11 ธ.ค. 2021 เวลา 14:15 • การศึกษา
"การศึกษาไทย - กล่องสุ่มพิมรี่พาย"
วันนี้ขอพูดเรื่องกล่องสุ่มพิมรี่พาย ฉบับครูรัฐบาลคนหนึ่ง
ในช่วงแรกที่มีกระแสว่าพิมรี่พายทำกล่องสุ่ม 100,000 บาท สิ่งที่นี่ได้รับรู้จากคนใกล้ตัวหลายคนก็คือ "คนสมัยนี้เอาเงินเป็นแสนไปทำแบบนั้นทำไม" "คนที่ซื้อกล่องสุ่มราคา 100,000 บาทต้องเป็นคนแบบไหน" หรือ "มันจะคุ้มค่าอยู่หรอ...จะได้ของถึง 100,000 หรือเปล่า"
แต่พอเมื่อคืนเริ่มมีคลิปเปิดกล่องสุ่มราคา 100,000 บาท ของพิมรี่พายออกมาทาง youtube นี่พบว่าของที่ได้รับจากกล่องสุ่มเป็นเครื่องสําอางเคาน์เตอร์แบรนด์ สกินแคร์แบรนด์ดัง รถมอเตอร์ไซค์ ทองคำ ไปกระทั่งรถยนต์ 1 คัน และก็เริ่มเห็นว่ามีการยกให้กล่องสุ่มของพิมรี่พายเป็นกล่องสุ่มที่คุ้มค่าที่สุด (น่าคิดนะ)
ในฐานะครูมัธยมคนหนึ่ง สิ่งที่เราถอดบทเรียนได้จากความฉลาดของแม่ค้าคนดัง ว่านางฉลาดยังไง ก็จะขอยกตัวอย่างดังนี้
1. การทำกล่องสุ่มครั้งนี้เป็นการเรียกร้องจาก beauty blogger คนนึงที่มาเรียกร้องในหน้าไลฟ์สดของพิมรี่พาย ว่าอยากได้กล่องสุ่มเครื่องสําอางราคา 100,000 บาทไปทำคลิปเปิดกล่องสุ่ม แล้วพิมรี่พายก็ตอบรับภายในเวลาไม่กี่นาที เรามองว่าสิ่งที่พิมรี่คิดว่านางจะได้รับก็คือการโปรโมทที่ไม่ต้องเสียเงินลงทุน เพราะหลาย ๆ คนที่ f กล่องสุ่มไปก็เพื่อไปทำคลิป ซึ่งก็เป็นการตลาดให้พิมรี่อยู่แล้ว ถ้ามองในมุมของการโฆษณานี่คือการโฆษณาที่ลงทุนน้อยที่สุดแต่ได้ผลที่ดีเกินคาดที่สุด และก็ต้องย้ำอีกว่า "นางไม่ได้เป็นคนคิดกล่องการตลาดนี้ขึ้นมา แต่นางเป็นคนรับโอกาสนี้ไว้"
2. ต้องยอมรับเลย วันนั้นคิดตามไม่ทัน เพราะถ้านี่เป็นแม่ค้าที่จะทำกล่องสุ่ม นี่คงจะอยากได้กำไรตอบแทนมากที่สุด อาจจะมีกล่องสุ่มที่ต่ำกว่าแสน มีกล่องสุ่มที่มากกว่าแสน เพื่อให้ได้กำไรมาบ้าง ไม่คิดถึงว่านี่เป็นโอกาสสำคัญในการโปรโมทแบรนด์ตัวเอง เป็นการเพิ่มฐานลูกค้า เป็นการสร้างความแข็งแรงให้กับฐานแฟนพิมรี่พาย และพูดง่าย ๆ คือ "คนที่มาเอฟล้วนมี สปอร์ตไลท์ และสปอร์ตไลท์ทั้งหมดก็จะส่องที่พิมรี่พายคนเดียว"
3. ทักษะการเป็นผู้ประกอบการ ควรถูกบรรจุเข้าไปในหลักสูตรโรงเรียน เพราะเอาจริง ๆ ว่าทุกวันนี้เด็กๆไม่ควรจะได้เรียนแต่เนื้อหาวิชาการที่บางทีเราก็ยังไม่รู้ว่าเขาจะได้เอาไปใช้หรือเปล่า พิมรี่พายก็คงเป็น case study ที่สำคัญอย่างหนึ่งเลยเพราะกว่านางจะมีทุกวันนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย "การถอดบทเรียนจากชีวิตนาง เราคงได้ไอสไตน์เพิ่มคนหนึ่ง"
4. เป็นเรื่องที่ยากนะที่จะให้ครูที่ส่วนมากเก่งในเรื่องการถ่ายทอดองค์ความรู้ มาสอนอะไรแบบนีั จะมีครูสักกี่คนที่เก่งในการทำธุรกิจ เพราะถ้าเก่งในการทำธุรกิจก็คงไม่มาเป็นครู จะหาครูที่จะสามารถจัดการเรียนรู้ให้นักเรียนมีทักษะหรือเข้าใจสิ่งที่ผู้เป็นผู้ประกอบการควรที่จะทำ หรือสามารถที่จะทำให้นักเรียนมองในมุมแบบผู้ประกอบการได้นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย....แต่ต้องไม่ลืมว่า "มีเด็กนักเรียน ม.6 จำนวนหนึ่งที่จบไปก็ทำงานโรงงานหรือเป็นพนักงานเซเว่น ดังนั้นทักษะนี้สำคัญกับนักเรียนมากจริงๆ"
โฆษณา