Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
arwut jiwarakranon
•
ติดตาม
14 ธ.ค. 2021 เวลา 11:48 • กีฬา
เมื่อ ลาปอร์ต้า กำลังกลืนน้ำลายตัวเอง
นอกจากประเด็นร้อนแรงเรื่องความผิดพลาดของ ยูฟ่า ในการจับสลากประกบคู่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบน็อคเอาท์ ซึ่งประท้วงกันวุ่นวายจนต้องจับใหม่จนสร้างความหงุดหงิดให้กับ เรอัล มาดริด แล้ว ข่าวที่ โจน ลาปอร์ต้า กำลังจะกลับลำหันไปเจราจาทำข้อตกลงกับ cvc กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่จากอเมริกาก็ดูจะสร้างแรงสั่นสะเทือนให้วงการลูกหนังสเปนได้ไม่แพ้กัน
สื่อหลักของสเปนรายงานข่าวตรงกันว่า ลาปอร์ต้า เปิดการเจรจากับ cvc โดยมี ลา ลีกา เป็นตัวกลางคอยประสานเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงกัน ซึ่งเวลานี้ระบุว่า “คืบหน้าไปมากแล้ว”
ท้าวความกันสักนิด สำหรับเรื่องนี้ มีจุดเริ่มต้นจาก ลา ลีกา (LFP) ไปทำข้อตกลงแบ่งขายหุ้น 10% ให้กับ cvc ซึ่งจะทำให้ได้รับเงินอัดฉีดก้อนใหญ่ 2,700 ล้านยูโรเข้ามาในระบบ โดยเม็ดเงินก้อนนี้จะถูกจัดสรรปันส่วนให้แต่ละสโมสรใน ลา ลีกา และ เซกุนด้า อย่างเป็นธรรม โดย บาร์เซโลน่า จะได้รับส่วนแบ่งทั้งสิ้น 270 ล้านยูโร
39 จากทั้งหมด 42 สโมสร ในระดับ ลา ลีกา (20 ทีม) และเซกุนด้า (22ทีม) โหวตเห็นด้วยกับดีลนี้ เพราะมองว่าในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ การได้เงินอัดฉีดเข้ามาจะช่วยพยุงสถานะทางการเงินของสโมสรที่กำลังง่อนแง่นให้ดีขึ้น ยกเว้น 3 สโมสรที่ไม่เห็นด้วย คือ เรอัล มาดริด,บาร์เซโลน่า และ แอธ.บิลเบา ที่มองว่ามันคือการปอกลอกสโมสรของพวกเขาในระยะยาว เพราะต้องแบ่งเอาสิทธิประโยชน์ที่พึงได้ให้กับ cvc ในระยะยาว 50 ปี
ลาปอร์ต้า แถลงว่าข้อตกลงกับ cvc จะทำให้ บาร์เซโลน่า สูญเสียรายได้ในระยะยาวราว 900 ล้านยูโร ซึ่งเป็นการได้ที่ไม่คุ้มเสีย จึงปฏิเสธที่จะทำข้อตกลงด้วย
ผลของการปฏิเสธในครั้งนั้น กระทบชิ่งไปถึงการต่อสัญญากับ ลิโอเนล เมสซี่ นักเตะอันดับหนึ่งของสโมสร เพราะ บาร์เซโลน่า กำลังมีปัญหาทางการเงินอย่างหนักจนค่าใช้จ่ายทะลุเพดานกฏ limite salarial ที่ ลา ลีกา กำหนด จนไม่ได้รับอนุญาตจาก ลา ลีกา ให้ต่อสัญญากับ เมสซี่
การพลาดต่อสัญญากับ เมสซี่ สร้างความโกรธแค้นให้กับแฟนบอลของสโมสรอย่างมาก แต่ ลาปอร์ต้า ก็ออกมาแถลงการณ์ยืนยันว่า มันเป็นสิ่งจำเป็นที่สโมสรต้องทำ
“เรามีสถาบันที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน 122 ปี อันอยู่เหนือผู้เล่นทุกคน แม้กระทั่งผู้เล่นที่เก่งที่สุดในโลก เราจะรู้สึกขอบคุณเขา(เมสซี่) ตลอดไป แต่สโมสรนั้นอยู่เหนือสิ่งอื่นใด”
การตัดสินใจของ ลาปอร์ต้า เป็นเหตุให้ เมสซี่ ต้องโบกมืออำลาสโมสรด้วยน้ำตานองหน้า ภาพการแถลงข่าวของ คิงเลโอ กลายเป็นฉากดราม่าที่สร้างความสะเทือนใจให้กับสาวกกูเล่ส์ทั่วโลก แต่ลาปอร์ต้า ก็พยายามที่จะทำให้ทุกคนเข้าใจว่าการตัดสินใจครั้งนี้เป็นสิ่งจำเป็น ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
ขณะเดียวกันในเวลานั้นมีข่าวลือออกมาตลอดว่า หาก ลาปอร์ต้า ยอมรับข้อเสนอของ cvc ทาง ลา ลีกา จะจัดเงื่อนไขพิเศษให้กับสโมสรเพื่อให้สามารถต่อสัญญากับ เมสซี่ ได้
นอกจากนี้ยังลือกันอีกว่าแท้จริงแล้ว ลาปอร์ต้า ได้ตกปากรับคำ ฆาเบียร์ เตบาส ประธานลา ลีกา ว่าจะยกมือสนับสนุนการเข้ามาถือหุ้นของ cvc ไปแล้ว และสัญญากับ เมสซี่ นั้นไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ทว่ามันต้องถูกเพิกถอนไปในตอนท้าย เพราะโดน ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานเรอัล มาดริด เกลี้ยกล่อมด้วยผลประโยชน์จากเมกะโปรเจคต์ ‘ซุเปอร์ลีก’
วันเวลาผ่านไปการเจราจาต่อรองเข้ามาถือหุ้น 10% ของ cvc ไม่สามารถคืบหน้าไปได้ เนื่องจาก เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า และ แอธ.บิลเบา ยังค้านหัวชนฝา ซึ่ง เตบาส พยายามอย่างยิ่งที่จะวิ่งเต้นให้มันเกิดขึ้น
การเจราจากับ เปเรซ ไม่มีทางเกิดขึ้น ทุกคนต่างรับรู้ว่า เตบาส กับประธานชุดขาวเป็นคู่อริกัน แต่ เตบาส เป็นคนฉลาด เขารู้ว่าจะงานนี้จะต้องกล่อมใคร ซึ่งแน่นอนว่าคือ ลาปอร์ต้า เพราะสถานะทางการเงินของ บาร์เซโลน่า ไม่ได้มั่นคงอย่าง เรอัล มาดริด
ซัมเมอร์ที่ผ่านมา ทีมชุดขาวมีเงินมากมายพอที่จะทุ่มซื้อ คิลิยัน เอ็มบั๊บเป้ ในราคา 200 ล้านยูโร แต่กลับกัน ฝั่ง บาร์เซโลน่า นอกจากต้องยอมปล่อย เมสซี่ ออกไปแล้ว พวกเขายังต้องขาย อองตวน กริซมันน์ ให้ แอต.มาดริด , ซ้ำร้ายยังไม่มีวงเงินเหลือให้ใช้ซื้อผู้เล่นใหม่เข้ามาเสริมทัพ ต้องดึงนักเตะฟรีเข้าทีม ซึ่งไม่ได้คุณภาพอย่างที่ต้องการ
ผ่านถึงเดือนธันวาคม ผลงานของ เรอัล มาดริด ยอดเยี่ยม พวกเขานำจ่าฝูงลา ลีกา ด้วยแต้มที่ทิ้งห่างทุกทีม แถมยังเข้ารอบน็อคเอาท์ แชมเปี้ยนส์ลีก ในฐานะแชมป์กลุ่มแบบสบายๆ ตรงกันข้าม บาร์เซโลน่า ตกต่ำลงเรื่อยๆ ต้องแก้ไขสถานการณ์ด้วยการปลด โรนัลด์ คูมัน ออกจากตำแหน่ง และดึง ชาบี เอร์นานเดซ เข้ามากอบกู้ทีม แต่ไม่มีอะไรดีขึ้น
บาร์เซโลน่า บุกไปแพ้ บาเยิร์น มิวนิค ยับเยินในเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ยังผลให้ตกรอบไปเล่นในรายการยูโรป้า ลีก เป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี ส่วนใน ลา ลีกา รั้งอันดับ 8 มีแต้มตามหลังทีมชุดขาวถึง 18 แต้ม แทบจะหมดโอกาสในการลุ้นแชมป์
การตกรอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ลีก ทำให้ บาร์เซโลน่า สูญเสียรายได้ก้อนโต ประกอบกับสถานการณ์ในลีกาที่ส่อแววว่าอาจไม่ติดโควต้าอันดับ 1-4 ทำให้ ลาปอร์ต้า ต้องพยายามแก้ไขสถานการณ์
หนทางเดียวที่ทำได้คือการเสริมทัพ นำนักเตะใหม่ที่มีคุณภาพเข้ามาช่วยยกระดับทีม
ตลอดช่วงเดือนพฤศจิกายนจนถึงธันวาคม มีข่าวออกมาตลอดว่า บาร์เซโลน่า สนใจนักเตะหลายคน และเตรียมคว้าตัวเข้ามาในตลาดหน้าหนาว ซึ่งสร้างความประหลาดใจไม่น้อย เพราะทุกคนต่างรู้ว่ายักษ์กาตาลันยังติดกฏข้อบังคับ limite salarial ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้เงินซื้อนักเตะได้ในราคาสูง
กระนั้น ลา ลีกา มีกฏอยู่ข้อนึงในลำดับที่ 100 ซึ่งเรียกกันสั้นๆว่า ‘กฏ 1 ต่อ 4’
กฏ1 ต่อ 4 คืออะไร ? กฏนี้เป็นกฏที่ ฆาเบียร์ เตบาส ประธานลา ลีกา พูดย้ำอยู่เสมอว่ามันคือทางออกของทีมที่มีปัญหากับกฏเพดานเงินเดือน (limite salarial)
กฏนี้อนุญาตให้สโมสรที่มีปัญหาตรงนี้สามารถซื้อนักเตะใหม่เสริมทัพได้ ในวงเงินสูงสุดเกิน 25% ของทุกๆต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ลดลงของทีม
อธิบายง่ายๆก็คือหากสโมสรสามารถลดค่าใช้จ่ายลง 4 ส่วน และในทุกๆ 4 ส่วนที่หายไป จะสามารถนำเงินมาใช้จ่ายซื้อนักเตะได้ 1 ส่วน
ตัวอย่างเช่น ถ้า บาร์ซ่า ลดค่าใช้จ่ายได้ 4 ล้านยูโร พวกเขาจะได้รับอนุญาตให้ใช้เงินซื้อนักเตะได้ 1 ล้านยูโร
ข่องทางที่ บาร์เซโลน่า จะลดรายจ่ายมหาศาลนี้มีอะไรบ้าง ?
1.ขายผู้เล่น
2.ลดค่าเหนื่อยนักเตะ
3. ลดค่าจ้างเทรนเนอร์และทีมสต๊าฟ
บาร์เซโลน่า มีนักเตะที่ต้องการปล่อยออกจากทีมอยู่หลายคน โดยเฉพาะ ฟิลิเป้ กูตินโญ่ กับ ซามูแอล อุมตีตี้ หากสามารถปล่อยออกไปได้ ออกเหนือจากจะได้เงินค่าตัวแล้ว สโมสรยังได้ลดเพดานค่าเหนื่อยลงอีก และน่าจะมีส่วนช่วยได้ เนื่องจากว่าทั้ง คูตี้ และ อุมตีตี้ ต่างก็เป็นนักเตะค่าเหนื่อยสูงระดับต้นๆของทีม แต่กระนั้นก็อาจจะขายไม่ออก หรือถ้าขายได้ก็อาจจะไม่พอ
อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหนึ่งอ๊อปชั่นที่สามารถช่วยให้ฝันเป็นจริง โดยที่สโมสรอาจไม่ต้องเร่ขายนักเตะแกนหลักของทีมออกไป นั่นก็คือการหาสปอนเซอร์กระเป๋าหนักเข้ามาสนับสนุน
ตามกฏ 1 ต่อ 4 ของ ลา ลีกา เงินจากสปอนเซอร์จะสามารถใช้หักลดเพดานค่าเหนื่อยได้ทันทีโดยไม่ต้องรอคิดในรอบปีถัดไป
แม้จะมีทางออก แต่ทุกคนก็มองว่าไม่ง่ายเลยที่ บาร์เซโลน่า จะไปดีลสปอนเซอร์รายใดเข้ามาในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจตกต่ำไปทั่วโลกเช่นนี้
ขณะที่ทุกคนกำลังสงสัย วันจันทร์ที่ผ่านมามีข่าวออกมาอีกว่า ลาปอร์ต้า พร้อม มาเตอู อเลมานี่ ผ.อ.กีฬา ดอดไปพบกับ มิโน่ ไรโอล่า เอเยนต์ของ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ที่ตูริน ในโอกาสที่พา เปดรี กอนซาเลซ ไปรับรางวัลโกเด้น บอย จากนสพ.ตุ๊ตโต้ สปอร์ต
การพบกันครั้งนี้ระหว่าง ลาปอร์ต้า กับ ไรโอล่า ยิ่งกระพือข่าวลือเกี่ยวกับ ฮาลันด์ ให้ยิ่งดังกว่าเดิม หลังที่ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ซูเปอร์เอเยนต์ชาวอิตาเลี่ยนเพิ่งออกมาให้สัมภาษณ์กับ sport 1 สื่อดังเยอรมันว่า บาร์เซโลน่า คือหนึ่งในสโมสรที่มีโอกาสคว้าตัวดาวยิงนอร์วีเจียนไปร่วมทีม
ท่ามกลางเสียงหัวเราะเย้ยหยันของกลุ่มคนที่ไม่เชื่อว่า บาร์เซโลน่า จะมีปัญญาคว้าตัว ฮาลันด์ ที่ประเมินว่ามีค่าตัวไม่ต่ำกว่า 100 ล้านยูโร ทั้งยังมีเงินกินเปล่าอีก 60 ล้าน มาตอนนี้ดูเหมือนว่าปริศนากำลังจะถูกเฉลยออกมาแล้วว่า บาร์เซโลน่า จะเอาเงินมาจากไหน ทั้งในดีลฮาลันด์ และดีลอื่นๆในเดือนมกราคม
มันขัดเจนขึ้นทุกทีแล้วว่า ลาปอร์ต้า กำลังพา บาร์เซโลนา ผ่าทางตันจากวิกฤติผลงานในสนาม ด้วยการยอมกลืนน้ำลายตัวเอง ซึ่งมันจะส่งผลกระทบต่อความเป็นไปของ ลา ลีกา ทั้งลีก รวมถึง เรอัล มาดริด ที่จับมือเป็นพันธมิตร
กระนั้น อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับกับการต้องตอบคำถามของ บาร์เซโลนิสต้า ทั่วโลกว่า ทำไม ลาปอร์ต้า ถึงมาคิดได้ในตอนนี้ ทั้งๆที่ซัมเมอร์ที่ผ่านมามีโอกาสรั้งตัว เมสซี่ เอาไว้ได้ ทั้งยังมีโอกาสที่จะทำให้ บาร์เซโลน่า แข็งแกร่งกว่าในปัจจุบัน หากเขายอมรับข้อเสนอจาก cvc ตั้งแต่ต้น
การปล่อยให้ทุกอย่างล่วงเลยมาจนถึงตอนนี้
ในตอนที่ เมสซี่ จากไปแล้ว ในตอนที่ บาร์เซโลน่า ตกรอบแชมเปี้ยนส์ลีก ตามหลังจ่าฝูง เรอัล มาดริด สุดกู่ ว่าทำไมถึงเพิ่งคิดได้ มันสายเกินไปหรือเปล่า ?
แล้วประโยคที่ว่า “ไม่มีใครอยู่เหนือสโมสร” นั้น แท้จริงมันหมายความว่าอย่างไร ??!
#เจมส์ลาลีกา
ลาปอร์ต้า กำลังตัดสินใจผ่าทางตันด้วยการกลืนน้ำลายตัวเอง
บันทึก
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย