13 ธ.ค. 2021 เวลา 17:28 • การตลาด
“ชีวิต ทัศนคติ และเคล็ดลับความสำเร็จในการขายแบบพิมรี่พาย”
- นี่เป็นการสัมภาษณ์แบบเต็มๆ ครั้งแรกของคุณพิมรี่พาย เจ้าแม่ไลฟ์ขายของที่โด่งดังที่สุดในยุคนี้ จริงๆ แล้วนอกจากขายของ คุณพิมรี่พายยังทำงานอีกหลายอย่างมาก ทั้งเป็นเจ้าของร้านทำเล็บ ทำน้ำพริกของตัวเอง เป็นพรีเซนเตอร์ ร้องเพลง อีกทั้งยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้งค่ายเพลง High Cloud Entertainment กับคุณกอล์ฟ F.Hero และคุณหลุยส์ ธชา อีกด้วย
- ด้วยคาแรคเตอร์ที่ชัดเจนและความมั่นใจเต็มเปี่ยมทำให้คุณพิมรี่พายถูกจับตามองอยู่เสมอ ไม่ว่าเธอจะขยับหรือทำอะไร อย่างกรณีนี้ล่าสุดก็มีการทำกล่องสุ่มใบละแสนบาทดังที่เป็นข่าวกันไป
============
1. กว่าจะได้พูดคุยกัน
============
- คุณวู้ดดี้ได้ทำการติดต่อ อยากคุยกับคุณพิมรี่พายมาเป็นเวลาสามปีแล้ว ทั้งให้ลูกน้องเชิญ เขียนจดหมาย ส่งของขวัญไปให้ จนกระทั่งวันนึงตัวเธอรู้สึกว่าถึงเวลาพร้อมที่จะคุยแล้ว แต่เงื่อนไขของเธอคือ เธอจะไม่ไปออกรายการที่อื่นเลย การจะคุยจะต้องอยู่ในสถานที่เธอเท่านั้น เพราะกลัวว่าตัวเองจะหลุดโฟกัสและลืมเหมือนตัวเองเป็นดารา
============
2. ท่ีมาของการขายกล่องสุ่ม
============
- กล่องสุ่มไม่ได้มีการวางแผนมาก่อน แต่เกิดจากไลฟ์ขายของแล้วมีคนเชียร์ให้ขาย จึงทำการเปิดแสนนึง ซึ่งหลังจากเปิดก็มียอดถึง 100 ล้านภายใน 10 นาที
- ไอเดียการแจกรถมาจากแนวคิดที่ว่า คนที่ซื้อควรได้สิ่งนี้ เพราะลูกค้าให้เธอก่อน คนที่ให้ก่อนควรจะได้รับของมากกว่านั้น ซึ่งโปรเจคนี้เป็นโปรเจคที่ขาดทุน
============
3. วิธีการไลฟ์ของพิมรี่พาย
============
- พิมรี่พายต้องกินเหล้าและเบียร์ทุกวัน รวมถึงเวลาไลฟ์เพื่อให้มีอารมณ์สนุกสนาน ถ้าไม่ดื่มอาจจะเครียดและเกร็ง
- เสื้อผ้าทุกตัวมีทีมฟิตติ้งตัดชุดให้ล่วงหน้าเป็นเดือน มีทีมแต่งหน้าทำผม ทุกอย่างมีทีมทำให้เพื่อเป็นการไม่ให้เสียพลังงานในการขายของ
- ไลฟ์ทุกครั้งต้องจอยที่สุด ใครขอให้อะไรต้องให้ ต้องให้เขาก่อนถึงจะเอาของเขาได้
- ตลอดการไลฟ์ไม่มีการเข้าห้องน้ำ ถ้าปวดคือต้องอั้นจนต้องจบไลฟ์เสมอ เคยยืนไลฟ์จนเมนส์ไหลก็ยังยืน ไลฟ์ต่อ
- เคยไลฟ์เสร็จช้าสุดคือหกโมงเช้า
- การขายของไม่จำเป็นต้องได้กำไรเสมอ เราควรหลุดกรอบ อาจจะขายขาดทุนก็ได้
- เฉลี่ยไลฟ์แต่ละคืนมีคนดูแบบตั้งใจแบบจดจ่อ 70,000 - 100,000 คน ดูผ่านๆ 4,000,000 คน
- คนที่ซื้อของเรามากที่สุดคือ คนเดียวซื้อ 10 ล้านต่อเดือน
- เคยคำนวณรายได้ในการไลฟ์ 8 ชั่วโมงจะได้ประมาณเก้าหลัก
- คนที่มาซื้อของเราเพราะว่าเขาเชื่อใจว่าคนที่ชื่อพิมรี่พายไม่มีทางที่จะค้ากำไรอย่างเอาเปรียบ
- ไม่ค่อยให้ลูกตัวเองดูไลฟ์ เพราะบางคำพูดมันไม่สมควร วุฒิภาวะอารมณ์น้องยังไม่ได้ แต่พอเขาโตขึ้นมันจะเป็นตัวอย่างให้เขาได้ คิดว่าแม่ไม่จำเป็นต้องเป็นคนดีเสมอให้ลูกเห็น แต่ควรทำให้ลูกเห็นว่าถ้าเราทำแบบนี้จะโดนกระแสว่าแบบนี้ ถ้าทำแบบนี้จะโดนชื่นชม เขาจะได้เลือกได้เองว่าเขาอยากทำแบบไหน
- เราเป็นคนรู้จักกาละเทศ รู้ว่าควรพูดอะไรในเวลาไหน เวลาไปเจอผู้ใหญ่ก็ไม่สมควรพูดคำหยาบ เวลาไปเจอคนที่ต้องการความช่วยเหลือ เราก็ต้องพูดจาให้กำลังใจเขา เราไม่ควรจะต้องเป็นบุคคลหน้าเดียว เราควรที่จะรู้จักกาละเทศะว่า เวลาไหนควรทำอะไรหรือพูดอะไร
============
4. เทคนิคในการขายแล้วรวย
============
- ขายแล้วให้ซื้อซ้ำ ได้ไปให้ชอบ ชอบแล้วกลับมาซื้อ ไม่กลับมาซื้อก็ไปเม้าท์กัน ให้ไอที่เมาท์มาซื้อ เนี่ยรวย ขายแล้วไปบอกต่อกัน ขายแล้วต้องไม่จบ ขายนี่แค่เริ่มต้น ครั้งแรกนี่แค่เริ่มต้นเพิ่งรู้จักกัน เดี๋ยวจะต้องรู้จักกันมากกว่านี้
- ถ้าเจอคอมเมนต์ลบๆ จะนำมาปรับแก้ทันที ไม่เสียเวลา ใช้ลูกค้าเป็นครู เอามาเป็นฟีดแบค ลูกค้าอยากได้อะไรเราก็ต้องจัดให้
- เป็นคนที่จ้างลูกน้องแพง เพราะรู้สึกว่าลูกน้องควรได้ เป็นเจ้านาย ไม่ควรเอาเงินคนเดียว ควรคิดเหมือนเขาเป็นหุ้นส่วน
============
5. การไลฟ์ครั้งแรกของพิมรี่พาย
============
- เกิดจากตอนน้ันไม่มีเงินแล้วต้องเอาเงินไปจ่ายลูกน้อง นั่งเลื่อนหาคนยืมเงิน ปรากฏว่าเจอไลฟ์สด มีคนซื้อเต็มเลย เลยลองเอาโทรศัพท์ตั้งไลฟ์ขายดูบ้าง ครั้งแรกมีคนดู 34 คน เป็นเพื่อนสัก 30 คน มีแต่คนถามว่าทำอะไร แต่อีก 4 คนที่ไม่ใช่เพื่อนเราซื้อ 3,000 บาท พอจบไลฟ์เสร็จ เราก็แพ็คของส่งอย่างตั้งใจ และมา ไลฟ์อีก ตอนนั้นคิดแล้วเดือนนึงถ้าไลฟ์ทุกวัน 3,000 บาท x 30 วัน = 90,000 บาท รวยแน่นอน
- คนคอมเมนต์ว่ามืดก็ซื้อไฟมาติด ไลฟ์แล้วมือถือตกก็ไปซื้อที่ตั้ง จนไปเจอคอมเมนต์คนมาบอกว่าแชร์ลงกลุ่มให้แล้ว ตอนแรกก็ยังไม่เข้าใจว่าแชร์ลงกลุ่มคืออะไร แต่รู้ว่าพอคนนั้นพิมพ์แล้วยอดคนดูขึ้นเยอะ เลยบอกให้ทุกคนช่วยแชร์ลงกลุ่ม ทั้งๆ ที่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าคืออะไร
============
6. ความคิดเปลี่ยนไปไหมเมื่อเงินเยอะขึ้น
============
- ไม่เลย เปลี่ยนไปครั้งแรกตอนได้จับเงินล้าน แต่พอมาถึงจุดนี้แล้วไม่ได้คิดว่าแตกต่างอะไรกัน ​​
- คนที่จะสำเร็จคือคนที่บริหารเวลาได้ ไม่ว่าจะรายได้หมื่นหรือแสนหรือล้าน ถ้าคนๆ นั้นมีความสุขและบริหารเวลาได้ “สำเร็จ"
- เงินมันเป็นตัวเปิดทางความสะดวกสบายในชีวิต แต่ถ้ามันได้ถึงจุดๆ นึง ให้บาลานซ์ตัวเองให้ดี
- เรื่องเงินสำหรับตัวเอง พอมานานแล้ว ตั้งแต่สองปีที่แล้ว แต่สำหรับครอบครัวและองค์กรยังต้องแน่นกว่านี้ เรามีลูกน้องประมาณ 2,000 กว่าคน
- หลายๆ คนจะคิดว่าเรารับเยอะมาก แต่ก็จะต้องจ่าย ทุกอย่างมีทุน ทุกวันนี้ยังขาดทุนอยู่ทุกเดือนด้วยซ้ำ “พิมรี่พายจ่ายทุกอย่าง"
- กำไรก็คือความสุขของลูกค้าที่พูดต่อกัน เมาท์ถึงเรา กำไรก็คือแบรนด์ของพิมรี่พาย จะเป็นชื่อแบบนี้ตลอดไป ไม่มีพิมรี่พาย คนในองค์กรก็ไม่ต้องลาออก พิมต้องทำให้แบรนด์ของพิมอยู่ได้ โดยไม่มีพิมมาทำงาน
============
7. ความเป็น “พิมรี่พาย”
============
- มันไม่มีพิมรี่พายคนที่ 2, 3, 4 ได้ ทุกอย่างมันสอนแอคติ้ง คาแรคเตอร์ได้ แต่ถ้าจะมาสอนถึงเรื่องสัญชาตญาณการตัดสินใจ มันเป็นพิมรี่พายไม่ได้ มีแค่คนเดียว
- เป็นคนที่ทำอะไรตลอดเวลา ตอนไปทำนมรู้สึกหงอยมาก ที่ต้องนอนอยู่เฉยๆ มองฝ้าเพดาน ตอนนั้นเครียดมาก
- มีคนเข้ามาจีบบ้าง แต่เราไม่ว่าง เวลา 24 ชั่วโมงของเราถูกจัดระเบียบไว้หมดแล้ว และเป็นคนที่เอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางของโลก ต้องสั่งทุกอย่าง จึงไม่อยากสั่งสามี
- จะอวยพรให้ทุกคนที่ขายออนไลน์ขายดี เพราะไม่เคยคิดว่าตัวเองจะขายคนเดียวหมดอยู่แล้ว อยากให้ทุกคนเปลี่ยนชีวิตได้หมด แล้วโลกจะสนุกกว่านี้ ประเทศจะสนุกกว่านี้
- วันนึงต้องได้ห้างาน ตื่นเก้าโมง ทำตามคิว เป็นคนที่ต้องนอนโรงแรมใกล้ที่ทำงาน จะไม่เสียเวลานั่งรถไปทำงาน เราไลฟ์เปลี่ยนที่ไปทุกวัน เปลี่ยนตามโกดังไปเรื่อยๆ แสดงให้ลูกค้าเห็นว่าเราพัฒนาตนเอง และเอาเงินที่ลูกค้าให้มาสร้างองค์กรให้มันใหญ่ขึ้น
- ต้องทำอะไรสักอย่างที่มันเป็นเรื่องสำเร็จให้ได้วันละนึงเรื่อง ทุกวันต้องมีผลลัพธ์ เพื่อให้องค์กรมันไปต่อได้
- เรามีความสุขกับการทำงาน เราไม่ได้เป็นนักธุรกิจ ไม่ได้เรียนหนังสือสูงๆ แต่เรามีความสุขกับการใช้สัญชาตญาณแก้ปัญหา มากกว่าการใช้เหตุผลของคนเรียนหนังสือเยอะๆ บางทีคนเรียนหนังสือเยอะๆ ใช้เหตุผลแล้วก็ลืมใช้สัญชาตญาณแก้ เราได้เหลากมลสันดานทุกวัน แล้วก็ใช้เซนส์สั่ง ผิดบ้าง ถูกบ้าง ผิดก็เปลี่ยนให้ทัน ผิดแล้วรู้สึกตัวให้เร็ว
- เวลาเราพลาดแล้วร้องไห้ มันเสียเวลา เข้าใจว่าพูดง่ายแต่ทำยาก มีเรื่องที่สอนเราตั้งแต่เด็กคือ ครั้งนึงมีคนมาทวงหนี้นอกระบบที่บ้าน พ่อทำเงินหายแล้วจะโดนยึดรถ พ่อก็ร้องไห้แล้วก็นอนหลับต่อเลย พ่อบอกว่าไม่มีเวลาเสียใจ พรุ่งนี้ต้องทำงานต่อ ทำให้เราจำขึ้นใจว่าไม่มีเวลาเสียใจ พ่อสอนแบบนี้
============
8. ทำไมถึงสนใจที่จะทำคอนเทนต์ในการ give back
============
- เริ่มจากว่าเราเคยมีคนมาเหมาของเราครั้งนึงในชีวิต หัวใจมันพองโตประเมินมูลค่าไม่ได้ ตอนนี้ยังไม่ดีใจเท่าตอนนั้นที่โดนเหมาของ 400 บาท
- ตอนนั้นอยู่ ป. 3 ขายทอดมันให้แม่หน้าเซเว่น ฝนตก แล้วมีคนมาเหมาหมด บอกให้เรารีบเข้าบ้าน จิตใจฟูมาก โลกมันสดใสไปหมด จำความรู้สึกที่ดีใจที่สุดตอนนั้นได้ดี เราเลยอยากให้คนอื่นเขาหัวใจฟู เหมือนที่เราเคยทำมา เคยได้รับมา
- เราอยากจะบอกพี่คนนั้นว่าทุกวันนี้เราทำเหมือนที่พี่เขาทำแล้ว มันอาจจะเป็นเศษเงินของใครก็ได้ แต่ 400 นั้นมันคือจุดเริ่มต้นของพิมรี่พาย เราสามารถเอาตังกลับไปให้แม่แบบภูมิใจ
- ใครที่เป็นแม่ค้าด้วยกัน เราโคตรอินเลย ทุกวันนี้เจอแต่คำถามว่าเป็นแค่แม่ค้าเองเหรอ ขายอะไร มันไม่เท่ มันไม่สวย ไม่หรูหรา ดูจะพัฒนาไม่ได้ ดูเป็นอาชีพที่คนมองข้าม ไม่เห็นค่า เราภูมิใจในการเป็นแม่ค้าของตัวเองมาก และอยากให้แม่ค้าทุกคน ภูมิใจเอาไว้เลยว่าเราไม่ได้เป็นแค่แม่ค้า สักวันนึงเราจะต้องโตได้
- อยากบอกแม่ค้าทุกคนว่า เธอมีสิทธิ์เป็นเหมือนฉันได้ตลอดเวลา ถ้ายังไม่ตาย ถ้ายังอยู่ เป็นให้เห็นแล้วว่ามันเป็นได้จริงๆ อาชีพแม่ค้าก็ไม่น้อยหน้าใคร ยืนในสังคมได้ อยู่อย่างมีศักดิ์ศรี
- ตอนทำคลิปแล้วมี feedback ที่หลากหลาย เราชอบมาก เราชอบเห็นการพูดคุย การแสดงความคิดเห็นที่มันแตกต่าง เราอ่านคนด่า อ่านคนชม ปีนี้อายุ 31 ปี เรายังต้องการคำด่าอีกเยอะมาก เพราะต้องการเอาคำด่ามาแก้ไข อยากไปต่อ
- คำวิจารณ์ทุกคำที่พูดมาแล้วมีเหตุผล เราจะน้อมรับหมดเลยว่า สิ่งนี้ไม่ควรทำ เราผิดพลาด กล้าขอโทษให้เหมือนตอนที่กล้าด่า ขอโทษเสร็จแล้วต้องไปต่อ แล้วอย่าทำซ้ำให้เขาด่าได้อีก
============
9. ถ้าวันนี้คนไม่มีเงินเลย หาเช้ากินค่ำ แล้วอยากเป็นแบบพิมรี่พาย สิ่งแรกที่จะต้องทำวันนี้คืออะไร
============
- ตั้งเซตติ้งตัวเองใหม่ และตัดสินใจทำอะไรสักอย่างได้แล้ว บางคนไม่กล้าจะตัดสินใจ แม้กระทั่งให้ตัวเองจะทำมาหากินอะไร ยังไม่ตัดสินใจเลยว่าจะทำอาชีพอะไร ตัดสินใจ แล้วก็เดินไปตามทางที่ตัดสินใจได้แล้ว
- บางคนกลัวความล้มเหลวไม่กล้าตัดสินใจ อยากเป็นคนนั้น อยากเป็นคนนี้ อยากทำอันนั้น อยากทำอันนี้ ให้ถามตัวเองก่อนว่าตัวเองตัดสินใจจะทำหรือยัง ตัดสินใจก่อนแล้วลงมือทำ ทำไปเรื่อยๆ
- ไม่มีใครสำคัญไปกว่าตัวเอง อย่าไปฟังเสียงมาก ฟังได้ ถ้าฟังเพื่อพัฒนาตนเอง ฟังเพื่อปรับปรุงตัว แต่ต้องเลือกฟัง อะไรที่ไม่มีประโยชน์ไม่ต้องไปฟัง
- เวลาเราโดนแซะ เราก็ว่าคืน เราก็เป็นคนปกติ แต่ไม่เคยเก็บมาเฮิร์ท คนพูดร้ายกับเรา เราก็พูดร้ายกลับ ไม่ยอมให้เขาด่าอยู่ฝ่ายเดียว ใครทำอะไรควรได้รับอย่างนั้นคืน ไม่คิดว่าเราจะต้องปล่อยวาง เราเป็นแม่ค้า เราไม่ใช่พระ
- เวลาคนที่มาคอมเมนต์ จะทำให้เห็นถึงสันดานของตัวเอง เช่น สร้างภาพ เห็นถึงสันดานตัวเอง อีกคอมเมนต์เขียนว่า ขอบคุณมาก เดี๋ยวจะทำตาม อยากเป็นพิมรี่พาย อยากมี อยากขายได้เยอะๆ แล้วอยากจะคืนได้แบบนี้ได้บ้าง มีความสุข แฮปปี้แล้ว
- จบแล้วคือต้องจบ จบแล้วต้อง move on อะไรไม่จริงก็ไม่ต้องรับมาใส่ตัว เสื้อไม่สวยเรายังไม่ใส่ ใส่แล้วก็ดูไม่ดี คอมเมนต์ไม่สวยก็ไม่ต้องหยิบมาใส่ใจ จะทำให้เราดูไม่ดีเหมือนกัน
- อันไหนรุนแรง เราฟ้องเลย ฟ้องแล้วเอาเงินมาทำบุญ อย่าไปว่าเขาจะโกง ถ้าไม่มีข้อมูลที่แท้จริง มันสร้างความเสียหายให้เขาและองค์กร ซึ่งคนอีกเป็นพันคนจะต้องตกงาน ถ้าองค์กรมันพัง เรายอมไม่ได้ เราต้องดูแลคนอีกเป็นพันๆ ชีวิต
============
10. มีวันที่พิมรี่พายจะหยุดไลฟ์ไหม
============
- คิดว่าถ้าอายุ 33 ปี เราจะพักสักหนึ่งปี (ตอนนี้อายุ 31 ปี) จะพักไปนอน เอาลูกไปเที่ยวต่างประเทศ เอาลูกไปเรียนเมืองจีน ให้พูดจีนให้ได้ จะได้หาของมาให้แม่ขาย
- เป้าหมายคือให้เราไม่ต้องทำงาน องค์กรไม่ต้องขับเคลื่อนด้วยพิมรี่พาย ทุกคนจะต้องทำงานแล้วช่วยกันขับเคลื่อนองค์กรไปให้มันแข็งแรง จะไม่มีใครโดนไล่ออกจากองค์กรที่ชื่อพิมรี่พาย
============
11. ฝากส่งท้าย
============
- อยากให้แรงบันดาลใจ ทุกคนเท่ากัน ไม่ได้เท่ากันด้วยฐานะ ชาติตระกูล การศึกษา แต่เท่ากันตรงที่ศักดิ์ศรีความเป็นคนและจิตใต้สำนึก การกระทำจะวัดค่าคนๆ นั้นว่าใครสูงหรือต่ำกว่ากัน
- คนที่เป็นผู้นำจะต้องตัดสินใจให้ได้ขาด มองปัญหาและเลือกสักทาง หางจะได้ตามไปถูก
- อยากให้คนจำเราในฐานะแม่ค้า ต่อให้อายุ 60 หรือวัยเกษียณแล้ว เราก็จะเป็นแม่ค้า
- อย่าใช้หลักการเยอะ เอาหัวใจทำมั่ง ใช้ใจ ใช้เซนส์ทำบ้าง เราเบื่อหลักการ ตามหลักแล้ว นักวิชาการวิเคราะห์ หรือที่เราเรียนมาว่า อยากให้เอาหัวใจ เอาความรู้สึกทำบ้าง ทุกเรื่องเลย
============
สรุปจากรายการสัมภาษณ์ Woody x Pimrypie
===========
#Woody #Pimrypie #WoodyxPimrypie #วันนี้สรุปมา
โฆษณา