11 ธ.ค. 2021 เวลา 12:11 • ธุรกิจ
บริษัทที่บริการให้เด็ก แต่ผู้ปกครองไม่ปลื้ม
Shuddle บริษัทที่ก่อกำเนิดขึ้นมาเพื่อดูแลบริการเด็กๆ ที่ต้องไปเรียนตามปกติที่โรงเรียน หรือเรียนพิเศษหลังเลิกเรียน รวมทั้งไปสถานที่ต่างๆ ที่พ่อแม่ไม่สามารถไปดูแลด้วยตัวเองได้ จากความคิดดังกล่าว จึงมีการก่อตั้งบริษัทนี้ขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้
แต่ความเป็นจริงก็คือ บริษัทนี้จำเป็นต้องปิดตัว หลังจากเปิดให้บริการได้เพียง 2 ปีเท่านั้น
2
เกิดอะไรขึ้น ทำไมธุรกิจที่มีแนวโน้มจะสร้างสังคมให้ปลอดภัยและมีความเป็นไปได้ทางธุรกิจ ถึงล้มละลาย
วันนี้ผมจะเล่าให้ฟัง
.
เมื่อความปลอดภัยของเด็กๆ กลายมาเป็นโมเดลธุรกิจ
Shuddle เป็นบริการรับ-ส่งทั่วไป เหมือน Grab ในสมัยนี้ แต่ต่างกันตรงที่ Shuddle นั้นเป็นบริการสำหรับเด็กๆ เท่านั้น
Nick Allen ผู้ก่อตั้ง Shuddle นั้นเคยลงมือทำธุรกิจขนส่งผู้โดยสารในลักษณะแบบนี้มาก่อนในนามของ “Sidecar”
โดยหลังจาก Sidecar ได้เปิดทำการธุรกิจไประยะหนึ่ง ก็พบว่า ลูกค้าที่เป็นผู้ปกครองมีความต้องการให้บริษัทไปรับ-ส่งลูกๆ ของพวกเขาไปธุระในที่ต่างๆ เช่น ไปโรงเรียน ไปเรียนพิเศษ ไปทานอาหาร หรือไปทำรายงาน ซึ่งตอนนั้น Sidecar ยังไม่มีความพร้อมในการรับ-ส่งเด็กในลักษณะนี้
Nick มองเห็นว่าเรื่องนี้เป็นโอกาสทางธุรกิจ ที่ยังไม่มีใครสนใจทำมาก่อน
1
เขาจึงได้เริ่มก่อตั้ง “Shuddle” เพื่อมาตอบโจทย์ดังกล่าว
Nick ได้กล่าวว่า “โดยไอเดียตอนนั้นคือ การตั้งบริษัทเน้นให้มีชื่อเสียงในการดูแลครอบครัว และบริษัทก็เริ่มต้นได้ดี มันปลอดภัย และนั่นก็คือ Passion ของเรา สร้างสังคมที่น่าเชื่อถือ สำหรับคนขับ , ผู้ปกครอง และแน่นอน สำหรับเด็กๆ”
.
บริษัทได้เน้นโฆษณาว่าบริษัทมีขั้นตอนในการคัดสรรคนขับที่มีความเข้มงวด และมีรายละเอียดมากมายเพื่อให้ได้คนขับที่บริษัทและผู้ปกครองจะไว้ใจได้ โดย Shuddle เลือกที่จะจ้างเหล่าคุณแม่ พี่เลี้ยง หรือแม้กระทั่งครู เพื่อมารับส่งเด็กนอกเวลางาน
Shuddle ได้สร้างบริการที่เป็นที่ต้องการของคนจำนวนมากก็จริง แต่ผู้ปกครองหลายคนต่างก็ต้องผิดหวังไปตามๆกัน
หากเราดูจากรีวิวของ แอพพลิเคชั่น จะสังเกตได้ว่า มีคนบ่นถึงการที่ Shuddle มักจะปล่อยให้ลูกๆ ของพวกเขาต้องยืนรอนาน และที่ยิ่งหนักไปกว่านั้นก็คือ มีการยกเลิกที่นัดไว้บ่อยมาก
1
ฝ่ายบริการลูกค้าของ Shuddle ก็ไม่ต่างอะไรกับตัวของบริการมากนัก ไม่ค่อยจะมีใครมารับสายโทรศัพท์เมื่อผู้ปกครองจะโทรร้องเรียน หรือแม้กระทั่งการคิดที่จะโทรกลับหาลูกค้า
1
ถึงแม้ว่าจะมีลูกค้าบางส่วนที่ติดใจกับบริการนี้ แต่คนส่วนมากกลับพบเจอประสบการณ์แย่ๆไม่ต่างกัน
และพอพูดถึงคนขับรถ การตรวจสอบประวัติอย่างที่พูดไว้ก่อนหน้านั้นก็มักจะไม่ถี่ถ้วน หรือแม้กระทั่งไม่มีเลยด้วยซ้ำ
1
.
ในเรื่องของการจัดการก็เช่นกัน มีรายงานระบุว่า บริษัทนั้นสูญเสียเงินไปกับทุกๆ เที่ยว ที่ให้บริการ พวกเขาคิดค่าสมัครสมาชิกต่อเดือนเพียง 9 ดอลลาร์ หรือตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 280 บาทเท่านั้น ที่หนักที่สุดเลยก็คือพวกเขานั้นก็ติดปัญหาค่าจ้างพนักงาน รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆของบริษัทด้วยเช่นกัน
และปัญหาที่กล่าวไปทั้งหมดนั้นก็นำไปสู่การหายไปของ Shuddle เนื่องจากในปี 2016 หลังจากที่เปิดบริการได้ 2 ปี ที่สะสมปัญหาสภาพคล่องทางการเงินมาตลอด จนไม่สามารถจัดการค่าใช้จ่ายภายในบริษัทได้
จึงจำเป็นต้องปิดตัว Shuddle
2
หากวันนี้คุณทำธุรกิจแล้วเกิดปัญหาเล็กน้อยภายในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นปัญหาในตัวธุรกิจเองหรือปัญหาที่เกิดขึ้นจากตัวพนักงาน หากคุณยังไม่สามารถจัดการได้ เพื่อให้เป็นตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ตั้งแต่วันแรก
ธุรกิจที่คุณวาดฝันไว้ อาจจะไม่เกิดขึ้นและต้องปิดตัวลงเหมือนอย่างกรณี Shuddle ก็เป็นได้
1
.
📌 อย่าลืมกดติดตาม 📌
จะได้ไม่พลาด ความรู้ธุรกิจ นอกห้องเรียน
Facebook: Nop Pongsatorn
Instagram: nop.pongsatorn
LINE: @noppongsatorn
TikTok: nop_pongsatorn
.
#NopPongsatorn #อายุน้อยร้อยล้าน
#ธุรกิจ #นักธุรกิจ
#SME #StartUp
#Shuddle #ข้อคิดธุรกิจ #รถรับส่งนักเรียน
2
.
ที่มาของข้อมูล
-ailory
-abcnews
โฆษณา