CODA (2021) | ทุกครอบครัวล้วนมีภาษาของตัวเอง
CODA หรือที่ย่อมาจาก “Child Of Deaf Adult” ความจริงคืออยากดูตั้งแต่ทาง Apple TV+ ปล่อยตัวอย่างออกมาแล้ว เพราะนอกจากหน้าหนังที่ปกคลุมไปด้วยบรรยากาศดีๆ จากวิวทะเล รวมถึงประเด็นที่พูดถึงเสียงเพลง และความฝัน
หนังยังคว้ารางวัลจากเทศกาลซันแดนซ์ปีล่าสุดไปถึง 3 ตัว หนึ่งในนั้นคือรางวัลใหญ่อย่าง Grand Jury Prize ซึ่งหลังๆ มานี้ไม่ว่าจะเป็นหนังรางวัลจากซันแดนซ์ หรือดราม่าอารมณ์แนวๆ นี้ มันเป็นอะไรที่ค่อนข้างตอบโจทย์การดูหนังของเรามาก นี่เลยเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่คิดว่าไม่ควรพลาดเด็ดขาด แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้ฉายในไทย
เป็นออริจินอลคอนเทนต์ที่ต้องมุดไปดูอเมริกาหรือของประเทศอื่นๆ ก่อน (เคยมีกำหนดฉายในไทยเดือนนี้ซึ่งไม่รู้ว่าจะนำเข้ามาเมื่อไหร่)
เรื่องราวของ รูบี้ (Emilia Jones) เด็กสาวผู้หลงรักในการร้องเพลง เติบโตมากับครอบครัวชาวประมงของเธอที่หูหนวกกันทุกคน มีเธออยู่คนเดียวที่ได้ยินเป็นปกติ หลังจากรูบี้ได้เข้าชมรมประสานเสียงกับทางโรงเรียน การตัดสินใจครั้งใหญ่จึงเกิดขึ้นเพราะดูเหมือนมีสองสิ่งที่ไปด้วยกันไม่ได้ระหว่างครอบครัวที่ต้องการเธอ กับความฝันในการร้องเพลงที่ราวกับเป็นเสียงเรียกร้องมาจากหัวใจ
พล็อตเรื่องง่ายๆ แค่นี้เลย แต่จุดนี้เองที่หนังเลือกที่จะเล่ามันอย่างละเอียดอ่อน ชวนน้ำตาไหล เต็มไปด้วยความความเข้าอกเข้าใจในการก้าวผ่านปัญหาในแบบที่อบอุ่นมากๆ
หนังพูดถึงความขัดแย้งที่รูบี้ และครอบครัวต่างได้รับ เงื่อนไขที่แตกต่างกันทำให้บางเวลาเธอรู้สึกแปลกแยกจากครอบครัว เหมือนเป็นคนนอกไปโดยปริยาย ขณะเดียวกันเธอก็รู้สึกว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องดูแลครอบครัว (เพราะมีเธอคนเดียวที่ได้ยินปกติ จึงง่ายต่อการสื่อสารการดำเนินชีวิต)
มันเลยเป็นเรื่องที่ยากและชวนหนักใจมากๆ ที่ต้องพยายามถ่ายทอดให้คนในครอบครัว(ที่ไม่ได้ยิน) รับรู้ถึงความฝันที่เธอมีอยู่ว่าเธอ 'รักการร้องเพลงแค่ไหน' และเธอ 'ขับร้องออกมาได้ไพเราะเพียงใด' อีกทั้งเรื่องธุรกิจประมงที่ต้องเดินหน้าต่อโดยมีเธอเป็นคนสำคัญ ก็มีหน้าที่มากขึ้นตามมาเรื่อยๆ
การที่พ่อแม่เธอไม่สนับสนุนเรื่องร้องเพลงทำให้ความไม่มั่นใจของรูบี้มีมากจนไม่กล้าลงมือทำอะไร แต่สุดท้ายยังไงทุกคนก็ต้องเติบโตไปในทางของตัวเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สิ่งเดียวที่อีกฝ่ายจะทำให้ได้คงจะเป็นภาษาที่สื่อสารด้วยความเข้าใจ เชื่อใจ ยอมรับในกันและปล่อยให้ฝันที่ใครตั้งใจนั้นเกิดขึ้นจริง
เรียกว่าเป็นหนัง Coming of Age ที่ดีงามสมกับรางวัลเรื่องหนึ่งเลยนั่นแหละ มากไปกว่านั้นคือมันให้อารมณ์หนังครอบครัวได้เต็มอิ่มมากๆ
อย่างไรก็ตาม เสน่ห์ที่โดดเด่นจับใจเราคือพาร์ทดราม่าที่เล่าผ่านความเรียบง่ายโดยไม่ต้องเรียกร้องความสนใจใดๆ มากมายเลย แต่สามารถทำเราอินไปกับมันได้อย่างลึกซึ้งจริงๆ ชอบตรงนี้แหละ เอาเป็นว่าถ้าเข้าไทยเมื่อไหร่จะมาแชร์เพื่อเป็นการ remind กันอีกรอบ ใครชอบแนวนี้พลาดไม่ได้เลย เพลงเพราะมากด้วยนะ
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
