18 ธ.ค. 2021 เวลา 01:00 • ประวัติศาสตร์
โลก ภาษาอื่นใช้ 2 คำกันหมด แต่ภาษาไทยใช้แค่คำเดียว
🌏 Earth – World เป็นสองคำที่หมายถึงโลก แต่เชื่อว่าหลายคนเคยใช้สองคำนี้สลับกันอยู่บ่อยๆ ถูกบ้างผิดบ้าง เนื่องจากภาษาอังกฤษแยกใช้ 2 คำ เพื่อบอกความหมายที่แตกต่างกัน แต่ภาษาไทยรวมกันเป็นคำเดียว
ไม่ใช่แค่ภาษาอังกฤษ หากคุณไปเรียนภาษาอื่นๆ ก็จะพบว่าทุกภาษาก็แยกโลกออกเป็น 2 คำทั้งหมด ตามรูปข้างล่าง
เรียกว่าขนทุกภาษาหลักๆ บนโลกมาให้ดู มีแค่ภาษาไทยที่เดียว ที่เรียก “โลก” แค่คำเดียว ขณะที่ภาษาอื่นมี 2 คำ และสามารถแปลระหว่างกันได้โดยตรง โดยคำแรกมีความหมายตรงกับ Earth และคำหลังตรงกับ World
หากจะอธิบายความแตกต่างระหว่าง Earth และ World จะอธิบายได้ดังนี้
🌎 Earth: โลกในฐานะดาวเคราะห์
ย้อนกลับไปสมัยโบราณที่ความรู้ดาราศาสตร์ยังไม่ก้าวหน้า คนสมัยก่อนรู้แค่ด้านบนเป็นท้องฟ้า มีดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว และด้านล่างเป็นพื้นดินแบนๆ อันเป็นที่ตั้งของสิ่งต่างๆ ให้มนุษย์ดำรงชีวิตและสร้างสังคม
คนโบราณก็สร้างคำเรียกท้องฟ้าคือ sky และแผ่นดินคือ earth (ในภาษาอื่นก็ตั้งในทำนองเดียวกัน)
แน่นอนว่าเรามี earth แค่ที่เดียวคือพื้นโลกที่เรายืนอยู่ คนโบราณคงไม่คิดว่าจะมี earth ที่อื่นที่มนุษย์ไปเหยียบได้หรอก
ทำให้ความหมายจริงๆ ของ earth คือ “พื้นดิน” และทำให้เวลาเรียกธาตุดินเป็นภาษาอังกฤษ ทั้งระบบ 4 ธาตุของกรีก หรือ 5 ธาตุของจีน รวมไปถึงธาตุดินในเกมต่างๆ จึงใช้คำว่า earth ไม่ใช่ soil
เวลาต่อมา เมื่อความรู้ดาราศาสตร์พัฒนาจนก้าวหน้า คนรู้แล้วว่าโลกไม่ได้แบน ไม่ใช่ศูนย์กลางของจักรวาล แต่เป็นวัตถุทรงกลมที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ ก็เอา Earth ไปตั้งชื่อดาวเคราะห์ของตัวเองที่มนุษย์อาศัยอยู่นี่แหละ
Earth - ดาวเคราะห์โลก
ในภาษาจีน-ญี่ปุ่น-เกาหลีนี่ชัดเจนมาก เรียก Earth ว่า 地球 แปลตรงตัวคือ “ทรงกลมแผ่นดิน”
🟢 ดังนั้นแล้ว Earth/ 地球 จึงหมายถึงโลกในฐานะสิ่งไม่มีชีวิต เป็นดาวเคราะห์ที่มีแผ่นดินให้มนุษย์อยู่อาศัย และเป็นรูปธรรมจับต้องได้ (พื้นดิน)
.
🌍 World: โลกในฐานะสังคมมนุษย์
คำนี้มีความหมายค่อนข้างนามธรรม หัวใจสำคัญของ world คือ “มนุษย์” และ “สังคม” คือโลกอันเป็นที่อยู่ของอารยธรรมมนุษย์และชนชาติต่างๆ
ดังนั้นหากจะใช้ world จะต้องมีมนุษย์เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย เช่น
World Records สถิติโลก – สถิติที่สร้างขึ้นโดยมนุษย์
World War สงครามโลก – สงครามที่คนทั่วโลกสู้กัน
World Map แผนที่โลก – ขอบเขตของพื้นที่อยู่อาศัยของมนุษย์
Wonders of the World สิ่งมหัศจรรย์ของโลก (ในสายตามนุษย์)
นอกจาก world จะหมายถึงโลกใบนี้ที่มนุษย์อาศัยอยู่ร่วมกันแล้ว ยังหมายถึงโลกอื่นตามความเชื่อทางศาสนา หรือโลกในจินตนาการได้อีก เช่น
underworld – โลกบาดาล, โลกหลังความตาย
fictional world – โลกสมมติ (โลกในนิยายต่างๆ)
virtual world – โลกเสมือน
異世界 (Isekai) – ต่างโลก (โลกที่พระเอกอนิเมะเข้าไปอยู่หลังโดนรถบรรทุกชนตาย)
พูดง่ายๆ คือ ขอเป็นสถานที่ที่มนุษย์ หรือจิตวิญญาณได้ไปอาศัยอยู่ ก็เรียก world ได้หมดแหละ
ขอบเขตของ world จะกว้างหรือแคบ ก็แล้วแต่คนนิยามเลย ถ้าโดยทั่วไปก็หมายถึงโลกที่เราอาศัยกัน แต่ถ้าจะให้แคบลงก็หมายถึง “วงการ” เช่น
Sport world - โลกกีฬา
Fashion world – โลกแฟชั่น
❤️ หรือจะใช้ world ในฐานะโลกของเราสองคนยังได้เลย โลกใบนี้มีแค่ฉันกับเธอเท่านั้น แล้วก็เดทควงกันหวานแหวว ปล่อยให้คนโสดอิจฉาตาร้อน ❤️
World: โลกที่มนุษย์อาศัยอยู่ร่วมกัน
🟢 จะเห็นว่า world/ 世界 มีความหมายที่เป็นนามธรรมกว่า earth เพราะเป็นโลกที่ต้องมีสังคมมนุษย์เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย และ world จะมีกี่ที่ก็ได้ ตามแต่นิยามและจินตนาการของแต่ละคนได้อีก
🌏 สำหรับคำว่า “โลก” ในภาษาไทย ตามรากศัพท์สันสกฤตจริงๆ จะหมายถึง world เท่านั้น แต่คนไทยเอาคำนี้มาใช้ในความหมายของ earth ด้วย
แล้วจริงๆ แล้วในภาษาไทย มีคำไหนที่แปลว่า earth ในฐานะดาวเคราะห์ได้บ้างล่ะ?
ที่จริงภาษาฮินดีกับสันสกฤตก็มีบอกแล้วนะ คือคำว่า पृथ्वी (ปฤถฺวี) ซึ่งคนไทยจะคุ้นเคยกับคำว่า “ปฐพี” ในภาษาบาลี หรือหากจะเอาคำอื่นๆ ที่ใกล้เคียงก็มีทั้ง "หล้า, พิภพ, ภูมิ" ซึ่งก็มีความหมาย earth ได้เช่นกัน
ถ้าหากตอนแรกเลือกใช้คำอื่นที่หมายถึง earth คนไทยก็ไม่ต้องปวดหัวกับการนั่งแยกความหมายของ earth – world ทั้งในภาษาอังกฤษ และภาษาอื่นๆ
แต่จะให้มาแก้ตอนนี้ ก็คงสายเกินไปแล้ว เพราะคนไทยติดปากกับ “โลก” ทั้งสองความหมายไปเรียบร้อยแล้ว
โฆษณา