The Tower of london หอคอยแห่งลอนดอน🗼🏨
หอคอยแห่งลอนดอนเป็นที่ทางประวัติศาสตร์ที่โดดเด่นเป็นอย่างมากของเมือง ลอนดอน🇬🇧
และหอคอยแห่งนี้ยังมีเรื่องราวสุดแปลกที่นักสืบสวน Tracy borman ได้สืบสวน
และได้สืบสวนเรื่องราวเกี่ยวกับตัวละครที่หลายๆคนคงรู้จักกันดี เช่น(Anna Boleyn และเจ้าชายในหอคอย)
ไปจนถึงสิ่งที่คาดไม่ถึง (สายลับโจรอัญมณีและหมีขั้วโลก)🐻❄️
เรื่องราวของหอคอยนี้จะเป็นอย่างไรตามอ่านกันต่อดีกว่าค่ะ
The Tower of london
ประวัติของหอคอยบางส่วน📌
หอคอยนี้ก่อตั้งโดย วิลเลียมผู้พิชิตหลังจากชัยชนะอันดด่งดังของเขาที่เฮสติ้งในปี 1066
คนของวิลเลี่ยมเริ่มสร้างป้อมปราการอันยิ่งใหญ่เพื่อปราบชาวลอนดอน
แม้ว่ามันจะถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นป้อมและที่ประทับของราชวงศ์
แต่ก็ไม่นานก่อนที่ขอคอยแห่งนี้จะมีบทบาทอื่น ก็มีเรื่องที่น่าประหลาดใจไปกว่านั้น😱
ตัวอย่างเช่น ปี1204 กษัตริย์จอนได้ต้องโรงเลี่ยงสัตว์ของราชวงศ์ขึ้นนั่น.
เมื่อสูญเสียนอร์มังดีในปีนั้น เขาได้รับรางวัลชมเชยสัตว์ประหลาดสามลัง
เมื่อไม่มีที่อื่นที่เหมาะสมที่จะเก็บพวกมันไว้ เขาจึงตั้งรกรากอยู่ที่หอคอย‼️
ลูกชายของจอห์น เฮนรีที่ 3ได้โอบรับบทบาทของหอคอยนี้ด้วยความกระตือรือร้น
และในช่วงรัชสมัยของพระองค์ โรงละครสัตว์ของราชวงศ์ก็ได้รับการสถาปนาขึ้นอย่างสมบูรณ์ สัตว์ที่แปลกที่สุดในบรรดาสัตว์ในพระเจ้าเฮนรีที่ 3 คือ
'หมีสีซีด' (อาจเป็นหมีขั้วโลก) - ของขวัญจากกษัตริย์แห่งนอร์เวย์ในปี 1252 สามปีต่อมา หมีก็เข้าร่วมกับสัตว์ร้ายที่แปลกประหลาดจนแม้แต่นักประวัติศาสตร์💭
ชื่อแมทธิว ปารีส สูญเสียคำพูด เขาพูดได้เพียงแต่ว่า "กินและดื่มด้วยลำต้น"
กบฏผู้รุกราน
กบฏผู้รุกราน
ว่ากันว่าผู้ที่ถือลอนดอนถือราชอาณาจักรและหอคอยเป็นกุญแจสู่เมืองหลวง ด้วยเหตุนี้เองจึงเป็นเป้าหมายของกบฏและผู้บุกรุกเสมอ
เหตุการณ์ที่ฉาวโฉ่ที่สุดครั้งหนึ่งคือการประท้วงของชาวนาในปี
1381ซึ่งได้รับแจ้งจากการขึ้นภาษี 'แบบสำรวจความคิดเห็น'
ใหม่โดยรัฐบาลของ Richard II ภายใต้การนำของวอลเตอร์ (หรือวัด)
ไทเลอร์ผู้มีเสน่ห์ดึงดูด ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1381 กบฏ 20,000
คนเดินขบวนไปที่เมืองหลวงและมุ่งหน้าตรงไปยังหอคอยแห่งลอนดอน
กษัตริย์ทรงตกลงที่จะพบพวกเขา แต่ทันทีที่ประตูเปิดเพื่อปล่อยให้เขาออกไป พวกกบฏ 400 คนก็รีบเข้ามา
นทางของพวกเขาไปยังส่วนในสุดของป้อมปราการ🏰
กาย ฟอกส์
พวกเขาไปถึงชั้นสองของหอคอยสีขาว และบุกเข้าไปในโบสถ์เซนต์จอห์น ซึ่งพวกเขาพบไซมอน ซัดเบอรี อาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรีผู้ถูกดูหมิ่น
เป็นผู้นำสวดมนต์ พวกเขาลากเขาและเพื่อนๆ ไปที่ Tower Hill และฆ่าพวกมันโดยไม่ลังเล
ต้องใช้ขวานเพชฌฆาตมือสมัครเล่นแปดครั้งเพื่อตัดศีรษะของอาร์คบิชอป ซึ่งจากนั้นก็นำไปวางบนเสาบนสะพานลอนดอน🌉
ในขณะเดียวกัน ภายในหอคอย
กลุ่มคนร้ายได้บุกค้นห้องนอนของกษัตริย์และลวนลามพระมารดาและสตรีของพระองค์ ฌอง ฟรัวซาร์ต นักประวัติศาสตร์ร่วมสมัยอธิบายว่าพวกกบฏ
“นอนและนั่งและพูดตลกบนเตียงของกษัตริย์อย่างเย่อหยิ่ง ขณะที่หลายคนขอให้มารดาของกษัตริย์… จูบพวกเขา”
ลูกชายของเธอก็ออกไปพบกับพวกกบฏอีกครั้งและเผชิญหน้ากับผู้นำของพวกเขาคือวัดไทเลอร์ซึ่งถูกคนของกษัตริย์สังหาร🔪
หากไม่มีการแสดงตนที่มีเสน่ห์ ฝ่ายกบฏก็สูญเสียความตั้งใจที่จะต่อสู้และกลับบ้านอย่างสุภาพ
เจ้าชายในหอคอย
เจ้าชายในหอคอย
แม้จะมีเหตุการณ์ที่น่าทึ่งเช่นนี้
แต่ก็เป็นประวัติศาสตร์ของหอคอยแห่งลอนดอนในฐานะคุกที่มีเสน่ห์ที่สุดเสมอ
ระหว่างปี ค.ศ.1100 ถึงปี 1952 มีผู้ถูกจองจำภายในกำแพงประมาณ 8,000 คนในข้อหา
ก่ออาชญากรรมตั้งแต่การกบฏและการสมรู้ร่วมคิดไปจนถึงการฆาตกรรม หนี้สิน และการใช้เวทมนตร์
หนึ่งในเอพฉาวโฉ่ที่สุดมีส่วนร่วมของเจ้าชายในหอคอย
' เมื่อพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1483
ลูกชายและทายาทของเอ็ดเวิร์ดอายุเพียง 12 ปี ดังนั้นเขาจึงแต่งตั้งริชาร์ด
น้องชายของเขา (อนาคตริชาร์ดที่ 3) เป็นผู้พิทักษ์
ริชาร์ดไม่เสียเวลาวางเด็กชายและน้องชายของเขาริชาร์ดไว้ในหอคอย👶👦
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาปกป้อง สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปเป็นเรื่องของการอภิปรายที่เข้มข้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่าในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปีนั้น
เจ้าชายทั้งสองถูกสังหารอย่างเงียบ ๆ ในมือของใครก็ไม่รู้🍃
ต้องสงสัยคนสำคัญมีความยาวได้ริชาร์ดที่มีการยกเลิกการเรียกร้องหลานชายของเขาเพื่อราชบัลลังก์และตัวเองกษัตริย์ในเดือนกรกฎาคม 1483.
แต่มีคนอื่น ๆ ที่มีส่วนได้เสียในการรับเจ้าชายออกจากทาง
เห็นได้ชัดว่าเจ้าชายทั้งสองหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย แต่ในปี🕵️♀️
1674 มีการค้นพบที่น่าทึ่งที่หอคอย กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 2
ในขณะนั้น ได้สั่งให้รื้อถอนสิ่งที่เหลืออยู่ของพระราชวังไปทางทิศใต้ของหอคอยสีขาว
รวมถึงปราการที่ครั้งหนึ่งเคยมีบันไดองคมนตรีที่นำไปสู่โบสถ์เซนต์จอห์น
ใต้ฐานบันได คนงานประหลาดใจที่พบหีบไม้ที่มีโครงกระดูกสองชิ้น🦴🦴
เจ้าชายในหอคอย
เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเป็นกระดูกของเด็กและส่วนสูงของพวกเขาใกล้เคียงกับอายุของเจ้าชายทั้งสองเมื่อพวกเขาหายตัวไป
พระเจ้าชาร์ลที่ 2 ทรงจัดการฝังศพในเวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ในที่สุด
พวกเขานอนนิ่งอยู่ที่นั่น โดยหยุดชะงักชั่วครู่ในปี 1933
เมื่อการตรวจสอบอีกครั้งให้หลักฐานที่ชัดเจนว่าพวกเขาเป็นเจ้าชายทั้งสอง🔎
การโต้เถียงกันเกี่ยวกับการเสียชีวิตของพวกเขาเริ่มมีขึ้นอีกครั้งโดยการค้นพบโครงกระดูกของ Richard IIIในเมืองเลสเตอร์ในปี 2012
และไม่ได้แสดงท่าทีว่าจะบรรเทาลง
เรื่องราวของหอคอยลอนดอนยังมีอีกมากมายสามารถติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ past2 ในวันพรุ่งนี้นะคะ‼️‼️
ไม่น่าเชื่อเลยนะคะทุกคนว่าหอคอยสวยๆแห่งนี้จะมีเรื่องราวประหลาดที่เราอาจคาดไม่ถึงได้😱😱🍂
ที่มารูปภาพ
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
