15 ธ.ค. 2021 เวลา 01:39 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
10 เทรนด์เทคโนโลยีที่จะมาช่วยทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้น ในปี 2565
1
Covid-19 ได้มีผลต่อแนวโน้มด้านเทคโนโลยีอย่างมากมายในปัจจุบัน และในอนาคตปีต่อๆ ไป การระบาดใหญ่ได้เปลี่ยนแปลงโลกไปอย่างมากจนทุกอย่างไม่เหมือนเดิม ถึงแม้ว่าวิกฤตจะเบาบางลง
วันนี้ Bnomics จะมาพูดถึงอนาคตของเทคโนโลยี ว่าจะเป็นอย่างไร และแนวโน้มเหล่านี้จะส่งผลต่อธุรกิจอย่างไรในขณะที่เราเจาะลึกลงไปในแนวโน้มของเทคโนโลยีปี 2565 ที่คุณต้องเตรียมรับมือ
1
📌 Locationless Organizations
เนื่องจากการระบาดของ Covid-19 จำกัดการติดต่อระหว่างพนักงานในองค์กรทางด้านกายภาพ ทำให้มีการทำงานแบบทางไกล (Work from Home) เพิ่มมากขึ้น สิ่งที่น่าสนใจ คือ สถิติแสดงให้เห็นว่า 77% ของคนทำงานบอกว่าพวกเขาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าหากทำงานจากที่บ้าน
1
เมื่อมีธุรกิจยอมรับการทำงานแบบทางไกลเพิ่มเป็นจำนวนมากขึ้น การให้พนักงานเข้าทำงานที่ออฟิสก็จะลดน้อยลง ในอนาคต จึงทำให้องค์กรต่างๆ จะต้องหันมาพึ่งพาโซลูชั่นดิจิทัลเป็นอย่างมาก ซึ่งช่วยลดความจำเป็นในการมี “สิ่งอำนวยความสะดวก”
1
บริษัท Quora พนักงานส่วนใหญ่ของเราเลือกที่จะไม่กลับไปที่สำนักงานหลังโควิด ฉันจะไม่ทำงานในออฟฟิศ ทีมบริหารของเราจะไม่ได้อยู่ในสำนักงาน และนโยบายทั้งหมดจะ เอื้อต่อการทำงานนอกสถานที่" (Adam D'Angelo, CEO, ทวีต)
2
📌 Distributed Cloud
Latency เป็นหนึ่งในอุปสรรคที่สำคัญที่สุดในการย้ายข้อมูล และปริมาณงานไปยัง cloud แอปพลิเคชั่นตรวจสอบ IOT แบบเรียลไทม์จำนวนมากสร้างข้อมูลขึ้นมา ซึ่งส่วนใหญ่มีความซ้ำซ้อน
การใช้พลังประมวลผลที่ชอบ เพื่อกรองข้อมูลนี้จะมีประสิทธิภาพมากกว่าการถ่ายโอนไปยังบริการ cloud ที่อยู่ห่างไกล
Amazon Web Services (AWS) เป็นบริษัทของ Amazon ที่เปิดตัวในปี 2545 AWS เป็นผู้ให้บริการระบบคลาวด์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก
1
Amazon Web Services (AWS) เป็นแพลตฟอร์มระบบคลาวด์ที่ครอบคลุมและนำไปใช้อย่างกว้างขวางที่สุดในโลก โดยให้บริการที่มีคุณสมบัติครบถ้วนมากกว่า 165 รายการจากศูนย์ข้อมูลทั่วโลก ลูกค้าหลายล้านใช้บริการนี้
1
📌 Internet of Behaviors
ท่างกลางแนวโน้มทางเทคโนโลยีในปี 2565 สิ่งที่ธุรกิจควรเตรียมพร้อมรับมือ คือ Internet of Behavior ซึ่งเป็นสาขาใหม่ของ Internet of Things
เกี่ยวข้องกับการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้คนโดยใช้เทคโนโลยี เพื่อโน้มน้าวพฤติกรรมของพวกเขา ธุรกิจต่างๆ จะมองหาประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ เนื่องจากผู้บริโภคซื้อของทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
1
📌 Cybersecurity
ในปัจจุบัน พนักงานจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ต้องเขาถึง ข้อมูลขององค์กรจากสถานที่ห่างไกลโดยใช้อุปกรณ์ของตนเอง หากองค์กรไม่มีเครื่องมือหรือทักษะที่จำเป็นในการรักษาความปลอดภัยให้กับอุปกรณ์ การโจมตีทางไซเบอร์ก็เป็นไปได้สูง
เป็นที่คาดการณ์ว่าหลายองค์กรจะใช้แนวทางจากล่างขึ้นบน หรือ bottom-up approach ในการฝึกอบรมเพื่อให้พนักงานตระหนักรู้ในโลกไซเบอร์และความยืดหยุ่นในโลกไซเบอร์ ธุรกิจต่างๆ จะต้องมอบความรู้นี้ให้กับพนักงานทุกๆ คน ในส่วนของการฝึกอบรมด้านสุขภาพและความปลอดภัยโดยรวม ไม่ใช่แค่ทีมไอทีเท่านั้น
หลายๆ คนคงคุ้นเคยกับ logo ของ McAfee อยู่แล้ว McAfee มอบการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้กับอุปกรณ์และคลาวด์ด้วย โซลูชันการรักษาความปลอดภัยมีให้บริการสำหรับทั้งผู้บริโภคและธุรกิจ McAfee ให้บริการในสามอุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ การเงิน การดูแลสุขภาพ และภาครัฐ
1
📌 Increase in Demand for Certifications
ในขณะที่การทำงานแบบทางไกลกลายเป็นกระแสหลัก การรับรองจึงมีความจำเป็นมากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีจำนวนมากกำลังเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานระบบ cloud จากระยะไกล
ด้วยเหตุนี้ องค์กรจึงแสวงหาพนักงานที่มีคุณสมบัติในการให้บริการ cloud เช่น AWS, Azure หรือ GCP ที่เกี่ยวข้อง จากรายงาน เงินเดือนของพนักงานด้านไอทีปี 2021 ของ Robert Half เปิดเผยว่าผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีที่ผ่านการรับรองสามารถสร้างรายได้มากกว่าเพื่อนร่วมงาน 5% ถึง 10%
1
📌 No Code/Low code
Low-code เป็นแนวทางที่มองเห็นได้ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ จำเป็นต้องมีการเขียนโค้ดเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลยในการสร้างแอปฟลิเคชั่นและกระบวนการ แพลตฟอร์มการพัฒนาแบบใช้โค้ดต่ำใช้อินเทอร์เฟซแบบภาพพร้อมตรรกะที่เรียบง่ายและคุณลักษณะแบบลากแล้ววางแทนภาษาเขียนโค้ดที่ครอบคลุม
แอปพลิเคชั่นที่มีโค้ดน้อยช่วยเร่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล โดยลดความจำเป็นในการใช้ทักษะทางเทคนิคเฉพาะทาง และลดเวลาในการสร้างแอปพลิเคชั่นได้อย่างมาก Gartner คาดการณ์ว่า 65% ของกิจกรรมการพัฒนาแอพลิเคชั่นจะเป็นรหัสในระดับต่ำภายใน 2024
1
ตัวอย่างบางส่วนของบริษัทชั้นนำที่พัฒนาแพลตฟอร์ม No Code/Low Code เช่น OutSystems, Unqork, AirTable, Mendix และ Quickbase
1
📌 Artificial Intelligence
ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI กำลังเริ่มเห็นการใช้งานในขนาดที่ใหญ่ขึ้น โดยผู้จำหน่าย AI หลายรายกำลังขยายการเข้าถึงและสำรวจโอกาสในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลอย่างรวดเร็วของประเทศสมาชิก
AI จะเติบโตมากขึ้นในช่วยหลายปีที่ผ่านมาพร้อมกับการเพิ่มขึ้นของระบบอัตโนมัติและการเพิ่มขึ้นของการนำดิจิทัลของธุรกิจไปใช้ในปัจจุบัน กรณีการใช้งาน AI ยอดนิยม ได้แก่ ประสบการณ์ของลูกค้า การตรวจจับการฉ้อโกง การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ และข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า
IBM บริษัทเทคโนโลยีข้ามชาติที่มีบทบาทในด้าน AI มาตั้งแต่ปี 1950 บริษัทได้มีส่วนร่วมในการกำเนิดของปัญญาประดิษฐ์และยังคงมุ่งมั่นอย่างมั่นคงมาจนถึงทุกวันนี้
2
IBM Waton ได้สร้างแพลตฟอร์มการเรียนรู้ของเครื่องที่สามารถรวม AI เข้ากับกระบวนการทางธุรกิจ เช่น การสร้างแชทบอทสำหรับการสนับสนุนลูกค้า ลูกค้าของ IBM ประกอบด้วย Big Four Auditor, KPMG และ Bradesco ซึ่งเป็นหนึ่งในธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของบราซิล
1
📌 AR/VR
Augmented Reality หรือ AR เป็นจุดเริ่มต้นอีกจุดหนึ่งของประสบการณ์เสมือนจริงที่บุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ จากการวิจัยของ Grand View Research ขนาดตลาด AR ทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 17.67 พันล้านดอลลาร์ในปี 2020 และคาดว่าจะเติมโตเป็น 340.16 พันล้านดอลลาร์ในปี 2028
คาดว่า AR จะสามารถใช้งานได้มากกว่าการเล่นเกมและสามารถใช้งานได้มากกว่าความเสมือนจริง กรณีการใช้งาน AR รวมถึงการแสดงภาพผลิตภัณฑ์ในการค้าปลีกและการให้คำปรึกษาทางไกลในการผลิต
2
Qualcomm ในฐานะผู้ให้บริการชิปโมเด็ม 5G และชิปประมวลผลภาพที่โดดเด่น Qualcomm อาจมีบทบาทสำคัญในที่นี้ ชิปสองตัวที่ทำงานร่วมกันสามารถส่งการประมวลผลภาพจำนวนหนึ่งไปยังอุปกรณ์ที่จับคู่หรือเซิร์ฟเวอร์ในคลาวด์ ด้วยเหตุนี้ Qualcomm ได้เปิดตัวชิปใหม่ที่รวมการเชื่อมต่อ 5G เข้ากับการประมวลผลภาพแบบผสมความเป็นจริง นอกจากนี้ยังเริ่มเสนอกระบวนการรับรองเพื่อให้ผู้ผลิตแว่นตารายเล็กสร้างอุปกรณ์ของตนโดยใช้ชิปเหล่านั้น จากนั้นจึงออกสู่ตลาดด้วยแบรนด์ Qualcomm นอกจากนั้น Qualcomm ยังได้ออกแบบแว่นที่เบาและบางพอที่จะสวมใส่ได้จริง
📌 Blockchain
การระบาดใหญ่ของ COVID-19 เร่งการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะผ่านบล็อกเชนหรือเทคโนโลยีบัญชีแยกประเภทแบบกระจาย (Distributed ledger technology) ธุรกิจจากทุกอุตสาหกรรมได้แสดงความสนใจเพิ่มขึ้น ในการนำเทคโนโลยีบล็อคเชนมาใช้เพื่อปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจของพวกเขา
1
การใช้จ่ายทั่วโลกในโซลูชั่นบล็อคเชนจะสูงถึง 11.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2565 หนึ่งในพื้นที่ที่การเจาะบล็อคเชนเร็วที่สุด คือ การชำระเงินในระบบธนาคาร ซึ่งให้ประโยชน์หลายอย่าง รวมถึงการรักษาความปลอดภัยระดับสูง การประมวลผลแบบเรียลไทม์และการทำธุรกรรมแบบข้ามพรมแดน ที่รวดเร็วกว่า ในการทำธุรกรรม
Chainalysis ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อปรับปรุงความน่าเชื่อถือทั่วทั้งระบบนิเวศบล็อกเชนโดยให้บริการ ซอฟต์แวร์ และข้อมูลแก่ธนาคาร หน่วยงานรัฐบาล และอื่นๆ ซอฟต์แวร์การตรวจสอบและการปฏิบัติตามกฎระเบียบของบริษัทช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถระบุแหล่งที่มาของเงินทุนที่อาจจะถูกแฮ็ก/ถูกขโมย และเป็นเครื่องมือในคดีอาชญากรไซเบอร์ที่มีชื่อเสียงระดับโลกจำนวนมาก ทำให้การเข้าถึงบล็อคเชนปลอดภัยยิ่งขึ้นและทุกคนสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น
1
📌 Hyper-automation
องค์กรต่างๆ กำลังเปลี่ยนจากชุดเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติแบบอิงตามกระบวนการเป็นกลยุทธ์ระบบอัตโนมัติแบบองค์รวมที่เชื่อมต่อถึงกันมากขึ้น ดังนั้น ผู้จำหน่ายจึงพัฒนาข้อเสนอแบบบูรณาการที่รวมเทคโนโลยี เช่น RPA, LCAP และการจัดการกระบวนการทางธุรกิจเข้าไว้ในเครื่องมือชุดเดียวที่สมบูรณ์
การคาดการณ์ของ Gartner ว่าตลาดทั่วโลกสำหรับเทคโนโลยี Hyper-Automation จะสูงถึง 596,600,000,000 เหรียญสหรัฐ โดย 2022 นอกจากนี้ยังคาดการณ์ว่า hyper-automation จะลดต้นทุนการดำเนินงานด้านไอทีลง 30% ภายในปี 2567 ในขณะเดียวกันก็ลดความซับซ้อนในสภาพแวดล้อมไอทีสมัยใหม่ด้วย
1
การระบาดครั้งใหญ่ได้เร่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของธุรกิจ ผลักดันให้องค์กรต่างๆ นำโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมมาใช้เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิด
แนวโน้มทางเทคโนโลยีเหล่านี้ในปี 2565 และหลังจากนั้นจะมีบทบาทสำคัญในการอยู่รอดและการเติบโตของธุรกิจในปีต่อๆ ไป คุณต้องเตรียมพร้อมสำหรับการเรียนรู้ และพฤติกรรมใหม่ๆ ในขณะที่การระบาดใหญ่ผลักดันให้เกิดนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและธุรกิจมากมาย
1
ผู้เขียน : กุลเชษฐ์ เสงี่ยมพงษ์ Tech & Innovation Analyst, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
▶︎ ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่
Line OA : @Bnomics https://bit.ly/3eYkTJC
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
Reference:
1
โฆษณา