19 ธ.ค. 2021 เวลา 02:19 • ความคิดเห็น
[ 841 days the diary ]
1
If the world ask me what were the proper things happened this year,
ติ๊ง ~
- มาเจอที่ห้องชมรมหน่อย -
เมื่อได้ยินเสียงเตือนของโทรศัพท์มือถือที่วางไว้บนโต๊ะขณะทำเวรหลังเลิกเรียน ฉันที่กำลังกวาดห้องจึงเดินมาดูว่าใครส่งข้อความมา
- ได้ค่ะคุณหัวหน้าาา ทำเวรเสร็จแล้วจะไป -
จิ้มนิ้วลงไปสองสามทีอย่างรวดเร็ว ต้องรีบตอบข้อความหัวหน้าชมรมศิลปะสุดเซอร์คนนี้เสียก่อน เพราะกลัวว่าถ้าทำให้เขาหงุดหงิดขึ้นมาจะโดนพาไปดูภาพวาดผีสิงอีก นึกย้อนไปถึงตอนที่ภาพของมาแนขยิบตาให้ที่ห้องแสดงภาพหมายเลข 820 แล้วยังสยองไม่หาย ดีนะช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาหัวหน้าชมรมไม่ได้พาไปทัศนศึกษาแปลกๆที่ไหนอีก
1
.
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“มาแล้วค่ะ คุณหัวหน้าชมรมมม”
หางเสียงลากยาวต่อด้วยแลบลิ้นใส่เล็กน้อยเมื่อเห็นว่าคนถูกกล่าวถึงยังคงก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือประวัติศาสตร์งานศิลป์เล่มโปรดอยู่อย่างขมักเขม้น
1
“อะแฮ่ม!”
1
ฉันกระแอมใส่เขาเสียงดัง พลางเอามือสองข้างเท้าโต๊ะ โน้มตัวลงเล็กน้อยท่าทางหาเรื่อง หัวหน้าชมรมสะดุ้งสุดตัวเงยหน้ามองมาทางฉันที่กำลังทำหน้ายู่ เขาจึงหัวเราะในลำคอเบาๆตอบกลับมา
“ทำหน้าบึ้งไม่รับแขกแบบนี้จะไปเจอหนุ่มในฝันได้เหรอ”
1
สีหน้าฉันเจื่อนลงทันทีพลางนึกไปถึงนัดเดทที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้
เขาเป็นหนุ่มในฝันของฉันจริงๆ เพราะเคยฝันถึงครั้งหนึ่งเมื่อหลายเดือนก่อน จำได้ลางๆว่าเจอกันในห้องสมุดก่อนที่จะจบลงด้วยการนั่งกินไก่ย่างเขาสวนกวางด้วยกัน แล้วฉันก็ตื่นขึ้นมาแบบงงๆ
ผู้ชายคนนั้น​ ฉันรู้จักเขาผ่านกล่องคอมเมนต์ในแพลตฟอร์มออนไลน์แห่งหนึ่ง ตัวหนังสือของเราบังเอิญมาเจอกันเพราะระบบอัลกอริทึ่มแสดงบทความของฉัน แล้วเขาก็มาคอมเมนต์
1
เราคุยกันไปมาอยู่อย่างนั้น จากสิบ เป็นร้อย เป็นพัน เป็นหมื่นคอมเมนต์ ทั้งถามไถ่เรื่องราวธรรมดาในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นต่างๆไม่ว่าจะผิวเผินหรือลึกซึ้งได้อย่างไม่รู้จบ​ ทำให้รู้ว่าเราสองคนมีรสนิยมการเสพข้อมูลต่างๆเหมือนกัน ทั้งเพลง หนัง หรือหนังสือที่ไม่ได้ขายดีติดอันดับแต่อย่างใด ฉันชอบความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างบทสนทนา เพราะไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือเห็นต่าง ฉันรู้ว่าเราสามารถพูดกันอย่างตรงไปตรงมาได้
1
แต่แล้ววันหนึ่งก็มีข้อความไม่คาดคิดจากเขา
1
‘เรามาเจอกันสักครั้งดูไหม’
1
แม้แต่ชื่อจริงของกันและกันยังไม่รู้ แต่เขาจะชวนฉันให้ไปเจอเนี่ยนะ ข้อความสั้นๆแต่ทำให้ลมหายใจสะดุดนี้เองเป็นสาเหตุของอาการใจลอยช่วงนี้ หลังจากอ่านข้อความนั้น ฉันนั่งคิดอยู่เป็นวันว่าจะตอบไปอย่างไรดี
เรานัดกันยามสายที่ร้านชาแห่งหนึ่ง ภายในร้านมีลูกค้าอยู่ไม่กี่คนเพราะไม่ใช่เวลาดื่มชาปกติ ฉันนั่งอ่านหนังสือเล่มที่เพิ่งกล่าวถึงให้เขาฟังเมื่อวันก่อน ถ้าเขาเห็นหนังสือเล่มนี้ ต้องรู้แน่ว่าเป็นฉัน
1
“และแล้วผมก็ไม่ต้องรอถึง 53 ปี 7 เดือน กับอีก 11 วันในการตามหาคุณสินะครับ”
1
เงาของใครสักคนหยุดยืนอยู่ด้านข้าง พร้อมกับโทนเสียงฟังสบายก้มลงมากระซิบข้างหู ฉันเกือบลืมหายใจก่อนจะค่อยๆหันไปมองอย่างหวาดระแวง เขามองฉันอยู่แล้วด้วยสีหน้ากึ่งขำกึ่งเอ็นดู สายตาส่งยิ้มมาให้ ความรู้สึกอบอุ่นละมุนละไมช่วยให้บรรยากาศผ่อนคลายขึ้นมานิดนึง
เราสบตากันสักพัก ก่อนเขาจะนั่งลงเยื้องไปอีกด้านตามมาตรการโควิด ฉันเหลือบมองคนตรงข้ามอย่างพิจารณา หน้าตา สีผิวแบบลูกคนจีน ที่สำคัญดูเด็กกว่าที่คิดไว้มาก เราคุยกันไปเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีก็ถึงเวลาที่ต้องแยกจากกันแล้ว ซึ่งอาจเป็นเพราะว่าเราคุยกันในกล่องคอมเมนต์มานาน พอเจอตัวจริงเลยทำให้ต่อกันติดแบบไม่ต้องพยายาม
1
ติ๊ง ~
- เป็นไงมั่งเดทแรก -​
หัวหน้าชมรมนั่นเอง แหม ต้องรีบอัพเดทสถานการณ์ขนาดนี้เชียวนะ
1
- อยากรู้ขนาดนั้น? -​
- อ่าว ไหนบอกว่าเขาเองก็ชอบงานศิลป์ และมีความรู้ด้านนี้เหมือนกันไง อยากรู้จักจะแย่แล้วเนี่ย -
ฉันไม่ตอบข้อความ​ นั่งคิดทบทวนถึงคนที่เพิ่งเจอกันวันนี้แล้วแอบอมยิ้มอยู่คนเดียว
1
[ ตอนคุยกันก่อนหน้านี้ก็คิดว่าเขาน่ารักมากแล้วนะ พอมาเจอตัวจริงน่ารักกว่าที่คิดไว้อีก น่ารักมากๆเลย​ ]
1
.
If the world ask me what were the proper things happened this year, I will answer right away that meeting you was the one.
1
เรื่องสั้นที่เกี่ยวข้อง >>
▪️[ อาการของความรัก ]​
▪️[ 302 days the diary ]
▪️[ ห้องแสดงภาพหมายเลข​ 820 ]
โฆษณา