ชุดขาว ยิงยาวสู่ตำแหน่งแชมป์
ศึกเอล เดร์บี้ มาดริเลนโญ่ ครั้งแรกของฤดูกาล ถูกมองว่า ไม่มากก็น้อย คือการตัดสินแชมป์ ลา ลีกา 21/22 ด้วยเพราะปีนี้ จากสถานการณ์ที่ผ่านมา 15-16 นัด ค่อนข้างชัดเจนว่า เรอัล มาดริด ทำได้เหนือกว่าทีมอื่น ซ้ำยังรักษามาตราฐานของตัวเองเอาไว้อย่างเหนียวแน่น โดยเฉพาะช่วงเดือนตุลาคมถึงกลางธันวาคม
หลังจากบุกแพ้ เอสปันญ่อล 1-2 ที่ กอร์เนย่า เอล ปราต เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม จากนั้นอีก 12 นัดรวมทุกรายการ ทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ ก็ไม่แพ้ใครอีกเลย แบ่งเป็นชนะ 11 เสมอ 1
เฉพาะในลา ลีกา มาดริด ชนะ 7 เสมอ 1 (โอซาซูน่า 0-0) เก็บ 22 แต้มจาก 24 แต้มเต็ม ในการนี้ ยังเป็นการเอาชนะทีมกลุ่มหัวตารางด้วยกันอีก 2 นัด คือชนะ เซบีย่า 1-0 , เรอัล โซเซียดาด 2-0 และถ้าจะนับรวม บาร์เซโลน่า ที่เบียดลุ้นแชมป์กันมาตลอด ก็เท่ากับว่าไม่มีใครรอดพ้นจากความปราชัยไปได้เลย
หากจัดการ แอตเลติ ได้อีกทีม ก็เท่ากับว่านอกจากจะเก็บแต้มจากคู่แข่งได้แล้ว เรอัล มาดริด ยังกุมความได้เปรียบในเรื่องของ เฮด ทู เฮด ซึ่งใช้ตัดสินในกรณีแต้มเท่ากันไปแล้วครึ่งนึง
ว่าตามมาตราฐาน แอตเลติ ของ โชโล่ ซิเมโอเน่ ด้วยขุมกำลัง ด้วยศักยภาพ และประสบการณ์ ถูกยกว่าเป็นเพียงทีมเดียวเท่านั้นที่จะเบรกความร้อนแรงของ เรอัล มาดริด ลงได้ รวมถึงในระยะยาวดีพอที่จะสร้างความกดดัน ไล่บี้ลุ้นแชมป์กับ มาดริด ได้
แต่การโคจรมาเจอกันในคืนวันอาทิตย์ จะเรียกว่า เป็นการเจอกันที่ช่วงเวลาที่ฟอร์มของทั้งคู่แตกต่างกันอย่างมากก็คงไม่ผิด แชมป์เก่าหลุดฟอร์มมาร่วม 2 เดือนแล้ว แม้จะบุกชนะ ปอร์โต้ พลิกสถานการณ์เข้ารอบน็อคเอาท์ แชมเปี้ยนส์ลีก ไปได้ ก็ยังดูเป็นรองค่อนข้างเยอะ ยิ่งสภาพทีมตราหมี ต้องขาดแนวรับคนสำคัญอย่าง สเตฟาน ซาวิช,โฮเซ่ คิมิเนซ ส่วนตัวสำรองชั้นดีอย่าง ซิเม่ เวอร์ซัลจ์โก้ ก็มากระดูกโหนกแก้มแต้มลงสนามไม่ได้ ซ้ำกองหน้าคนสำคัญอย่าง หลุยส์ ซัวเรซ ก็ไม่สมบูรณ์พอจะเป็นตัวจริง อาวุธเข้าทำที่ไว้ใจได้ก็ยิ่งลดน้อยลงไป
ผิดกับ เรอัล มาดริด ที่ได้ คาริม เบนเซม่า ฟิตกลับมาเป็นตัวจริง ทำให้ได้ 11 คนแรกชุดที่ดีที่สุดลงสนาม
ด้วยฟอร์มและขุมกำลังที่เป็นรอง จึงสำคัญอย่างมากที่พวกเขาจะต้องยื้อกับ เรอัล มาดริด ให้ได้นานที่สุดเพื่อสร้างความกดดัน จากนั้นจึงค่อยหาจังหวะผิดพลาดของเจ้าถิ่นเข้าโจมตี
แต่ แอตเลติ กลับพลาดเสียประตูตั้งแต่นาทีที่ 16 ทำให้เกมเข้าทาง มาดริด
ประตูขึ้นนำของ เรอัล มาดริด มาจากการจ่ายบอลพลาดในจังหวะขึ้นเกมของ แอตเลติ ซึ่งความผิดพลาดลักษณะนี้เกิดขึ้นค่อนข้างบ่อยในฤดูกาลนี้ อันเป็นเหตุให้ ตราหมี เสียประตูง่ายกว่าปีก่อน
แต่ยังไง ก็ต้องให้เครดิตกับ เรอัล มาดริด เกินครึ่ง ประตูนี้เกิดขึ้นจากทีมเวิร์คอย่างแท้จริง
ที่น่าแปลกใจคือกองหลังแอตเลติ 4 คนที่วิ่งลงไปในกรอบเขตโทษ ทุกคนมองบอลหมด ไม่มีเหลียวหาตัวประกบเลย ที่ใกล้สุด และน่าจะต้องรับผิดชอบก็คือ โรดรีโก้ เด ปอล
ถ้าอ่านว่า วินิซิอุส จะแหวกผ่าน ฟิลิเป้ ด่านแรกมาทางเส้นหลัง ก็ต้องเห็นแล้วว่ายังไงก็มี ก็องด็อกเบีย คอยซ้อน เขาควรมองหาผู้เล่นเรอัล มาดริด ที่อยู่ใกล้ตัวซึ่งก็คือ เบนเซม่า แต่เขาไม่ได้ทำอย่างนั้น
เมื่อบอลออกจากเท้า วินิซิอุส ก็เรียบร้อย โอบลัค หมดสิทธิ์ป้องกัน
สรุป ในมุมของ เรอัล มาดริด ประตูนี้คือทีมเวิร์คอันยอดเยี่ยม ส่วนในมุมของ แอตเลติ มันคือเกมรับที่ไร้เดียงสาไปหน่อย การวิ่งลงมาช่วยเกมรับของ เด ปอล คือความสูญเปล่า
วิ่งลงมาแล้วไม่อ่านเกม ไม่มองคู่ต่อสู้ ก็ไม่มีประโยชน์ ทั้งๆที่คนเยอะกว่า (7 ต่อ 3)
เรอัล มาดริด ขึ้นนำก็เล่นง่าย เล่นอย่างมั่นใจ ด้วยโมเมนตั้มที่กำลังมาด้วย นักเตะแต่ละคนอยู่ในช่วง on form จึงทำให้ แอตเลติ พลิกสถานการณ์ไม่สำเร็จ แม้ โชโล่ จะพยายามแก้เกม ส่งทั้ง ชูเอา เฟลิกซ์ ,โตมาร์ เลอมาร์ และ ซัวเรซ ลงมาก็ยังทำอะไรไม่ได้ ก่อนจะเสียประตู 2-0 ให้ มาร์โก อาเซนซิโอ ทำให้ มาดริด ปิดเกมอย่างเด็ดขาด
แม้จากนั้น แอตเลติ จะมีจังหวะลุ้นประตูบ้าง แต่ ติโบลต์ กูร์กตัวส์ ป้องกันไว้ได้หมด
มาดริด ชนะ แอตเลติ ไปได้อย่างไม่ยากเย็น เก็บเพิ่มเป็น 42 แต้มจาก 17 เกม ฉีกหนีแชมป์เก่า 13 แต้ม , หนี เซบีย่า รองจ่าฝูง 8 แต้ม (แข่งมากกว่า 1 นัด) ,หนี เบติส อันดับ 3 ไป 9 แต้ม, นำ บาร์เซโลน่า 18 แต้ม
แม้จะยังเหลือเกมอีก 21-22 นัด ยังมีแต้มมากพอให้กลุ่มที่ตามหลังเก็บเกี่ยว แต่ด้วยระยะห่าง ด้วยขุมกำลัง ประสบการณ์ และสถิติในอดีตที่ผ่านมา การลุ้นแชมป์ ลา ลีกา หาก แอตเลติ กับ บาร์เซโลน่า หลุดวงโคจรไปแล้ว ก็แทบไม่ปรากฏทีมม้ามืดอื่นจะมาไล่กวด เรอัล มาดริด ได้เลย
เบติส ปีนี้เล่นได้ยอดเยี่ยมมากก็จริง แต่ระยะยาวก็มองแล้วยากมากที่จะขึ้นมาลุ้นแชมป์ จะมีก็ เซบีย่า ซึ่งอยู่ใกล้ที่สุดที่เคยมีประสบการณ์จากซีซั่นก่อน แต่ภาพรวมก็ยังเป็นรอง ชุดขาว อยู่เยอะพอสมควร
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงแค่ครึ่งทางของการต่อสู้เท่านั้น แน่นอนว่าช่วงใดช่วงนึง มาดริด จะต้องฟอร์มดร็อปลงมา แต่ข้อสำคัญคือเวลานี้ยังมองไม่เห็นว่าจะมีใครที่จะเร่งเครื่องโดยไม่ผิดพลาดในช่วงเวลาที่เหลือเพื่อแซง มาดริด ได้
ตามความเห็นส่วนตัว ลา ลีกา ฤดูกาลนี้ มีแนวโน้มที่จะม้วนเดียวจบครับ
#เจมส์ลาลีกา
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
