8 ธ.ค. 2021 เวลา 12:25 • ท่องเที่ยว
พาขึ้นเขา PILATUS | LUZERN | Switzerland 🇨🇭
🏔ทริปสั้นๆ หน้าหนาวครึ่งวันก็เที่ยวได้จาก Luzern🏔
สวัสดีค่า หลังจากห่างหายกันไปเกือบครึ่งปี ตอนนี้กลับมาพร้อมกับ
ทริป Switzerland ดินแดนแห่งขุนเขาแล้วค่า🎉
ใครที่มาเที่ยว Switzerland 99% ก็จะนึกถึงเมือง Luzern เป็นอันดับต้นๆ
เพราะเป็นเมืองที่ล้อมรอบไปด้วยเขาสวยๆหลายลูก วิวไม่ต้องพูดถึงอะเนอะ
สวยตาแตกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
การเดินทางขึ้นเขา ก็ง่ายแสนง่าย เพราะแต่ละที่ ก็จะมีรถไฟไต่เขา หรือกระเช้าชมวิวพาเราขึ้นไปจนถึงยอดเขาได้เลยไม่ต้องปีนให้ข้อเข่าเสื่อม
วันนี้ขอเปิดทริปด้วยการพาขึ้นเขา Pilatus ที่อยู่ใกล้สถานี Luzern มากกก
เดินทางง่าย สามารถไปเช้า เที่ยงกลับก็ได้ เหลือเวลาอีกครึ่งวันไปเที่ยวต่ออีกแหนะ
ใครอยากรู้ เดินทางยังไงบ้าง ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ไปหน้าหนาวแล้วขึ้นเขาได้มั้ย อ่านโล้ดด
📍พิกัด : Pilatus Kulm , Switzerland🇨🇭
💸ค่าขึ้นเขา : 32.40 chf (มี swiss pass)
🗓วันที่ในรูปคือ 3 ธันวาคม 2019 ช่วงเช้า
📷กล้อง : Iphone 11 pro max
ก่อนเริ่มเดินทางขอบอกข้อมูลคร่าวๆของการขึ้นเขา pilatus กันก่อน
การเดินทางขึ้นเขา สามารถขึ้นได้ 2 ทางด้วยกันคือ
1 ทางด้านซ้ายของแผนที่ เราสามารถนั่งรถไฟจาก luzern มาที่สถานี Alpnachstad แล้วนั่งรถไฟฟันเฟืองไต่เขาที่สูงชันที่สุดในโลก (World Steepest Cog Wheel Railway) พาขึ้นไปถึงยอดเขาได้เลย แต่เส้นทางนี้ ไม่ได้เปิดตลอดทั้งปีนะคะ ต้องดู timetable ดีๆ เพราะเราพลาดมาแล้ว 5555555 เส้นนี้จะเปิดเเค่ช่วงพฤษภาคม ถึงประมาณพฤจิกายนนะคะ
2 ทางด้านขวาของแผนที่ เราสามารถนั่งรถไฟจากเมือง luzern ไปลงที่ kriens แล้วต่อรถบัสไปขึ้นกระเช้าขึ้นไปบนเขากันค่ะ
เริ่มต้นทริปด้วยการนั่งรถไฟไป luzern กันเลย เราพักที่ zurich hb เพราะงั้นจะต้องเผื่อเวลามานิดหน่อยนะคะ ส่วนใครที่พักที่ luzern อยู่แล้ว ก็จะเดินทางสะดวกไม่ต้องเผื่อเวลาเยอะเท่าเราค่ะ
สำหรับการจะขึ้นรถไฟ แนะนำเสริชจากแอพ SBB Mobile สามารถเสริชจากสถานี zurich hb ไปถึง pilatus ได้เลยนะคะ แอพคลอบคลุมการเดินทางทุกอย่างเลย ตั้งแต่รถไฟรถรางรถบัสกระเช้าขึ้นเขาหรือแม้แต่การเดินจากสถานีรถไฟไปป้ายรถบัสก็ยังบอกทาึงให้ สะดวกมากใช้งานง่ายสุดๆ และก็ตรงเวลามากๆด้วยเน้อ
ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เราซื้อ swiss pass มาตั้งแต่ที่ไทยแล้วค่ะ สามารถสั่งซื้อได้จาก klook kkday หรือเอเจนซี่ต่างๆที่เปิดขายน้า ส่วนเราซื้อกับทาง kkday ใช้ส่วนลดบัตร citibank ลดได้ 20% เลยอ่ะ คุ้มมากกกกกกกกก (ไม่ได้สปอนเซอร์นะแม่ จ่ายเองเจ็บเองเด้อ555555555😂)
เมื่อสั่งซื้อเรียบร้อยก็ปริ้นใส่กระดาษ หรือแคปพาสที่เขาส่งมาให้ติดเครื่องไว้ได้เลยย พอถึงวันที่เราจะใช้ swiss pass ไว้ ก็กระโดดขึ้นรถไฟได้เลยไม่ต้องติ้ดบัตรติ้ดเข้าโชว์พาสตรงทางเข้าแต่อย่างใด เพราะที่นี่เขาใช้ระบบความเชื่อใจ แค่จะมี จนท คอยเดินสุ่มตรวจบนรถไฟเท่านั้นเอง ซึ่งถ้าเรามีพาสถ้าเขาเดินทางขอดูก็โชว์ให้ จนท เขาจะสแกน qr code ในพาส ก็ผ่านโล้ด
เม้ามายาวตอนนี้ก็ถึง luzern แล้วค่า ตอนนี้คือเรากำลังนั่งรถไฟเรียบทะเลสาบไปที่สถานี Alpnachstad ใช่ค่ะ เราจะไปทางขึ้นรถไฟไต่เขาที่สูงชันที่สุดในโลก เอ้ ตอนรูปแผนที่เราบอกว่าทางนี้เปิดช่วงไหนน้า😂
มาถึงแล้วค่า สถานีรถไฟไต่เขาที่สูงชันที่สุดในโลก เอ้ะ ทำไมมันดูเงียบเหงาจัง คนหายไปไหนกันหมด
ใช่แล้ว ปิดจ้าาาาาา 55555555555555555555
นี่คือบทเรียนของคนที่ทำการบ้านมาแบบไม่รอบคอบ เพราะเราดูไม่ดีเองว่าทางนี้ปิด เสียเที่ยวเลยน้า เพราะฉนั้น อย่าลืมเปิดเว็บของทาง pilatus ดูให้ดีนะคะว่ามันเปิดมั้ย มีรถไฟรอบไหนบ้างจะได้ไม่เสียเวลาแบบเราเนอะ😂
แต่ไม่เป็นไรค่ะ เรายังมีโอกาสแก้ตัวเพราะมีทางขึ้นอีกทางนึง ซึ่งเช็คเรียบร้อยแล้วว่าขึ้นด้วยกระเช้าเปิดให้ขึ้นได้นะค้า
ไม่รอช้านะเสิร์ชในแอพเลยว่าจากสถานี Alpnachstad ไปที่ ทางขึ้นกระเช้าไปยังไงบ้าง
เราสามารถนั่งไปที่สถานี kriens, mattenhof ได้เลยไม่ต้องไปเปลี่ยนใหม่ที่สถานี luzern นะคะ แล้วก็ต่อรถบัสสาย 16 ไปลงที่ kriens, zentrum pilatus ได้เลย
แล้วก็มายืนรอรถไฟกันเลย สถานีรถไฟที่นี่กว้างใหญ่ เงียบสงบ และลมแรงม้ากกกกกก
เมื่อถึงสถานี kriens, mattenhof สามารถกดตรงบรรทัด walk จากในแอพ ก็จะเป็นแผนที่คล้ายๆ google map เลยค่ะ เป็นเส้นทางให้เราเดินมาที่ป้ายรถบัสได้ง่ายๆเลย
รอไม่นานรถบัสก็มาจอดแล้วว ตรงเวลาสุดไรสุดนะ ตอนขึ้นก็เปิดสวิสพาสโชว์เบ่งคนขับได้เลย ขึ้นไปนั่งสวยๆไม่ต้องจ่ายเพิ่ม รถบัสที่นี่ดูแมพดีๆนะคะระวังนั่งเลย บางทีไม่ค่อยได้ยินค่ะว่าถึงป้ายไหนแล้ว เราจะไปลงกันที่ป้าย kriens, zentrum pilatus กันค่ะ
รู้ตัวอีกทีก็ถึงป้าย kriens, zentrum pilatus แล้วค่ะ พอลงมาก็ข้ามถนนแล้วเดินไปที่สถานีกระเช้าโล้ด (กด walk ในแอพจะขึ้นแมพมาเลยว่าต้องเดินไปทางไหนน้า)
ถ้ามาถูกทาง เราจะเจอป้ายนี้ ถูกทางแน่นอนค่า
ทางเดินไปสถานีกระเช้าจะชันนิดหน่อย หายใจเฮือกใหญ่อยู่นะคะ แต่บ้านแถวนี้น่ารักก ทางผ่านก็มีโรงเรียนด้วย เหมือนเดิมชมบ้านเมืองเพลินๆเลยค่ะ
เดินขึ้นมาตามแมพประมาณ 10 กว่านาทีก็ถึงแล้วค่า เห็นกระเช้าที่ลอยขึ้นไปด้วย เปิดแน่นอนคราวนี้ไม่พลาดแล้ว 5555555555
อันนี้จะเป็นค่าขึ้นกระเช้าจากสถานีนี้ ไปถึงบนเขา pilatus เลย ราคาเต็มไป-กลับอยู่ที่ 57.60 chf ใครมี swiss pass จ่ายแค่ 32.40 chf นะคะ ลดจากราคาเต็มได้เยอะเลยค่ะ บอกเลยว่าถ้ามี swiss pass คุ้มค่ามากกกกกก
ได้ตั๋วมาแล้วว ตอนซื้อเราบอกเขาว่า with swiss pass แล้วก็โชว์ให้ดูเท่าจำนวนคน ก็ได้มาแล้วในราคาคนละ 32.40 chf นะคะ ราคานี้คือรวมค่าขึ้นกระเช้าไป-กลับแล้วเรียบร้อย
ปล. ถ้าใครที่ขึ้นจากฝั่งรถไฟไต่เขา (ในช่วงที่เปิดบริการ) แล้วมาลงทางกระเช้า จะเป็นราคา 36 chf นะค้า
ตรงทางเข้าทางนี้ต้องติ้ดบัตรแล้วเน้อ เอาบาร์โค้ดไปสแกนตรงทางเข้าได้เลย
และนี่คือกระเช้าของเราค่า คนไม่เยอะอย่างที่คิดไว้เลย ไม่ต้องต่อแถวยื้อแย่งแต่อย่างใด กระเช้าด้านในกว้างอยู่ค่ะไม่ต้องนั่งเบียดกันเลย
ขึ้นมาแล้วว คือบ้านเมืองที่นี่น่ารักๆเรียบๆมินิมอลสุดๆง่ะชอบมาก
พอกระเช้าขึ้นมาเรื่อยๆก็ถึงเมฆหมอกจ้า ใจคอบ่ดีเรยแม่ ฟ้าจะเปิดมั้ยเนี่ย หมอกหนาสุดไรสุด แต่เราเช็คพยากรณ์อากาศมาแล้วห้าเปิดน้า ทำไมหมอกหนาขนาดนี้
เหย เริ่มมีหวัง หมอกเริ่มจางๆแล้วแกเอ้ย ละคือวิวอ่ะ สวยไรเบอร์นั้นอ่ะงง ต้นไม้สูงม๊ากกกกกกกกกก ละแบบหิมะเกาะยอดใบไม้เหมียนแม่คะนิ้งเงี้ย เริ่มขาวๆแล้ว แง สวยยยยยยยยยยย
ออกมาจากเมฆหมอกแล้วจ้าาาาาาา สวยตาแตกแล้วแม่ ขึ้นไปจะขนาดไหนอ่ะะะ
เหมือนอยู่คนละโลกเลย สวยมากกกกกกกกก ขาวโพลนไปหมด อันนี้เราจะได้รูปที่ย้อนแสงนิดนึงนะคะ ใครอยากได้รูปแสงสวยๆ แนะนำมาช่วงบ่ายๆรูปต้องสวยกว่าเราแน่นอน
ตื่นเต้นง่ะ สวยแบบถ่ายรูปได้เป็นล้านรูปเลย ระหว่างทางจะผ่านสถานีต่างๆสำหรับคนที่จะเล่นสกีก็จะขึ้นลงตามที่เขาจะเล่นสกีกันนะคะ ส่วนเราก็นั่งยาวๆเลยค่ะ
เมื่อถึงสถานี Fräkmüntegg คือสุดทางของกระเช้าเล็กแล้ว แต่ๆๆ ยังไม่ถึงนะคะ ต้องขึ้นกระเช้าใหญ่ขึ้นไปอีกต่อนึงก่อน
จะมาทุกๆ15นาทีนะคะ รอไม่นาน กระเช้าก็มาถึงแล้ว
วิวสวยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก ใส่ ก ไก่กี่ล้านตัวดี คือของจริงมันเต็มๆตา วิวแบบ 360 องศา สวยทุก องศาเลย
ขึ้นมาเรื่อยๆก็สวยเรื่อยๆ
กระเช้าใหญ่จะมีเก้าอี้ให้นั่งอยู่ไม่กี่ที่ ถ้านั่งได้นั่งริมหน้าต่างแล้วถ่ายรูปแพนให้เห็นวิวครึ่งนึงเราครึ่งนึงในรูป สวยมากจ้าแม่
ในที่สุดเราก็ขึ้นมาถึงสถานี pilatus kulm ค่า สูงจากน้ำทะเลถึง 2,132 m หรือ 7,000 ft คือสูงมากกกกกกกก และวิวสวยมากกกกกกกกกกกกกกกก ฟ้าเปิดเป็นใจสุดๆไปเลย ยิ้มออกจนหน้าบานกันไปข้าง
สวยทุกมุมอะแม่จ๋า
เมื่อขึ้นมาถึงแล้วก็ขอลงรูปครอบครัวหน่อยนุง แม่แฮปปี้ลูกก็แฮปปี้ค่า วิวสวยมากกแบบมากๆ ถ่ายได้ทุกมุม
เมื่อแชะรูปจนหน่ำใจก็ขึ้นบันไดไปดูวิวข้างบนกันค่ะ ลืมบอกไป ว่าหนาวมากกกกกกกกกกกกกกก ลมแรงสุดๆนะคะ ยิ่งเรามาหน้าหนาวด้วย ต้องเตรียมตัวเตรียมชุดกันหนาวและที่สำคัญคือรองเท้าที่ลุยหิมะได้นะคะเพราะอันตรายมากถ้าใส่รองเท้าธรรมดาแล้วเดินขึ้นบันไดหรือเนินที่มีหิมะเกาะ ยิ่งหิมะที่เป็นน้ำแข็งเนี่ยยิ่งลื่นมากๆ
เราขึ้นมาได้แค่ครึ่งทางก็พบว่า หยุดดีกว่า หนาวมากกกกกกกกกกกกกกกกก และกลัวลื่นตกบันไดก่อนได้รูป555555555555 แต่พอละสายตาจากบันได มามองวิว ก็ต้องตะลึง แง สวยแบบสวยสุดลูกหูลูกตาไปเลยยยยย
แต้มบุญสูงมากๆที่พอขึ้นมาแล้วไม่มีเมฆข้างบนมาบังวิวเลย เห็นวิวสวยๆไกลสุดตาพร้อมกับทะเลหมอกขาวๆ
ยืนปักหลักที่ตรงนี้ ได้รูปสวยมากนะคะ ส่วนแม่และพี่ หนีลงไปก่อน ไม่เอาแล้วรูป เพราะหนาวมากกกกกกก 5555555555
Example รูปจากมุมนี้ สวยมากกกกกกก ลอกมุมกันได้ไม่หวง 55555555555555 หนาวไม่กลัว กลัวรูปไม่สวยนี่แหละค่ะ คือมันหนาวมากกกกกกกก ลมแรงผมปลิว รีบถ่ายแล้วรีบกลับเข้าในอาคารเลย
ถ่ายรูปจนหน่ำใจ กินแซนวิชที่ทำมาเป็นมื้อเที่ยงเรียบร้อย ก็ถึงเวลาลงค่ะ ต้องไปแล้วน้าคุณ pilatus❤️
ที่จริงมุมถ่ายรูปสวยๆมีอีกเยอะมากกกก แต่เราทนหนาวไม่ไหวจริงๆเลยได้มุมมาเท่านี้แต่ก็พอใจแล้วค่ะ สวยตาแตกจริงๆ
สำหรับ half day trip ที่ pilatus ก็จบแล้วค่า ขากลับก็กลับทางเดิมได้เลย นั่งกระเช้าต่อรถบัสกลับไปที่สถานี Luzern ได้เลย
ช่วงบ่าย เราจะพาล่องเรือไปขึ้นเขา Rigi ดูพระอาทิตย์ตกกันนนน
โฆษณา