12 ธ.ค. 2021 เวลา 08:04 • หุ้น & เศรษฐกิจ
นิยามของคำว่า Wave
Wave หรือ คลื่นราคา คือ การแสดงการเคลื่อนไหวของตลาดในรูปแบบของการกระทำของราคาที่แสดงให้เห็นถึงทิศทางของการเคลื่อนที่เป็นเส้นตรงของราคา ซึ่งเกิดจากผลต่างของการซื้อและขายของสินทรัพย์นั้น ๆ ตั้งแต่เวลาตลาดเปิดจนถึงตลาดปิด ซึ่งแบ่งเป็นช่วงกรอบเวลาต่าง ๆ หรือเป็นระยะของการเคลื่อนที่ในทิศทางต่าง ๆ ทั้งในแกน X และ แกน Y ที่ประกอบกันขึ้นเป็นโครงสร้างการเคลื่อนที่ของราคาขึ้นหรือลงภายใต้กรอบทิศทางของกราฟ จากราคา ณ เวลาหนึ่งไปยังอีกราคา ณ เวลาหนึ่ง ที่ทำให้ทิศทางเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
เดี๋ยวเราค่อย ๆ มาวิเคราะห์ที่มาของคำนิยามข้างต้นว่า พิจารณาอย่างไร
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
การเคลื่อนที่ของกราฟ
การเคลื่อนที่ของกราฟ คือ พฤติกรรมของราคาที่ทำการเคลื่อนที่จากจุดราคา ณ เวลาหนึ่ง ไปยังอีกจุดราคา ณ เวลาหนึ่ง โดยจุดของราคาที่สร้างพฤติกรรมของกราฟ คือ ผลต่างของการซื้อและขายของสินทรัพย์นั้น ๆ ตั้งแต่เวลาตลาดเปิดจนถึงตลาดปิด หรือ ตั้งแต่เวลาเริ่มต้นจนถึงเวลาปิดของกรอบราคานั้น ๆ หรือเรียกว่า กราฟเชิงเดียว ซึ่งถือเป็นส่วนประกอบที่เล็กที่สุดของกราฟ ที่ประกอบกันขึ้นเป็นกราฟที่มีความซับซ้อนเพิ่มมากขึ้น
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
จังหวะการเคลื่อนที่ของกราฟ
จังหวะการเคลื่อนที่ของกราฟ คือ ความเร็ว หรือ ช้าในการเคลื่อนที่ของกราฟตั้งแต่จุดเริ่มต้นไปจนถึงจุดจบของกราฟ โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะเริ่มต้น ระยะเร่ง และระยะจบกราฟ ซึ่งแต่ละระยะความเร็วของการเดินทางบ่งบอกระยะทั้ง 3 ได้ดังนี้
1. ระยะเริ่มต้น เป็นระยะที่ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนเป็นอย่างมากดังนั้นหากกราฟวิ่งเร็วเกินไปจะส่งผลให้นักลงทุนไม่มีความเชื่อมั้น เนื่องจากหากการเดินทางของกราฟเร็วเกินไปจนทำให้ไม่มีใครสามารถเข้าซื้อได้ทันจะทำให้นักลงทุนเห็นว่าไม่มีความสามารถที่จะยืนราคาได้เพราะว่าไม่มีใครที่จะช่วยดันราคาให้เพิ่มขึ้นต่อไปข้างหน้าได้ ดังนั้นในช่วงระยะเริ่มต้นถือว่าเป็นช่วงเก็บของ ดังนั้นหากเราต้องการซื้อของในราคาถูกควรเก็บของในช่วงนี้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการเดินทางของกราฟที่มีความเชื่องช้า และถือเป็นการวัดใจกราฟไปด้วยว่าจะสามารถเดินทางต่อหรือสามารถกลับตัวได้หรือไม่
2. ระยะเร่ง เป็นระยะหลังจากที่มีการเก็บ order ของนักลงทุนส่วนใหญ่แล้ว และหลังจากนั้นอาจจะมีข่าวหรือเหตุการณ์ทีมาเพื่อช่วยทำการสนับสนุนให้กราฟวิ่งไปในทิศทางที่ควรจะไป กล่าวคือ ถ้ามีข่าวดีก็จะทำให้กราฟวิ่งในทิศทางขึ้น และหากเป็นข่าวไม่ดีก็จะทำให้กราฟวิ่งไปในทิศทางขาลง เป็นต้น ซึ่งในระยะเร่งนี้ความเร็วและระยะของกราฟจะวิ่งได้เร็วก่ว่าระยะเริ่มต้นประมาณ 1-3 เท่า
3. ระยะจบกราฟ เป็นระยะที่กราฟจะวิ่งช้าลงกว่าระยะเร่งแล้วหลังจากนั้นกราฟก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทิศทางของกราฟเชิงเดี่ยวเกิดขึ้น ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนทิศทางอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่ เราจะไปพิจารณาในส่วนของข้อจำกัดอื่น ๆ ต่อไป
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
สรุป
การเคลื่อนที่ของกราฟที่เราจะต้องพิจารณา คือ ความเร็วของการเดินทาง หากเดินทางช้า ๆ นั้นหมายความได้อยู่ 2 ประเด็น คือ เป็นระยะเริ่มต้น หรือ ระยะจบกราฟแล้ว ซึ่งหลังจากนั้นเราจึงรอให้เกิดระยะเร่งของกราฟเกิดขึ้นจึงสามารถจะทำกำไรจากระยะเร่งได้ ทำให้เราสามารถเห็นเป็นการเคลื่อนที่ของกราฟเกิดขึ้นได้ ดังนั้นในการพิจารณา wave สิ่งที่เราต้องสนใจมีอยู่ 2 ประเด็น คือ
1. ทิศทางในการเคลื่อนที่ของกราฟเชิงเดี่ยว
2. ความเร็วของการเคลื่อนที่ของกราฟ
ซึ่งหากจะมีการเปลี่ยนแปลงของทิศทางของกราฟอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่ เราจึงค่อยพิจารณาจากกฎอื่น ๆ ต่อไป

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา