ใส แต่ปะการังก็จะเขียว ๆ ดำ ๆ หน่อยนะครับ
เล่นกับแสงใต้น้ำหน้าหาดที่เกาะอาดัง
เกาะหินงาม
จุดต่อไปคือเกาะหินงาม เกาะต้องคำสาป ที่มีคำสาปไว้ว่า ผู้ใดหยิบหินไปจะต้องพบกับสิ่งไม่ดีมากมาย เห็นเกาะที่หินงามสมชื่อเหมือนลูกปัดกลม ๆ ยิ่งโดนคลื่นซัดจะเงาวับเลย จะเดินบนเกาะให้เดินแถว ๆ หินที่โดนน้ำนะครับ เพราะหินแห้ง ๆ ร้อนมาก เหมือนเดินลุยไฟ
ใต้น้ำหลังเกาะหินงาม
หลังเกาะหินงาม มีจุดดำน้ำด้วย เรือมาจอดกลางน้ำให้ ถามคนเรือว่าข้างล่างมีอะไรก็ไม่รู้ บอกว่าเห็นเขามาจอดกัน โอ้ว What the Fruit ?
แต่พอดำลงไปดูเท่านั้นก็เจอคำตอบครับ น้องปลาลายเสือนี่เอง กับฝูงมัจฉาและปะการังเขียว ๆ
การดำน้ำก็เล่นง่าย ๆ ครับ เกาะบันไดเรือ
ทะเลแถวที่ไม่ใช่ร่องน้ำ ปะการังอ่อนก็จะไม่ค่อยมี สีสันก็จะไม่สวยงาม อย่างไรก็ตาม ครีมกันแดดก็ควรใช้แบบไม่ทำร้ายปะการังนะครับ เป็นกฎหมายแล้วด้วย
เช่าเรือคายัคใส ที่โซเดียส ซีซัน รีสอร์ท
กลับเกาะหลีเป๊ะแล้ว บ่ายนี้เรามาพายเรือคายัคใสกันดีกว่าครับ เช่าได้ที่ Zodiac Seesun Resort เลยที่ล็อบบี้ตรงห้องอาหาร ชั่วโมงละ 350 เรือของที่นี่มีปีกให้ด้วย ไม่พลิกคว่ำจมในทะเลแน่ ๆ ส่วนน้ำหน้าหาดของโซเดียส ซีซัน รีสอร์ท ก็ใสสวยงามเช่นเดียวกัน ใสจนเห็นปะการังใต้ท้องเรือกันไปเลย
ทะเลหน้าอันดามัน บีช รีสอร์ท
พายเรือจนผิวได้ระดับมีเดียมแรร์แล้ว ก็กลับอันดามันบีชรีสอร์ทครับ น้ำหน้ารีสอร์ทยังคงใสปิ๊ง เห็นใบไม้ลอยได้
หมดแรง กลับห้อง อาบน้ำอาบท่า ชมวิวไป
ต้นมะพร้าวเตี้ย ๆ หน้าหาด
หน้าหลีเป๊ะ บีช รีสอร์ท
สำหรับที่หลีเป๊ะบีชรีสอร์ท หน้าหาดก็สวยไม่แพ้กัน ถ่ายรูปติดเรือนิด ๆ ห้องอาหาร อาหารอร่อย ราคาแรงนิด ๆ แต่ก็คุ้มที่ได้นั่งกินติดทะเลนะครับ
เช้าวันถัดมา ให้ท้องฟ้าเป็นสีชมพู
ส่วนผมก็นั่ง ๆ นอน ๆ ฟังเสียงทะเลไป
เย็น ๆ มาเดินเลียบหาดซันไรส์
ตัดมาทางริมสุดของหาดพัทยา ไหว้ตำหนักกรมหลวงชุมพรสักนิด
หาดพัทยา
หน้าหาดพัทยาทะเลก็จะไม่ไล่สีมากนัก แต่ก็ยังสวย โซนนี้อยู่ริม ๆ หาด เลยมีหินเยอะ ใส่หางเงือกมาถ่ายรูปได้
ดึก ๆ ที่หน้าหาดโซเดียส
ใครกลัวความเงียบเหงา หน้าหาดโซเดียสมีบาร์ของโซเดียส ซีซัน รีสอร์ท มีโชว์ควงกระบองไฟด้วยครับ
พระอาทิตย์เช้าวันกลับ
พนักงานรีสอร์ทก็มาเคาะประตูเรียกให้เตรียมไปขึ้นเรือ เกาะหลีเป๊ะก็เป็นเกาะแมวเหมือนกันนะครับ
เช้าวันกลับนี่แดดดีจริง ๆ
ระหว่างรอรถพ่วงรีสอร์ทมารับก็เก็บภาพไป แสงดี เมฆน้อย
สักรูปก่อนกลับ
แดดยิ่งแรง ทะเลจะยิ่งสีสวยครับ
คราวหน้าจะไม่พลาดเรื่องข้างขึ้นข้างแรมอีกถ้าจะดำน้ำที่นี่ ส่วนใครอยากจะแค่นอนชิลริมหาด มาเมื่อไหร่ก็ได้ครับ ริมทะเลอากาศเปลี่ยนบ่อย เมฆบ้าง ฝนบ้าง ฟ้าใสบ้าง ทั้งวัน ต้องมีสักวันที่ทะเลสวยเป็นของคุณ
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
