19 ธ.ค. 2021 เวลา 10:06 • เกม
Total War Saga: Troy | รีวิวเจาะลึกแพทซ์สุดท้ายของเกม
[ผู้ใดอยากสนับสนุนผม สามารถ Donate ได้ผ่านทางเว็บ https://www.patreon.com/pandawarzone หรือกดติดตามในเว็บ Blockdit นี้นะครับ]
ฉากแคมเปญ
+ แต่ละฝ่ายในภาคนี้จะมีระบบพิเศษของตัวเองฝ่ายละ 2-3 อย่าง ระบบอาจจะไม่ได้ลึกหรือหลากหลายเท่าภาค Warhammer แต่ก็ช่วยให้แต่ละฝ่ายมีรูปแบบการเล่นของตัวเองและสามารถเล่นภาคนี้ซ้ำได้พอสมควรเลย ยิ่งถ้าเป็นฝ่ายจาก DLC นี่จะมีระบบแปลกๆที่มีเอกลักษณ์กว่าฝ่ายหลักทั้ง 8 ฝ่ายด้วย
+ ตัวละครภาคนี้จะปรับแต่งได้หลากหลายกว่าภาค Three Kingdoms โดยจะมีช่องใส่อุปกรณ์ 3 ช่องเหมือนกัน แต่จะมีช่องผู้ติดตามเพิ่มเป็น 5 ช่อง Trait ของตัวละครก็มีได้เยอะกว่าด้วย ผังสกิลจะแบ่งเป็นสองฝั่งและจะปลดล็อคไปตามระดับเลเวล ในแต่ละระดับถ้าอัพฝั่งไหนไปแล้วอีกฝั่งก็จะโดนล็อค ทำให้ต้องวางแผนอัพสกิลให้ดีๆ เช่น ถ้าอยากเล่นสายท้าดวลก็ไม่ต้องอัพรถศึกมาขี่ก็ได้ เพราะยังไงก็โดดลงรถไปท้าดวลอยู่ดี โดยรวมแล้วประทับใจกว่าระบบตัวละครของภาค Three Kingdoms ที่ปรับแต่งได้น้อยเหลือเกิน
+ ระบบการทูตภาคนี้ค่อนข้างดีเลย ถึงจะไม่ลึกเท่าภาค Three Kingdoms แต่ก็มีความเสถียรดี โหมด Quick Deal นี่ช่วยประหยัดเวลาผู้เล่นได้เยอะ ไม่ต้องมานั่งจิ้มเลือกทีละฝ่ายเพื่อหาว่าใครอยากทำสัญญาการทูตกับเราบ้าง ปัญหาบอทชอบยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนโง่ๆมาให้เราก็ถูกแก้ไขแล้วในแพทซ์ล่าสุด พร้อมสามารถซื้อขายเมืองบนเกาะได้อย่างอิสระโดยผู้ซื้อไม่ต้องมีเมืองอยู่ใกล้เคียงแล้วด้วย
+ ระบบทรัพยากรทั้ง 5 อย่างคืออีกสิ่งที่ดีงามมากในภาคนี้ ยุคสำริดจะยังไม่มีสกุลเงินกลางไว้แลกเปลี่ยน ในเกมจึงใช้วิธีแลกเปลี่ยนทรัพยากรกันแทน มีทรัพยากรทั้งหมด 5 อย่าง ได้แก่ อาหาร ไม้ หิน สำริดและทองคำ อาหารใช้ในการสร้างยูนิต ไม้ใช้ในการสร้างสิ่งก่อสร้าง หินใช้ในการอัพเกรดสิ่งก่อสร้าง สำริดใช้ในการอัพเกรดยูนิต ทองคำใช้บูชาเทพและระบบพิเศษหลายอย่าง ผู้เล่นต้องบริหารจัดการทรัพยากรเหล่านี้ให้ดี โดยเฉพาะทองคำที่หายากที่สุด ต่อให้มีเหมืองทองแต่ถ้าขุดจนสายแร่หมดกำลังการผลิตก็จะลดเหลือแค่ 1 ใน 10
+ การรบอัตโนมัติหรือ Auto Battle ภาคนี้ทำออกมาได้ดีมาก เวลากดรบอัตโนมัติจะตัดเข้าฉากคัทซีนให้ผู้เล่นเห็นแม่ทัพสองฝ่ายดวลกัน ในแพทซ์ล่าสุดก็เพิ่มระบบแจ้งเตือนว่ายูนิตตัวไหนจะบาดเจ็บหรือตายก่อนกดรบอัตโนมัติ ทำให้ผู้เล่นสามารถตัดสินใจง่ายขึ้นว่าจะกดรบเองหรือรบอัตโนมัติดี
+ เชื่อมั้ยว่าฝ่ายเร่ร่อนหรือ Horde ในภาคนี้เล่นสนุกสุดใน Total War ทุกภาค (ฝ่าย Penthesilea กับ Memnon) ด้วยระบบทรัพยากร 5 อย่างทำให้ฝ่าย Horde มีอะไรให้ทำมากกว่าเดิม ฝ่าย Horde ยังถูกปรับให้ไม่สามารถมีกำลังเสริมในฉากต่อสู้ได้แต่จะมีระบบอื่นมาเสริมแทน อย่าง Penthesilea ก็จะมีบูชาเทพเพื่อเรียกยูนิตพิเศษมาช่วยเหลือ ส่วน Memnon ก็จะมีระบบผู้ติดตามไว้บัพกองทัพ ทำให้ Horde ภาคนี้เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ บัพยูนิตจนตัวแทบแตกแล้วเดินซัดศัตรูที่มีจำนวนมากกว่า 2-3 เท่าได้สบายๆ
+ UI ของภาคนี้สวยมาก ให้ใกล้เคียงกับภาค Shogun 2 หรือ Three Kingdoms เลย โดยจะมาในรูปแบบของภาพเครื่องถ้วยกรีกโบราณหรือที่เรียกกันว่า Black-Figure Pottery ดีไซน์สีสันไม่ฉูดฉาดแต่ดูลงตัว Layout ก็ทำออกมาได้ดี ดูแล้วใช้งานง่ายไม่ชวนสับสนเท่าไหร่ ไม่ได้ดู Look Cheap แบบเกมมือถือเหมือนภาค Thrones of Britannia
+ โหมด Mythos ที่เพิ่มเข้ามาจาก DLC ช่วยเพิ่มอรรถรสให้เกมได้มากจริงๆ ผู้เล่นจะสามารถสร้างสัตว์ประหลาดจริงๆมาใช้ได้ และมีระบบใหม่เป็นการออกจับสัตว์ประหลาดในตำนานทั้ง 3 ตัวด้วย (Hydra, Cerberus, Griffin) โดยตัวเกมจะให้ผู้เล่นส่งแม่ทัพและยูนิต 9 กองออกค้นหาสัตว์ประหลาดเหล่านี้ ระหว่างทางก็จะมีอีเวนท์ต่างๆให้ผู้เล่นตัดสินใจ ซึ่งมันจะส่งผลต่อหน่วยค้นหาและการต่อสู้ครั้งสุดท้ายเพื่อจับสัตว์ประหลาด เมื่อได้สัตว์ประหลาดมาใช้แล้วก็จะมีระบบพิเศษเพิ่มมาอีก โดยผู้เล่นต้องพาสัตว์ประหลาดไปเก็บเลเวลเพื่อปลดล็อคสกิลใหม่ แล้วก็จะมีสิ่งก่อสร้างพิเศษมาให้สร้างพวกยูนิตสาวกสัตว์ประหลาดกับรับบัพต่างๆด้วย จากที่ลองเล่นแล้วถือว่าสนุกมาก
- ขึ้นชื่อว่าเป็นภาค Troy แต่ตัวเกมแทบไม่ได้ให้ความสนใจกับชนวนเหตุของสงครามอย่าง Helen เลย คุณเธอมาเป็นแค่ระบบพิเศษของฝ่าย Paris และเมื่อมีฝ่ายไหนยึดเมืองที่เธออาศัยอยู่ได้ก็จะได้รับบัพพิเศษทั้งแผนที่ (factionwide) เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
- อีเวนท์กรีกกับทรอยประกาศสงครามใส่กันเร็วเกินไป พึ่งเริ่มเล่นไปได้แค่ 10 กว่าเทิร์นยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย จู่ๆก็มาให้เลือกฝั่งและเริ่มประกาศ War กันแล้ว มันควรจะให้เวลาซัก 40-50 เทิร์นแล้วค่อยเริ่มอีเวนท์มากกว่า
- หนึ่งในสิ่งที่ผมเกลียดที่สุดในเกมภาคนี้คือความ Aggressive ของบอทที่จ้องแต่จะโจมตีใส่ผู้เล่น จริงๆภาคอื่นมันก็เป็นเหมือนกันแหละ แต่ภาคนี้มันมีทะเลคั่นกลางแผนที่ บอทสามารถล่องเรือมาตีเมืองคุณได้เลยโดยไม่มีอะไรขวางกั้น ยิ่งถ้าเล่นระดับความยากสูงๆนี่บอทมันยกทัพมาแบบไม่คิดจะเหลือไว้ป้องกันเมืองตัวเองเลย
- โหมด Historical นี่ยังคงเป็นโหมดโง่ๆเหมือนโหมด Record ในภาค Three Kingdoms เลย ตัดสัตว์ประหลาดและอีเวนท์เหนือธรรมชาติออกไปจากเกมจนหมด แต่สิ่งที่ได้กลับมามีแค่บอดี้การ์ดของแม่ทัพแค่นั้น ต่อให้ดีกว่าโหมด Record ตรงที่มันปรับเปลี่ยนยูนิตที่เป็นบอดี้การ์ดได้ก็เถอะ แต่ด้วยคอนเทนท์ที่น้อยกว่าอีกสองโหมด ทำให้รู้สึกมันไม่มีความจำเป็นต้องเล่นอะ
ฉากต่อสู้
+ ถ้าเล่นโหมด Mythos จะมีสัตว์ประหลาดตัวเป็นๆให้ใช้ สัตว์ประหลาดแต่ละตัวจะมีความสามารถพิเศษหลุดโลกเหมือนภาค Warhammer เลย โดยเฉพาะสัตว์ประหลาดในตำนานทั้ง 3 ตัว (Hydra, Cerberus, Griffin) ที่แข็งแกร่งราวกับไคจู แล้วก็เทพบางองค์จะมอบสกิลพิเศษไว้ให้กดใช้ด้วย เช่น ถ้าเราบูชา Poseidon ก็จะมีสกิลเรียกคลื่นยักษ์มาซัดศัตรู ทำให้ฉากต่อสู้ในโหมดนี้มีปัจจัยการรบเพิ่มขึ้นหลายอย่างและสนุกขึ้นมาก
+ ภูมิประเทศในฉากต่อสู้ของภาคนี้มีความหลากหลายสูงมาก น่าจะดีสุดในทุกภาคเลยมั้ง มีชัยภูมิแปลกๆให้เล่นเยอะทั้งพงหญ้าสูง ปลักดินโคลนและแม่น้ำตื้น พื้นที่ป่าก็มีเยอะทำให้เล่นแผนซุ่มโจมตีได้ง่าย ทำให้การรบไม่น่าเบื่อและผู้เล่นจะรู้สึกอยากกดรบเองมากขึ้น
+ การควบคุมยูนิตในภาคนี้ลื่นไหลมาก เพราะมี Collision ระหว่างยูนิตน้อยกว่าภาคอื่น เวลายูนิตวิ่งเบียดกันเลยไม่ค่อยติดหล่มเท่าไหร่ พวกทหารม้าหรือรถศึกเลยบังคับค่อนข้างง่ายกว่าหลายๆภาค เหตุผลนึงก็คงเพราะภาคนี้ทหารมันไม่มี Sync Animation เลยเนี่ยแหละ
+ อนิเมชั่นตอนดวลกันของแม่ทัพจัดเต็มยิ่งกว่าภาค Three Kingdoms เสียอีก แต่ละคนจะมีเซ็ต Sync Animation นับสิบกระบวนท่า เวลาปะทะกับแม่ทัพศัตรูก็จะดวลกันโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องมานั่งลุ้นให้ศัตรูรับคำท้าดวล ทางด้านความแข็งแกร่ง แม่ทัพภาคนี้ก็เทพไม่แพ้ Warhammer หรือ Three Kingdoms เลย
- ทหารภาคนี้ไม่มี Sync Animation เลยซักตัว (ไม่นับ Sync Kill พวกสัตว์ประหลาดในโหมด Mythos) อนิเมชั่นท่าทางตอนต่อสู้ของทหารมันก็ทำออกมาใช้ได้อยู่หรอก แต่การที่ไม่มี Sync Animation นี่เลยไม่ค่อยมีอารมย์ร่วมในการรบเท่าไหร่ จะให้ซูมดูแม่ทัพดวลกันอย่างเดียวเลยก็ไม่ไหวมั้ง
- การที่ยูนิต Collision น้อยทำให้ไม่ค่อยเกิดการเบียดเสียดระหว่างโมเดลทหาร เวลาเข้าปะทะศัตรูก็จะวิ่งปะปนกันมั่วซั่ว ยิ่งภาคนี้ไม่มีฟอเมชั่นให้ใช้ด้วยทำให้สนามรบดูสับสนวุ่นวายมาก ใครที่ชอบการรบแบบจัดแถวสวยงามอาจจะไม่ถูกใจเท่าไหร่ ต่อให้มันตรงตามประวัติศาสตร์จริงก็เถอะ (ยุคสำริดกองทัพยังไม่มีระเบียบแบบแผนมากนัก)
- หากไม่นับรวมยูนิตสัตว์ประหลาด ความหลากหลายของยูนิตภาคนี้จะค่อนข้างน้อย แต่ละฝ่ายจะมีประเภทยูนิตคล้ายๆกัน ต่างกันแค่สเตตัสและสกิลเท่านั้น ผู้เล่นที่ศึกษาสเตตัสกับสกิลแบบละเอียดก็จะดูออกว่ายูนิตมันแตกต่างกันอยู่หรอก เช่น พลขวานตัวนี้มีสกิล Flank Improve เหมาะไว้ใช้วิ่งชาร์จเข้าหลังศัตรู แต่ผู้เล่นทั่วไปที่จำหน้าที่ของยูนิตโดยสังเขป เช่น พลหอกไว้สู้ทหารม้า พลธนูไว้ยิงพวกไม่ถือโล่ ก็จะแยกความแตกต่างไม่ออกและพาลทำให้เกมรู้สึกน่าเบื่อ
- ฉากตีเมืองค่อนข้างน่าเบื่อ เพราะภาคนี้อยู่ในยุคสำริดจึงไม่มีเครื่องยิงอะไรให้ใช้เลย การตีเมืองของภาคนี้คือวิ่งไปปีนกำแพงเมืองเอาดื้อๆ แม้จะมีหอตีเมืองให้ใช้แต่ก็ต้องวิจัยปลดล็อคก่อนซึ่งใช้เวลานาน ถ้าเล่นโหมด Mythos ก็อาจจะมีพวกสัตว์ประหลาดมาเพิ่มลูกเล่น เช่น เอา Harpies บินข้ามกำแพงเมืองไปไล่ตีพลธนูศัตรูแนวหลัง แต่ถ้าเล่นอีกสองโหมดนี่คือน่าเบื่อจัดๆ
เรื่องอื่นๆ
+ กราฟฟิคและเอฟเฟคแสงสีเสียงภาคนี้สวยงามมากทั้งในฉากแคมเปญและฉากต่อสู้ เช่น เอฟเฟคฝุ่นควันนี่สุดยอดระดับเดียวกับภาค Napoleon เลย หรือเวลารถศึกวิ่งผ่านพงหญ้าสูงก็จะมีรอยล้อลากยาวทิ้งไว้ การ Optimize ก็ทำออกมาได้ไม่กินสเป็คและลื่นไหลมาก สามารถโหลดข้ามเทิร์นหรือเข้าฉากต่อสู้ได้อย่างรวดเร็วแม้จะใช้แค่ SSD เก่าๆ หวังว่าภาคต่อไปจะทำให้ได้แบบนี้เหมือนเดิมนะ
+ โหมดถ่ายรูปนี่คืออีกสิ่งที่ดีงามในภาคนี้ ผู้เล่นสามารถถ่ายรูปฉากต่อสู้สวยๆได้แม้คอมสเป็คกาก แถมมีตัวเลือก Filter ให้ปรับแต่งมากมายตามใจชอบ ถือว่าเอาใจสายขิงที่ชอบเอารูปไปอวดคนอื่น
+ DLC เลือดภาคนี้ยกระดับจากภาคก่อนๆขึ้นไปอีกขั้นนึง โดยจะมีเอฟเฟคเลือดเจิ่งนองในน้ำเวลายูนิตตายกลางแม่น้ำ รอยล้อติดเลือดบนพื้นเวลารถศึกวิ่งเหยียบทหาร แล้วก็สามารถปรับเพิ่มลดปริมาณเลือดได้เช่นเดียวกับภาค Three Kingdoms ด้วย
+ พอตัวเกมมาวางขายบน Steam ก็เริ่มมี Mod ดีๆออกมาบน Steam Workshop ให้โหลดมาเล่นมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น Agony Mod หรือ Inquisitor Overhaul ที่ช่วยปรับปรุงระบบต่างๆในเกมให้สนุกมากขึ้น
- ตัวเกมต้องพึ่งพา DLC เยอะเพื่อให้เล่นสนุก ทั้ง DLC Mythos ที่เพิ่มสัตว์ประหลาดตัวเป็นๆเข้ามา DLC Amazon ที่เพิ่มฝ่ายหญิงล้วน คือถ้าไม่มี DLC ตัวเกมมันจะดูจืดๆ
สรุปคะแนน 7/10
ตัวเกมสนุกขึ้นกว่าเดิมมากถ้าเทียบกับตอนออกใหม่ๆ ยิ่งเอาไปเทียบกับภาคก่อนหน้านี้อย่าง Thrones of Britannia นี่จะเห็นว่าดีกว่า 1-2 ขั้นเลย DLC Mythos คือพระเอกผู้มาช่วยอุ้มเกมเอาไว้ กราฟฟิคสวยงามลื่นไหลแถมไม่กินสเป็คเช่นเคย ฉากแคมเปญก็ดีกว่าเดิมด้วยแพทซ์ Quality of Life หลายครั้ง ส่วนฉากต่อสู้ดีขึ้นเหมือนกันแต่ยังน่าส่ายหัวในบางจุด ปัญหายูนิตไม่มี Sync Animation ก็สามารถลง Mod เพื่อเอาอนิเมชั่นแม่ทัพมาใส่ให้ยูนิตได้เช่นกัน
ส่วนตัวคิดว่าตัวเกมสนุกพอจะแนะนำให้คนอื่นเล่นได้แล้ว แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดต้องรีบซื้อมาเล่น รอลดราคาซัก 50% ก็ได้ถ้าไม่รีบ หรือถ้าใครสนใจซื้อมาเล่นตอนนี้เลย มีมัดแพ็ค Ultimate Edition ที่กำลังวางขายอยู่ก็น่าสนใจดี โดยจะได้ตัวเกมหลักและ DLC ทั้งหมดยกเว้น DLC เลือด พร้อมส่วนลด 40% เพิ่มเติมด้วย (ใครจะซื้อมัดแพ็คในร้าน Epic โปรดระวัง กรุณาเช็คราคาดีๆเพราะเหมือนร้านมันจะให้บังคับซื้อตัวที่เรามีอยู่แล้วซ้ำอีกรอบ)
เหมาะสำหรับ
o เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบภาค Warhammer และอยากเปลี่ยนบรรยากาศ
o เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบเทพเจ้าและสัตว์ประหลาดกรีกโบราณ
o เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบทหารและสงครามยุคสำริด
o เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบการถ่ายภาพสวยๆ
โฆษณา