16 ธ.ค. 2021 เวลา 12:00 • ประวัติศาสตร์
พ่อเป็นถึงคนสนิทประธานเหมาเจ๋อตง แต่ในบั้นปลายตกอับถูกลดขั้นเป็นกรรมกร (โทษฐานปล่อยให้สื่อวิพากษ์ท่านประธาน) ส่วนพี่สาวของเขาฆ่าตัวตายเพราะถูกกลั่นแกล้งหลังพ่อตกอับ และ “สีจิ้นผิง” เองก็เป็นหนึ่งในปัญญาชนที่ถูกกวาดต้อนไปรับใช้ประชาชนด้วยการทำไร่ไถนา ก่อนจะไต่เต้าขึ้นมาเป็นหัวหน้าท้องถิ่นที่ตนรับใช้ และขึ้นสู่จุดสูงสุดของชีวิตด้วยตำแหน่งประธานพรรคคอมมิวนิสต์ในปี 2012 และปีต่อมาก็เป็นผู้นำสูงสุดของประเทศจีน ดังที่โลกรู้จักเขาในวันนี้
1
หลังจากปี 2018 ที่จีนประกาศรื้อแก้กฎหมาย โดยอนุญาตให้ผู้นำประเทศอยู่ในตำแหน่งได้ไม่จำกัดระยะเวลาเพียง 2 สมัย โลกเสรีก็เริ่มหันไปมองจีนอย่างจริงจัง แล้วก็เป็นดังคาด ต้นเดือนที่ผ่านมาสีจิ้นผิงก็ได้รับการลง “มติประวัติศาสตร์” ให้เขาอยู่ในตำแหน่งต่ออีกเป็นสมัยที่สาม และไม่มีใครรู้ว่าจะอยู่ถึงเมื่อไหร่ เพราะเขาสามารถอยู่ไปได้เรื่อยๆ โดยชอบด้วยกฎหมาย
6
การอยู่ในอำนาจอย่างต่อเนื่องมีข้อดี นั่นคือนโยบายและกลยุทธ์การบริหารใดๆ สามารถดำเนินต่อเนื่องได้อย่างยืนระยะ และเวลาคือปัจจัยสำคัญที่จะพิสูจน์ประสิทธิผลของนโยบายใดๆ และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในสมัยของเหมาเจ๋อตงและเติ้งเสี่ยวผิง ผู้นำเพียงสองคนเท่านั้นในอดีตที่ได้รับมติเห็นชอบให้สามารถผูกขาดอำนาจแบบนี้ได้ แผนการของพวกเขายิ่งใหญ่พลิกแผ่นดิน
7
แม้แผนของประธานเหมาจะถูกมองว่าล้มเหลว โดยเฉพาะการปฏิวัติวัฒนธรรม แต่แผนการของเติ้งเสี่ยวผิงนั้นต่างไป เขานำเอาโลกทัศน์แบบตะวันตกมาประยุกต์ใช้และอ้าแขนต้อนรับโลกาภิวัตน์ เศรษฐกิจจีนภายใต้การนำของเติ้งเติบโตอย่างก้าวกระโดดปีละ 10-15% ในปี 1980 ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศจีนต่อประชากรคือ 195 ดอลลาร์ พอมาถึงปี 2018 มันพุ่งไปถึง 9,770 ดอลลาร์ ไม่นับคุณภาพชีวิตประชาชนที่ดีขึ้นอย่างทันตาเห็น
9
แต่มันก็มีเหตุผลที่ชัดเจนในทางจิตวิทยารัฐศาสตร์เช่นกัน ว่าทำไมผู้นำที่ผูกขาดอำนาจตลอดชีพจึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะ “ลุแก่อำนาจ” หรือใช้อำนาจในทางมิชอบ
1
ต้นปีที่ผ่านมาสีจิ้นผิงช็อคโลกด้วยแผนการระยะยาวของเขาที่เรียกว่า "Common Prosperity" ซึ่งมีเป้าหมายกระจายความมั่งคั่งให้เท่าเทียม ทำให้เกิดปรากฎการณ์ที่โลกตะวันตกเรียกว่า Tech Crackdown ซึ่งแม้จะไม่ถึงกับล้างบาง แต่ก็ออกกฎหมายควบคุม “ความมั่งคั่ง” ของเทคคัมพานียักษ์ใหญ่สัญชาติจีนอย่าง Tencent, Alibaba, Xiaomi, Didi ฯลฯ โดยมีมาตราการเช่น บังคับให้ลดเงินเดือนผู้บริหาร บริจาคเงินเพื่อสังคม และเสียค่าปรับโทษฐานร่ำรวยเกินไป เป็นต้น
9
Alibaba ถูกบังคับให้บริจาคเงินราว 1.5 หมื่นล้านเหรียญภายในปี 2025 เพื่อสนับสนุนสาธารณประโยชน์ คิดเป็น 31% ของแคชบาลานซ์ของบริษัท ส่วน Tencent นั้นโดนไปก่อนแล้วในจำนวนเงินที่ใกล้เคียงกัน แน่นอน ถ้าเราเป็นประชาชนจีนทั่วไป เราคงถูกใจสิ่งนี้
3
เงินจำนวนนี้แม้นับว่ามหาศาลขนาดไหนก็ไม่ทำให้ยักษ์เหล่านั้นล่มจ่ม ทว่าผลกระทบแท้จริงของมาตราการนี้คือความเชื่อมั่นในการลงทุนจากต่างชาติ ตลอดจนการพัฒนาของภาคเอกชนจีนเอง เพราะท่าทีเช่นนี้ชี้ชัดถึงเผด็จการซึ่งอยู่ด้านตรงข้ามคุณค่าของการค้าเสรี บรรดาสื่อการเงินโลกตะวันตกประมาณการณ์ว่าจีนจะสูญเสียมูลค่าทุนแท้จริงมากถึงหลักล้านล้านเหรียญ ปีนี้จีดีพีไตรมาสที่สามของจีนเติบโต 4.9% น้อยกว่าไตรมาสก่อนซึ่งอยู่ที่ 7.9% โดยสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากวิกฤตโรคระบาดระดับโลกด้วย แต่กระนั้นจีนก็ยังโตอยู่ดี
5
นี่เป็นเพียงแง่มุมเล็กๆ ของแดนมังกรภายใต้การนำของชายผู้ทะเยอทะยาน โลกจับตาจีนทุกย่างก้าว ตั้งแต่ท่าทีทางการทหารที่กลับมาอ้างสิทธิ์ในทะเลจีนใต้ในพื้นที่ที่เป็นข้อพิพาทกับหลายประเทศ ทั้งที่รับปากว่าจะไม่ทำตัวเป็นพี่ใหญ่รุกรานใคร / การแสดงความไม่พอใจชัดเจนในสนธิสัญญาความมั่นคง AUKUS ที่สหรัฐฯ อังกฤษ และออสเตรเลีย จับมือกันกระชับความมั่นคงทางการทหาร / การแสดงไมตรีสนทนากับโจ ไบเดน แต่ย้ำชัดว่าอย่ามายุ่มย่ามกับไต้หวัน (ของอั๊วนะ) / ความโหดร้ายที่ปฏิบัติต่อมุสลิมชนกลุ่มน้อยอุยกูร์ / และไหนจะนักเทนนิสจีนมือวางอันดับต้นของโลกที่หายตัวไปทันที หลังจากเธอออกมาแฉการถถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยนักการเมืองระดับสูงของพรรค ฯลฯ ทุกเรื่องราวเรารู้ความจริงเพียงบางส่วนเท่านั้น หรืออาจไม่รู้เลย
8
ประวัติศาสตร์จะจารึกการเมืองยุคสมัยของสีจิ้นผิงอย่างไร เป็นเรื่องที่โลกจับตาดูใกล้ชิด โดยเฉพาะเมื่อลมตะวันออกดูจะพัดแรงกว่าลมตะวันตกมากขึ้นทุกที และยักษ์ใหญ่แห่งโลกตะวันออกในวันนี้ ชัดเจนแล้วว่าเขาจะเขียนประวัติศาสตร์ของเขาเอง โลกจึงได้แต่ลุ้นอยู่ไกลๆ ขออย่าให้มันซ้ำรอย
1
โฆษณา