MASTERING ELLIOTT WAVE by Glenn Neely เป็นหนังสือที่อธิบายมุมมองของทฤษฎีทางด้านการพิจารณาตามหลักการของ ELLIOTT WAVE เอาไว้อย่างละเอียดอีกเล่ม และเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักลงทุนสายทางด้าน Technical analysis อีกเล่ม
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
อย่างไรก็ตามทางด้าน Glenn Neely ได้มีการสรุปหลักแนวคิดของการพิจารณากราฟไว้เป็นหัวข้อๆ ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น หลักในการพิจารณารูปแบบ Elliott wave แบบ Zigzag หรือแบบ Triangle ที่เราพยายามกันเป็นอย่างมากในการทำความเข้าใจตลาดเพื่อหาจุดเข้าให้ดีที่สุด และจุดออกที่เรียกว่าไม่ขายหมูออกไปก่อน
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
นิยามของทฤษฎีที่หนังสือเล่มนี้ให้เอาไว้ มีดังนี้
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
1. รูปแบบของราคาที่เกิดจากหลักจิตวิทยาหมู่
เป็นรูปแบบที่สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมของนักลงทุนว่า ณ ขณะนั้น นักลงทุนกำลังมีอารมณ์อย่างไรบ้าง เป็นอารมณ์ของความโลภ (มักจะสะท้อนให้เห็นเป็นขาขึ้น) หรือความกลัว (มักจะสะท้อนให้เห็นเป็นขาลง) ณ สถานการณ์ต่างๆ ตั้งแต่การเริ่มต้นการเดินทางของกราฟจนจบการเคลื่อนที่นั้นๆ โดยเฉพาะเมื่อนักลงทุนทั้งตลาดมีความคิดเห็นเหมือนกัน ก็จะส่งผลต่อกราฟได้อย่างชัดเจน
หรือสามารถกล่าวได้อีกความหมาย คือ "เป็นทฤษฎีที่เอาไว้จัดระเบียบราคาที่ยากต่อการระบุ ให้สามารถคาดการณ์และระบุสถานการณ์ของกราฟจากพฤติกรรมของนักลงทุนที่อยู่ในตลาดได้"
แต่ไม่ว่าพฤติกรรมของนักลงทุนจะคิดเห็นอย่างไร หากมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของการลงทุนไป กราฟก็จะแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น และอาจจะเป็นสัญญานที่ทำให้เราทราบก่อนล่วงหน้าว่ากราฟจะมีการเปลี่ยนแปลงทิศทางในการเคลื่อนที่เกิดขึ้นในอนาคต
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
2. การเคลื่อนที่ของกราฟที่เกิดขึ้นอย่างไม่เป็นระเบียบ
ในการคาดการณ์พฤติกรรมใดๆ ของนักลงทุนที่จะส่งผลต่อกราฟนั้น จะอยู่ภายใต้ข้อจำกัดของทั้ง ระยะของราคา (แกน Y) และเวลาที่ราคาใช้เดินทาง (แกน X) ซึ่งไม่มีข้อจำกัดอย่างแน่ชัดว่าจะต้องใช้ระยะที่มากที่สุด หรือน้อยที่สุดในการพิจารณา
ทำให้หลักการในการพิจารณาจะต้องทำการคาดการณ์กราฟในอนาคตจากกราฟที่เกิดขึ้นมาแล้วในปัจจุบัน ณ ช่วงเวลานั้น ดังนั้นเราต้องทำการสังเกตุลักษณะของกราฟอยู่เรื่อย ๆ (เฝ้าหน้าจอกราฟ) จนกว่ารูปแบบของกราฟ ณ ปัจจุบันเกิดขึ้นเสร็จสิ้นแล้วค่อยสามารถเข้า order ได้ (บางทีอาจจะสวนหรือตาม แล้วแต่ Pattern ของกราฟ)
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
3. เป็น TECHNIC ที่มีความเป็นเอกลักษณ์
ทฤษฎี Elliott wave เป็นการพัฒนามาจากการพิจารณาราคาที่เกิดขึ้นในตลาดอย่างแท้จริง ทำให้ผประโยชน์ในการใช้เทคนิคจากทฤษฎีนี้ คือ เป็นทฤษฎีที่ช่วยให้นักวิเคราะห์ค้นพบว่า ตลาดกำลังจะทำอะไร ด้วยเหตุผลอะไร เพราะว่าไม่มีคำว่าโชคดี หรือ โชคร้าย ที่อยู่ในตลาด
จากการที่ทฤษฎีนี้มีการพัฒนามาจากการพิจารณา ราคา ที่เกิดขึ้นในตลาด ดังนั้นการใช้ ราคา เป็นตัวชี้วัด (Indicator) จึงเป็นตัวชี้วัดที่ดีที่สุดในการระบุการกระทำของตลาดที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างดี เพราะว่า ราคา เป็นตัวชี้วัดที่มีผลต่อกราฟโดยตรงนั้นเอง
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
4. ข้อดีของการใช้ทฤษฎี Elliott wave ในการวิเคราะห์กราฟ
1. สามารถประยุกต์ใช้กับ Technology ใหม่ๆ ได้
2. ไม่สนใจการพิจารณาปัจจัยพื้นฐาน
3. สามารถอธิบายพฤติกรรมที่จะเกิดขึ้นได้ทั้งตลาด
4. สามารถเปลี่ยนแปลงและพัฒนาได้ตลอดเวลา
= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =
สรุป
ความหมายของทฤษฎี Elliott wave คือ เทคนิคที่ใช้ในการจัดระเบียบและคาดการณ์ถึงความสัมพันธ์ระหว่าง ราคาของสินทรัพย์ใด ๆ กับพฤติกรรมของผู้ที่ลงทุนอยู่ในสินทรัพย์นั้น ๆ ว่ามีอารมณ์อยู่ในด้านของความโลภหรือความกลัว ที่จะส่งผลต่อราคาในตลาดที่แสดงออกมาอยู่ในรูปแบบของกราฟขาขึ้นหรือขาลงต่อไป
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
