Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Law of Attraction by Tami
•
ติดตาม
13 ธ.ค. 2021 เวลา 11:17 • ปรัชญา
“เราทุกคนเปรียบเหมือนแม่เหล็ก และเรากำลังดึงดูดทุกสิ่งที่เราโฟกัสอยู่”
เราทุกคนเปรียบเสมือนแม่เหล็กจริงๆ ค่ะ เมื่อเป็นแบบนั้น เรากำลังดึงดูดอะไรก็ตามที่เราโฟกัสอยู่ โดยจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตามค่ะ สิ่งที่เราคิด สิ่งที่เราแสดงออกล้วนแล้วแต่เป็นพลังงานที่ส่งออกไป และด้วยแรงพลังนั่นเอง เมื่อมันถ่ายทอดออกไปถึงจุด ๆ นึง ในจุดที่แรงผลักมันมากพอ ผลก็คือสิ่งเรานึกคิด สิ่งที่เราขอ (Manifest) จะเกิดขึ้นจริงค่ะ มันคือกฎ และมันเชื่อถือได้เหมือนกฎแรงโน้มถ่วงที่มีอยู่จริงทางวิทยาศาสตร์ค่ะ
แต่แน่นอนค่ะว่าการจะ Manifest อะไรก็ตามให้เกิดขึ้นในความเป็นจริงอย่างที่หวังย่อมต้องใช้เวลา เหมือนกับหลายๆ เรื่องในชีวิต ที่คงไม่ได้สำเร็จในชั่วข้ามคืน เงินจำนวนหนึ่งที่เราอยากมีมานานแสนนานคงไม่ได้ปรากฏขึ้นมาทันทีทันใดในบัญชีเราเพียงเพราะเรา Manifest 5 นาที แต่มันจะเกิดขึ้นในที่สุดค่ะ
สำหรับเรื่องบางเรื่องที่รู้สึกว่าเราได้ลอง Manifest แล้วจริง ๆ แต่ทำไมมันไม่เกิดขึ้นในชีวิตจริงซักที หรือทำไมผลมันช้าจัง อันนี้แปลว่าลึกๆ แล้วพลังงานที่เราส่งออกไปมันยังมีบางสิ่งภายในที่ขัดแย้งกันเองอยู่ โดยที่เราอาจจะไม่รู้ตัวก็ได้ค่ะ อย่างที่เคยเล่าไปในเรื่อง จิตใต้สำนึกเรา (Subconscious Mind) มันกลายเป็น autopilot ไปแล้ว ดังนั้นการจะ Manifest ในหลายเรื่องที่เราบอกตัวเองมาเสมอว่ามันไม่มีทางเกิดขึ้นกับเราหรอก อาจจะต้องใช้เวลาหน่อย แต่สุดท้ายแล้วถ้าเราสามารถก้าวผ่านความคิดขีดจำกัดเหล่านั้นที่มันกดเราอยู่ได้อย่างแท้จริง สิ่งที่เรา Manifest ก็จะเกิดขึ้นจริงค่ะ
…“กฎหลักของจักรวาล กับแม่ค้าร้านอาหารตามสั่ง”
ลองนึกว่าเรากำลังไปสั่งข้าวที่ร้านอาหารตามสั่งร้านหนึ่ง เราสั่งแม่ค้าว่าเอา ข้าวผัดกระเพราหมูสับ 1 ที่, ข้าวผัดกุ้ง 1 ที่, ต้มยำกุ้ง 1 ที่ และ คะน้าหมูกรอบอีก 1 ที่
แม่ค้าที่รับออเดอร์ของเราไปเขาไม่ได้สนใจหรอกว่าเราชอบอาหารจานไหนมากที่สุด หรือว่าจริงๆ แล้วเราแพ้กุ้งรึเปล่า หรือว่าจริงๆ แล้วเราเป็นคนไม่กินผัก หน้าที่ของแม่ค้าคือ ทำอาหารตามที่เราสั่งเท่านั้น
ที่กำลังจะบอกเพื่อนๆ ตรงนี้ก็คือ แม้ค้าด้านบนนี้เปรียบเหมือนจักรวาล (Universe) ที่เรากำลังสั่งให้เขาทำตามที่เราบอกนั่นแหละ คือ ถ้าเราคิดว่า “เราจน” “เราไม่เก่งพอที่จะได้ตำแหน่งดี ๆ ได้เงินเดือนสูง ๆ” มันก็เป็นเหมือนพลังงานที่เราสั่งกับจักรวาลออกไป แล้วเราก็จะได้รับ “เราจน” “เราไม่เก่งพอที่จะได้ตำแหน่งดี ๆ ได้เงินเดือนสูง ๆ” กลับมา แบบตามนั้นเลย
ถึงตรงนี้ เพื่อนๆ หลายคนอาจจะบอกว่า ไม่ make sense เลย เราคิดถึงเรื่องเงินทองตลอด เราคิดตลอดว่าเราอยากรวย ไม่เห็นจะมีเงินเข้ามาเลย ถึงตรงนี้ อาจจะต้องค่อยๆ คิดอีกทีว่าจริง ๆ แล้วสิ่งที่เราคิดคือความมั่งคั่งร่ำรวยจริง ๆ หรือคิดในเชิงว่าเราขาดเงินอยู่ เราต้องการเงิน เพราะเรา “ไม่มี” เงิน ซึ่งมันจะกลายเป็นการโฟกัสผิดจุด กลายเป็นว่าเรากำลังส่งพลังงานออกไปว่า “เราไม่มีเงิน” แล้วเราจะได้สิ่งนั้นกลับมา
...แล้วเราจะรู้ได้ไง ว่าเรา Manifest ถูกไหม?
สมการง่าย ๆ ตามนี้เลยค่ะ
อารมณ์ดี / รู้สึกถึงพลังงานบวก = สิ่งที่เราปรารถนากำลังเดินทางมาหา
อารมณ์ไม่ดี / รู้สึกถึงพลังงานลบ = สิ่งที่เราไม่ต้องการกำลังเดินทางมาหา
เมื่อไหร่ก็ตามที่เรารู้สึกดี กระชุ่มกระชวยในการขอสิ่งที่เราปรารถนา สุดท้ายสิ่งนั้นจะเกิดขึ้นได้ในชีวิตจริงแน่นอนค่ะ ฉะนั้นความต่างของการที่หลายคนบอกว่าฉันนึกถึงเงินๆ ทองๆ ตลอดแต่ไม่เห็นว่ามันจะรวยขึ้นเลย ให้ลองนึกดี ๆ อีกครั้งค่ะ ว่าตอนเราคิดเรื่องเงิน เรารู้สึกดี รู้สึกมั่นใจ สบายใจ หรือว่าเรารู้สึกกังวลใจ เครียด รู้สึกว่าเงินไม่พอใจ ไม่สบายใจรึเปล่า
ไม่ใช่แค่เรื่องเงินนะคะ เราสามารถสังเกตอารมณ์เราในการ Manifest ในเรื่องทุกเรื่องไม่ว่าจะเรื่องความรัก ธุรกิจ สุขภาพ เพื่อให้การขอสำเร็จดั่งใจหวัง ฉะนั้น ต่อจากนี้ ลองขอแล้วสังเกตตัวเองดี ๆ กันค่ะ ทุกคน
บันทึก
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย