• John Wilkes Booth
มือสังหารผู้ปลิดชีพอับราฮัม ลินคอล์น
...ค่ำคืนของวันที่ 14 เมษายน 1865 ประธานาธิบดี อับราฮัม ลินคอล์น ได้ถูกลอบสังหารโดยฝีมือของชายคนหนึ่ง โดยการใช้อาวุธปืนยิงไปที่ศีรษะของเขา ส่งผลให้ประธานาธิบดีลินคอล์นเสียชีวิตในเช้าวันถัดมา
เหตุการณ์ในครั้งนั้น ถือได้ว่าเป็นเหตุการณ์ลอบสังหารประธานาธิบดีครั้งแรก และเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความสั่นสะเทือนอย่างมากในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ
โดยชายผู้เป็นมือลอบสังหารประธานาธิบดีลินคอล์น คือนักแสดงละครเวทีหนุ่มวัยเพียง 26 ปี ผู้มีนามว่า 'จอห์น วิลค์ส บูธ' (John Wilkes Booth)
และในบทความนี้ แอดมินจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเรื่องราวความเป็นมาเป็นไปของชายคนนี้ อะไรที่ทำให้เขากลายมาเป็นมือสังหารประธานาธิบดีได้...
บูธลั่นไกปืนใส่ลินคอล์น
จอห์น วิลค์ส บูธ เกิดเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 1838 ที่เมืองเบลแอร์ (Bel Air) รัฐแมรีแลนด์ สหรัฐฯ โดยเขาเป็นบุตรคนที่ 8 จากทั้งหมด 10 คน ของ จูเนียส บรูตัส บูธ (Junius Brutus Booth) ซึ่งเป็นนักแสดงละครเวทีชื่อดังของอเมริกาในช่วงเวลานั้น
ในช่วงวัยเด็ก บูธมีความใฝ่ฝันที่อยากจะเป็นนักแสดงละครเวทีตามรอยพ่อของเขา
เมื่ออายุได้ 17 บูธก็เริ่มต้นในอาชีพนักแสดงละครเวที โดยเขาได้แสดงละครเวทีเรื่องแรก คือเรื่อง "Richard III" (ผลงานประพันธ์ของ วิลเลียม เชกสเปียร์) ที่โรงละครในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมรีแลนด์
และด้วยความสามารถทางด้านการแสดงของบูธ ก็ได้ทำให้หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้รับการเซ็นสัญญาเข้าสังกัดคณะละครเวทีชื่อดัง ของเมืองริชมอนด์ รัฐเวอร์จิเนีย
ในปี 1862 บูธได้ย้ายมาแสดงละครเวทีอยู่ที่นิวยอร์ก โดยหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของนิวยอร์ก ที่มีชื่อว่า "The New York Herald" ได้เคยกล่าวถึงบูธ ในฐานะที่เขาเป็นนักแสดงละครเวทีหน้าใหม่ ที่มีฝีมือการแสดงที่ยอดเยี่ยม และเป็นที่น่าจับตามองอย่างมาก
โดยในปี 1863 บูธได้ไปแสดงละครเวทีเรื่องหนึ่งที่มีชื่อว่า "The Marble Heart" ที่โรงละครฟอร์ด (Ford's theatre) ในกรุงวอชิงตัน ดีซี โดยในวันนั้น ก็ได้มีแขกพิเศษคนหนึ่ง ที่ได้มาชมการแสดงของบูธด้วย
ซึ่งชายคนนั้นก็คือ ประธานาธิบดี อับราฮัม ลินคอล์น นั่นเอง
ลินคอล์นอาจจะไม่คาดคิดว่า ชายที่กำลังแสดงละครอยู่บนเวทีที่เขาได้ดูอยู่นั้น จะกลายมาเป็นผู้ที่ปลิดชีพเขาในเวลาต่อมา
จอห์น วิลค์ส บูธ
อีกสิ่งหนึ่งที่ทุก ๆ คน อาจจะยังไม่รู้ก็คือ นอกจากที่บูธจะเป็นนักแสดงละครเวทีแล้ว ในอีกแง่มุมหนึ่ง เขายังมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องราวของการเมืองอีกด้วย
ย้อนกลับไปในช่วงทศวรรษที่ 1850 บูธได้ไปเข้าไปเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองหนึ่งที่มีชื่อว่า "Know-Nothing Party" พรรคการเมืองที่มีแนวคิดหัวรุนแรงสุดโต่ง โดยพรรคนี้มีเป้าหมายสำคัญ คือการกำจัดกลุ่มคนอพยพ ชนพื้นเมืองอเมริกัน รวมไปถึงคนผิวดำให้หมดสิ้นไปจากอเมริกา
ซึ่งพรรค Know-Nothing Party นี้ ในอนาคตจะกลายมาเป็นต้นแบบสำคัญของกลุ่ม Ku Klux Klan (KKK) กลุ่มลัทธิเหยียดผิว ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดของสังคมอเมริกา
นอกจากนี้ในปี 1859 บูธยังได้ไปเข้าร่วมกับกองกำลังอาสาสมัครเวอร์จิเนีย (Virginia militia) ซึ่งเป็นกองกำลังที่ทำหน้าที่ปราบปรามกบฎของ จอห์น บราวน์ (John Brown) อีกด้วย
** จอห์น บราวน์ คือใคร?
จอห์น บราวน์ เป็นนักเคลื่อนไหวที่ต้องการให้อเมริกามีการเลิกทาส โดยวิธีการที่บราวน์ใช้ในการเลิกทาส ก็คือการใช้ความรุนแรง และต้องการให้ทาสผิวสีจับอาวุธต่อสู้กับทางการ เพื่อปลดแอกตนเอง
โดยในปี 1859 บราวน์พร้อมด้วยพรรคพวก ได้บุกยึดคลังแสงของรัฐบาลในรัฐเวอร์จิเนีย เพื่อนำอาวุธแจกจ่ายให้กับทาสผิวสี
ทางฝ่ายรัฐบาลของสหรัฐฯ มองว่าการกระทำดังกล่าวของบราวน์เป็นกบฎ ทำให้มีการส่งกองกำลังต่อสู้กับกองกำลังของบราวน์ ท้ายที่สุดบราวน์ก็ถูกจับกุม และถูกลงโทษให้ประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ
เมื่อสงครามกลางเมืองอเมริกาเริ่มต้นขึ้นในปี 1861 บูธก็ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มหัวรุนแรงของฝ่ายสมาพันธรัฐ (Confederate) ซึ่งเป็นฝ่ายต่อต้านประธานาธิบดีลินคอล์น และไม่ต้องการให้อเมริกาเลิกทาส
โดยพวกเขาได้วางแผนที่จะทำการลักพาตัวลินคอล์นหลายต่อหลายครั้ง เพื่อเรียกค่าไถ่และยุติสงครามกลางเมืองที่เกิดขึ้น
โดยในช่วงเดือนมีนาคม 1865 พรรคพวกของบูธ เคยวางแผนที่จะทำการลักพาตัวลินคอล์น ในขณะที่ลินคอล์นอยู่ที่เมืองวอชิงตัน ดีซี แต่สุดท้ายแผนการดังกล่าวก็ล้มเหลว
เมื่อแผนการลักพาตัวประธานาธิบดีลินคอล์นล้มเหลวหลายต่อหลายครั้ง ท้ายที่สุด บูธจึงต้องการที่จะทำสิ่งที่รุนแรงมากกว่านั้น ซึ่งก็คือการสังหารลินคอล์น
และแล้วในค่ำคืนของวันที่ 14 เมษายน 1865 ปฏิบัติการสังหารประธานาธิบดีลินคอล์น ก็ได้เริ่มต้นขึ้น ...
ในคืนวันนั้น ประธานาธิบดีลินคอล์นพร้อมด้วยภรรยาของเขา ได้เดินทางมาที่โรงละครฟอร์ดในกรุงวอชิงตัน ดีซี เพื่อชมการแสดงละครเวทีเรื่อง Our American Cousin
เวลาราว 22.15 น. บูธพร้อมด้วยอาวุธปืนพกรุ่นเดอร์ริงเจอร์ (Derringer) ก็ได้เดินมาที่บริเวณชั้นที่นั่งคนดูด้านบน ที่มีประธานาธิบดีลินคอล์นนั่งชมการแสดงอยู่ ก่อนที่เขาจะลั่นไกปืน ไปที่ด้านหลังศีรษะของลินคอล์นอย่างกระชั้นชิด
เมื่อลั่นไกปืนแล้ว บูธก็ได้กระโดดลงมาจากชั้นที่นั่งคนดูของลินคอล์น มาที่พื้นที่ด้านล่างของเวที ก่อนที่เขาจะพูดตะโกนออกมาเป็นคำว่า
"Sic semper tyrannis! ,The South is avenged!"
- ความตายของจอมเผด็จการ! นี่คือการแก้แค้นของฝ่ายใต้!
บูธกระโดดลงสู่ด้านหลังก่อนที่จะหลบหนี
หลังจากนั้นบูธก็รีบวิ่งหลบหนีออกจากโรงละครฟอร์ดไป ส่วนทางด้านของประธานาธิบดีลินคอล์น ก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหว และได้เสียชีวิตลงในเช้าของวันถัดมา
หลังก่อเหตุ บูธพร้อมด้วยเพื่อนของเขาที่สมรู้ร่วมคิดกับแผนการนี้ด้วย ก็ได้หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่โรงนาแห่งหนึ่ง ในเมืองพอร์ต รอยัล (Port Royal) รัฐเวอร์จิเนีย
จนกระทั่งในวันที่ 26 เมษายน 1865 เจ้าหน้าที่ของทางการ ก็ได้พบกับที่ซ่อนของบูธและพวก จึงได้ทำการปิดล้อมโรงนาแห่งนี้ไว้
แต่บูธกับพรรคพวก ก็ไม่ยอมจำนนต่อเจ้าหน้าที่ โดยบูธได้สั่งให้เผายุ้งฉาง เพื่อหลอกล่อทางเจ้าหน้าที่
ในขณะที่ไฟกำลังลุกโหมยุ้งฉางอยู่นั้น ก็ได้มีเจ้าหน้าที่ของทางการคนหนึ่งที่มีชื่อว่า โทมัส คอร์เบ็ตต์ (Thomas Corbett) ได้ใช้ปืนยิงไปที่ตัวของบูธ
โดยคอร์เบ็ตต์ต้องการที่จะยิงไปที่แขนของบูธ แต่ปรากฏว่ากระสุนดังกล่าว กลับไปถูกที่คอของบูธแทน
บูธถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิตที่โรงนา
ท้ายที่สุดในอีก 3 ชั่วโมงต่อมา จอห์น วิลค์ส บูธ ผู้ทำการสังหารประธานาธิบดีลินคอล์น ก็ได้เสียชีวิตลงที่โรงนาแห่งนี้นั่นเอง
ส่วนทางด้านของพรรคพวก ที่ได้หลบหนีมากับบูธ ก็ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวไว้ได้ ก่อนที่จะถูกรับโทษให้ประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ ในเวลาต่อมา
*** Reference
#HistofunDeluxe
- 7
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
