======================
“สัปดาห์ละบทสองบท” || วันพุธ
======================
💶• MON€Y LECTURE
✍🏻• ลงทุนศาสตร์ เขียน
🔖• บทที่ 3 วาดด้วยมือตัวเอง [ 2/2 ] || ประยุกต์ใช้ SMIRT กับเป้าหมายทางการเงิน || แบ่งเป้าหมายตามเส้นระยะทาง || ความเสี่ยง ความสำคัญ และ
ความสัมพันธ์กับเป้าหมาย || แบบฝึกหัดท้ายบท
📝• บันทึกใจความแบบดิบ ๆ ที่ยังไม่ผ่านกระบวนการแปรรูป พร้อม บันทึกการอ่านของ อิคิ ∙ 生き
[ MON€Y LECTURE ]
=================
ประยุกต์ใช้ SMIRT
กับ
เป้าหมายทางการเงิน
=================
ในตอนที่แล้วคุณลงทุนศาสตร์ได้กล่าวถึงการตั้งเป้าหมายด้วย SMIRT ให้กับทุกท่านทราบไปแล้ว แต่อย่างไรก่อนจะเข้าเนื้อหาในบทนี้เรามาทบทวนกันสักเล็กน้อยนะคะ ว่า SMIRT แต่ละตัวหมายถึงอะไร
⌜S⌟ = Specific || จุดมุ่งหมายในการลงทุน
⌜M⌟ = Measurable || จำนวนเม็ดเงินเป็นตัวเลข
⌜I⌟ = Important || ระบุว่าเป้าหมายที่ตั้งเป็นเป้าหมายระดับ Want (ความต้องการ) หรือ Need (ความจำเป็น)
⌜R⌟ = Risk Acceptance || บอกระดับความเสี่ยงที่รับได้เป็นเปอร์เซ็นต์
⌜T⌟ = Time-bounded || กำหนดว่าต้องการบรรลุเป้าหมายภายในระยะนานเท่าใด [ กี่เดือน หรือ กี่ปี ]
หนังสือได้ยกตัวอย่างการตั้งเป้าหมายโดยใช้ประยุกต์ใช้หลักการ SMIRT ดังนี้ค่ะ
①
เก็บเงินไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น
มูลค่า 50,000 บาท
ภายในระยะเวลา 2 ปี
ความสำคัญระดับ Want
ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ 8.51%
②
เก็บเงินเพื่อการเกษียณอายุ
มูลค่า 10 ล้านบาท
ระยะเวลา 30 ปี
ความสำคัญระดับ Need
ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ 8.51%
[ MON€Y LECTURE ]
======================
แบ่งเป้าหมายตามเส้นระยะทาง
======================
เมื่อเราเขียนเป้าหมายครบถ้วนตามหลักการ SMIRT แล้ว เราต้องทราบ ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับจากการลงทุนค่ะ การที่เราจะได้มาซึ่งผลตอบแทนคาดหวัง เราต้องเข้าใจเรื่องกรอบระยะเวลาการลงทุนก่อน โดยเป้าหมายทางการเงินสามารถแบ่งกรอบระยะเวลาออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้
①
เป้าหมายระยะสั้น คือ เป้าหมายที่อยู่ในช่วงไม่เกิน 3 ปี
②
เป้าหมายระยะกลาง คือ เป้าหมายที่อยู่ในช่วง 3 -7 ปี
③
เป้าหมายระยะยาว คือ เป้าหมายที่อยู่ในช่วง-7 ปี ขึ้นไป
เมื่อเราทราบกรอบระยะเวลาของแต่ละเป้าหมายแล้ว จากนั้นให้นำเป้าหมายทางการเงินมาจัดกลุ่มแบ่งตามแต่ละช่วงเวลา เพื่อหาตัวเลขผลตอบแทนที่คาดหวังในลำดับต่อไป [ เพื่อน ๆ สามารถดูตัวอย่างการจัดกลุ่มเป้าหมายได้ตามภาพด้านล่างนะคะ ]
[ MON€Y LECTURE ]
====================
ความเสี่ยง ความสำคัญ และ
ความสัมพันธ์กับเป้าหมาย
====================
ยิ่งเรามีกรอบระยะเวลายาวเท่าไหร่ ก็จะส่งผลให้เรารับความเสี่ยงได้มากและคาดหวังผลตอบแทนได้มาก
ในทางกลับกันหากเรามีระยะเวลาน้อย เราก็จะรับควมเสี่ยงได้น้อยและคาดหวังผลตอบแทนได้น้อยค่ะ
- - - - -
[ อิคิ ∙ 生き's Memo ]
หากจะให้ อิคิ ∙ 生き อธิบายข้อความข้างต้นเพิ่มเติมอีกซักหน่อย อิคิ ∙ 生き ขออนุญาตยกตัวอย่างดังนี้
หากเรานำเงินที่เราออมไว้สำหรับใช้จ่ายยามฉุกเฉิน ซึ่งเงินสำรองฉุกเฉินนั้นเราไม่มีทางรู้เลยค่ะว่าเราจะได้ใช้เมื่อไหร่ อาจเป็น พรุ่งนี้ เดือนหน้า ปีหน้าก็ได้ แต่ที่แน่ ๆ เงินก้อนนี้ต้องพร้อมใช้อยู่เสมอนะคะ
ถ้าเรานำเงินก้อนนี้ไปลงทุนใน BITCOIN [ อิคิ ∙ 生き ขอยกตัวอย่างที่เข้ายุคเข้าสมัยนิดนึงนะคะ 😊 ] และอยู่ ๆ เกิดเหตุให้เราต้องใช้เงินก้อนนี้ในสัปดาห์หน้า ตอนจะขาย BITCOIN จึงพบว่ามูลค่าเงินลงทุนของเราลดลงไป 30% ดังนั้นในวันที่เราต้องใช้จ่าย เงินอาจไม่เพียงพอ หรือแม้จะเพียงพอ เราก็อาจไม่อยากขายเพราะยังขาดทุนอยู่
อิคิ ∙ 生き สรุปได้ว่ายิ่งเป้าหมายระยะสั้นมากเท่าใด เราควรรักษามูลค่าของเงินเราไว้มากเท่านั้น และหลาย ๆ ท่านคงเคยได้ยินคำว่า High Risk High Return หรือจะพูดง่าย ๆ ว่า ยิ่งเรารับความเสี่ยงหรือผลขาดทุนระหว่างลงทุนได้มากเท่าใด เราก็สามารถคาดหวังผลตอบแทนที่สูงขึ้นได้มากเท่านั้นค่ะ
ดังนั้นเป้าหมายที่รับความเสี่ยงได้สูง ก็ควรจะต้องมีระยะเวลาในการลงทุนยาวตามไปด้วย เพื่อให้พอร์ตลงทุนของเรามีระยะเวลาให้ผลตอบแทนที่ติดลบกลับขึ้นมามีกำไรได้
หรือจะพูดอีกอย่างว่ามีระยะเวลาลงทุนยาวพอที่จะให้ให้พอร์ตลงทุนของเราผ่านทุก ๆ ฤดูของกาลของการลงทุนได้ ไม่ว่าจะเป็นฤดูหนาวอากาศที่อากาศเย็น สบาย หรือ ฤดูฟ้าหม่นฝนตกทั้งวัน แต่มันเป็นธรรมดาของโลกนะคะ ถ้ามีวันฟ้าหม่น ก็ต้องมีวันฟ้าสดใส แต่อยู่ที่ว่าเราวางแผนมาดีแค่ไหนและมีเวลารอให้ถึงวันฟ้าสดใสหรือไม่เท่านั้นเองค่ะ
สิ่งสำคัญ คือเราต้องเลือกความเสี่ยงในการลงทุนให้เหมาะสมกับระยะเวลาลงทุนของเรานะคะ
- - - - -
[ MON€Y LECTURE ]
นอกจากระยะเวลาที่เรามีให้การลงทุนแล้ว ส่ิงต่อมาคือ
เป้าหมายระดับ Need จะสามารถรับความเสี่ยงได้น้อยกว่า เป้าหมายระดับ Want ค่ะ
และเราต้องไปเลือกลงทุนให้อยู่ภายในกรอบความเสี่ยงที่เรายอมรับได้นะคะ
- - - - -
[ อิคิ ∙ 生き's Memo ]
เหตุผลที่เป้าหมายระดับ Want สามารถรับความเสี่ยงได้มากกว่าเป้าหมายระดับ Need เพราะ เป้าหมายระดับ Want เราจะบรรลุหรือไม่ก็ได้ หรือแม้เราจะต้องบรรลุ แต่ระยะเวลาก็ไม่ได้คอขาดบาดตาย เช่น เป้าหมายท่องเที่ยว ถ้าปีนี้ผลตอบแทนติดลบอยู่ เราอาจยังไม่ถอนเงินออกมา แล้วเลื่อนการท่องเที่ยวเป็นปีหน้าก็ไม่เสียหายอะไรใช่ไหมคะ
- - - - -
[ MON€Y LECTURE ]
หนังสือได้สรุปผลตอบแทนที่ควรคาดหวังไว้เป็นตาราง แต่ อิคิ ∙ 生き ขอสรุปให้เพื่อน ๆ ได้อ่านดังต่อไปนี้ค่ะ
==========================
Need + เป้าหมายระยะสั้น
เสี่ยงน้อย
คาดหวังผลตอบแทนได้ <3%
Need + เป้าหมายระยะกลาง
เสี่ยงกลาง
คาดหวังผลตอบแทนได้ 3% - 7%
Need + เป้าหมายระยะยาว
เสี่ยงสูง
คาดหวังผลตอบแทนได้ 7% - 10%
Want + เป้าหมายระยะสั้น
เสี่ยงน้อย
คาดหวังผลตอบแทนได้ 3% - 7%
Want + เป้าหมายระยะกลาง
เสี่ยงกลาง
คาดหวังผลตอบแทนได้ 7% - 10%
Want + เป้าหมายระยะยาว
เสี่ยงสูง
คาดหวังผลตอบแทนได้ 10%
==========================
จากข้อมูลข้างต้น เราสามารถเลือกผลตอบแทนที่เหมาะสมกับเป้าหมายเราได้ค่ะ และเมื่อเราได้ผลตอบแทนที่คาดหวังแล้ว เราก็สามารถคิดแผนย้อนกลับมาเป็นจำนวนเงินที่เราต้องเก็บออมในแต่ละเดือน ว่าเราต้องเก็บออมเท่าไหร่จึงจะบรรลุเป้าหมายที่เราตั้งไว้ได้ [ ซึ่งในบทต่อ ๆ ไป หนังสือจะบอกวิธีคำนวณให้นะคะ ]
[ MON€Y LECTURE ]
==============
แบบฝึกหัดท้ายบท
==============
1. ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของเรามีค่ากี่เปอร์เซ็นต์
2. เป้าหมายทางการเงินของเรามีอะไรบ้าง เขียนออกมาโดยละเอียดตามหลัก SMIRT ให้ครบทุกข้อ และประเมินผลตอบแทนคาดหวังประกอบ โดยพิจารณาความสำคัญ กรอบระยะเวลา และความเสี่ยงที่ยอมรับได้ [ เพื่อน ๆ สามารดูตัวอย่างตามภาพด้านล่างนะคะ ]
โดยในบทต่อไป คุณลงทุนศาสตร์ จะมาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังนะคะ ว่าเราจะตีมูลค่าอิสรภาพทางการเงิน หรือ ทุนเกษียณอายุของเราได้อย่างไร
หากท่านใดอยากทราบ อิคิ ∙ 生き ขอเชิญชวนเพื่อน ๆ ตั้งตารออ่านในวันพุธหน้านะคะ สำหรับวันนี้สวัสดีค่ะ 🙏🏻😊
หมายเหตุ : หากเพื่อน ๆ ท่านใดสนใจอยากรีบวางแผนการเงินของตนเอง จนอดใจรอ อิคิ ∙ 生き สรุปทีละบทไม่ไหว เพื่อน ๆ ก็สามารถสั่งซื้อหนังสือได้ที่ Link ด้านล่างนะคะ https://www.naiin.com/Product/Detail/509724?gclid=CjwKCAiAv_KMBhAzEiwAs-rX1HDPUGqFAoZi1Sf92jNRAxLAMPnoRJtKUXs1OYqAy_XoiliPqgau7xoCaCoQAvD_BwE
#สัปดาห์ละบทสองบท #moneylecture
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
