Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ชีวิต ∙ อิคิ ∙ 生き : ใช้ชีวิตแบบที่อยากมีชีวิต
•
ติดตาม
17 ธ.ค. 2021 เวลา 23:26 • หนังสือ
=======================
“สัปดาห์ละบทสองบท” || วันเสาร์
=======================
🧸• อะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป
✍🏻• ซะซะกิ ฟุมิโอะ เขียน || นพัฒน์ หัทยานันท์ แปล
🔖• บทที่ 1 - มินิมัลลิสม์มาจากไหน || ทำไมผมถึงมาเป็นมินิมัลลิสต์ ชาวญี่ปุ่นคนไหนก็เป็นมินิมัลลิสต์
📝• บันทึกใจความแบบดิบ ๆ ที่ยังไม่ผ่านกระบวนการแปรรูป พร้อม บันทึกการอ่านของ อิคิ ∙ 生き
=====================
ทำไมผมถึงมาเป็นมินิมัลลิสต์
=====================
ทุกคนล้วนแล้วแต่มีเหตุผลในการเป็นมินิมัลลิสต์
ที่แตกต่างกัน
แต่เหตุผลของคุณซะซะกิ [ ผู้เขียน ] คือ เพราะห้อง
ที่แสนรกรุงรัง เมื่อก่อนคุณซะซะกิเป็นคนที่ชอบสะสม
สิ่งของ รักและผูกพันกับสิ่งของมากเสียจนไม่กล้า
ทิ้งข้าวของเลยแม้แต่ชิ้นเดียว
คุณซะซะกิชอบถ่ายรูปเพราะหวังว่าจะเก็บช่วงเวลา
ทุกวินาทีเอาไว้ในความทรงจำ
หนังสือที่เคยอ่านก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่
ไม่อยากทิ้ง
เวลาจะทิ้งสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เขามักจะคิดว่า
“น่าเสียดายจัง แพงอีกต่างหาก”
“ยังใช้ได้อยู่เลย เก็บไว้ก่อน สักวันคงได้ใช้”
ความรู้สึกเหล่านี้ทำให้เขาไม่กล้าทิ้งของค่ะ
ปัจจุบันนี้คุณซะซะกิไปเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน
โดยสิ้นเชิง เมื่อก่อนคุณซะซะกิ เป็น
==========
แม็กซิมัลลิสต์
==========
ที่มักจะเก็บทุกสิ่งทุกอย่างไว้ ส่วนเวลาซื้อของ
ก็มักจะซื้อของใหญ่ ๆ หนัก ๆ ดี ๆ แพง ๆ เอาไว้ก่อน
พอของต่าง ๆ ถูกสะสมเพิ่มในห้องมากขึ้น มากขึ้น
เขาก็เหมือนโดดดูดพลังจากสิ่งของค่ะ
หลาย ๆ ครั้งเขามีคำถามว่า
“ทั้ง ๆ ที่ตั้งใจซื้อของเหล่านั้นมาใช้ประโยชน์
ทำไมเรากลับรู้สึกถูกรุกรานไปได้”
ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ว่าจะได้สิ่งของต่าง ๆ มาเท่าไหร่
ก็ยังรู้สึกไม่พอใจและยิ่งมองหาข้าวของ
เพิ่มอยู่ตลอด จนรู้สึกอิจฉาคนรอบข้างที่มีของ
มากกว่าโดยไม่รู้ตัว
- - - - -
[ อิคิ ∙ 生き's Memo ]
ถ้าท่านไหนมีโอกาสได้อ่านบันทึกการอ่านจาก
หนังสือ “คนสำเร็จเขามีนิสัยแบบไหน?” ตอนเมื่อวาน
ที่ อิคิ ∙ 生き ได้เขียนไว้
[
https://www.blockdit.com/posts/61bbc8125c4bb60b0a7fd03b
]
นี่คือตัวอย่างนึงค่ะ ที่เราปล่อยให้ความคิดชักนำชีวิต
ให้ตกต่ำแบบไม่รู้ตัวค่ะ
คุณซะซะกิปล่อยให้ตัวเองคิดเปรียบเทียบกับคนอื่น
โดยไม่รู้ตัว นำพาชีวิตไปซื้อของมากมายเพื่อที่จะได้
มีมากเท่าคนอื่น ๆ ลงท้ายด้วยห้องที่รกรุงรัง และ
โดนสิ่งของดูดพลังชีวิต
- - - - -
[ อะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป ]
คุณซะซะกิหลุดพ้นจากวงจรอุบาทว์นั้นได้โดยการ
เริ่มทิ้งข้าวของที่ไม่จำเป็น
สำหรับคนที่ตอนนี้รู้สึกไม่พอใจในชีวิตและไม่รู้ว่า
จะต้องทำอย่างไร คุณซะซะกิแนะนำให้ลองทิ้ง
ของใช้ที่ไม่จำเป็นดูทีละนิดก่อนค่ะ
คุณซะซะกิกล่าวว่า ข้าวของจำนวนมหาศาลคือ
สิ่งที่บั่นทอนพลังงานชีวิตค่ะ
[ อะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป ]
=======================
ชาวญี่ปุ่นคนไหนก็เป็นมินิมัลลิสต์
=======================
แรกเร่ิมเดิมทีวัฒนธรรมญี่ปุ่นคือ
วัฒนธรรมมินิมัลลิสต์ เช่น ในห้องชงชาของญี่ปุ่น
จะไม่มีของที่ไม่จำเป็นวางอยู่เลย ทางเข้าเป็น
ประตูเล็ก ก่อนเข้าห้องจะต้องทิ้งความทะนงตัวไป
เพราะเมื่อเข้ามาในห้องชงชาแล้วไม่ว่าจะเป็น
คนฐานะใด คนรวย คนจน คนใหญ่คนโต
มาจากไหนก็ไม่สำคัญ
การเข้ามาในห้องชงชานี้คือการได้หันหน้าเข้าหากัน
มานั่งจิบชาอย่างผ่อนคลายและคิดถึงจิตใจของ
กันและกัน
[ อิคิ ∙ 生き's Memo ]
หนึ่งในของที่ทิ้งยากสำหรับ อิคิ ∙ 生き คือ
หนังสือค่ะ
จริง ๆ แล้วไม่ใช่แค่ทิ้งยากนะคะ
แต่อดซื้อไม่ได้ด้วย เพราะเราคิดว่า
ถ้าเราไม่ซื้อหนังสือเพิ่ม นั่นหมายถึง
เราปฏิเสธความรู้ อีกทั้งบางทีเราซื้อช้าไป
ถีงเวลาจะซื้อ หนังสือหมด ก็กลายเป็นอด
หลัง ๆ อิคิ ∙ 生き เริ่มประสบปัญหาชั้นวางหนังสือ
ไม่พอเก็บค่ะ ถ้าให้พูดง่าย ๆ คือ อ่านไม่เร็วเท่าซื้อนั่นเอง
เวลาซื้อ ซื้อเป็นสิบเล่ม แต่เวลาอ่านเต็มที่ก็อ่านได้แค่
เดือนละสองเล่มค่ะ
มิหนำซ้ำเมื่อก่อนมีแต่ซื้อเข้า อ่านเสร็จก็เก็บไว้
วันนึงจึงคิดได้ว่า เราต้องมีพื้นที่มากแค่ไหนในการ
เก็บหนังสือหล่ะเนี่ย เท่าไหร่ก็ไม่พอเลยจริง ๆ
อิคิ ∙ 生き เริ่มต้นด้วยการส่งมอบหนังสือที่อ่านจบแล้ว
ด้วยการเขียนบทความเกี่ยวกับหนังสือ เพื่อส่งมอบต่อ
ให้กับคนที่สนใจผ่านทางเพจ อิคิ ∙ 生き ค่ะ
แม้วิธีนี้จะช่วยลดจำนวนหนังสือได้บ้าง
แต่ก็น้อยมากค่ะ เพราะอย่างที่ อิคิ ∙ 生き
ได้กล่าวไว้ข้างต้นว่า เวลาซื้อเราซื้อเป็นสิบเล่ม
แต่เวลาอ่านอ่านได้ทีละเล่มสองเล่ม
อิคิ ∙ 生き จึงเริ่มมาคิดว่า ทำอย่างไรเราจึงจะ
ลดปริมาณการซื้อหนังสือได้
โดย อิคิ ∙ 生き ใช้วิธีนี้ค่ะ . . .
- - - - -
========
กฎข้อที่ ①
========
อิคิ ∙ 生き ตั้งจำนวนหนังสือ
ที่อนุญาตให้ตัวเองซื้อในหนึ่งเดือนไว้ค่ะ
อิคิ ∙ 生き กำหนดไว้ที่ 3 เล่มต่อเดือนค่ะ
========
กฎข้อที่ ②
======== เมื่อเราซื้อได้แค่เดือนละ 3 เล่ม เราจะซื้อพร่ำเพรื่อ
ซื้อแบบไม่คิด ไม่วางแผนไม่ได้ค่ะ 3 เล่มที่เราซื้อ
ต้องเป็น 3 เล่มที่เราอยากได้จริง ๆ
ดังนั้นจึงเป็นที่มาของกฎข้อที่ 2 นั่นคือ เราจะไม่ซื้อ
หนังสือทันที แต่จะซื้อตอนสิ้นเดือนเท่านั้น
ระหว่างเดือนถ้ามีโอกาสไปร้านหนังสือ หรือ
เห็นหนังสือใหม่จากโซเซียลมีเดีย อิคิ ∙ 生き จะ
ถ่ายรูปหนังสือบันทึกไว้ในอัลบั้มที่ชื่อว่า
“หนังสือที่อยากได้” ไว้ก่อนค่ะ
เมื่อถึงสิ้นเดือน อิคิ ∙ 生き ก็จะมาเลือกดูว่า
จากคลังภาพหนังสือที่อยากได้ว่า 3 เล่มไหน
ที่จะเราซื้อในเดือนนี้
แต่มีข้อยกเว้นเล็กน้อยให้กับหนังสือ
ที่เรารู้สึกว่าเรายังไงก็ต้องอ่าน ถ้ายิ่งลดราคาอยู่
และมีโปรโมชันที่น่าสนใจมาก ๆ อิคิ ∙ 生き
ก็จะพิจารณาซื้อระหว่างเดือนค่ะ
- - - - -
อิคิ ∙ 生き ได้ลองใช้วิธีนี้เป็นเวลาหลายเดือน
แล้วค่ะ ปรากฎว่าได้ผลมาก ไม่เคยมีเดือนไหน
ที่ อิคิ ∙ 生き ซื้อหนังสือเกิน 3 เล่มเลย บางเดือน
ถึงขนาดไม่ได้ซื้อด้วยซ้ำ
แต่ อิคิ ∙ 生き ไม่อยากให้เพื่อน ๆ เข้าใจผิดนะคะ
ว่าการซื้อหนังสือเป็นเรื่องไม่ดี การซื้อหนังสือ
เป็นเรื่องดีมาก ๆ ค่ะ แต่ถ้าเราอ่านไม่ทันซื้อ
จะเป็นโทษมากกว่าค่ะ
ดังนั้นหากเพื่อน ๆ ท่านใดมีปัญหา
เหมือน อิคิ ∙ 生き จะลองนำ วิธีที่ อิคิ ∙ 生き
เล่าข้างต้นไปปฏิบัติดูก็ได้ค่ะ
สำหรับเช้านี้ อิคิ ∙ 生き ขอลาไปก่อน
แล้วพบกันใหม่กับเรื่องราวของ มินิมัลลิสต์
ในวันเสาร์หน้านะคะ
สวัสดีเช้าวันเสาร์นะคะทุกคน 🙏🏻😊
ภาพเหล่านี้เป็นตัวอย่างที่ อิคิ ∙ 生き บันทึกไว้ใน "คลังหนังสือที่อยากได้" ระหว่างเดือนค่ะ
หมายเหตุ : หากเพื่อน ๆ ท่านในสนใจเรื่องราวจาก “อะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป” จนอดใจรอให้ อิคิ ∙ 生き สรุปทีละสัปดาห์ไม่ไหวก็สามารถสั่งซื้อหนังสือได้ที่ Link ด้านล่างนะคะ
https://www.naiin.com/product/detail/211204?gclid=CjwKCAiAs92MBhAXEiwAXTi259XiEeKtIc7D8sK7dCQUHpSKz1qMEkMQ0le0l3Osi4-8aeW3l0XLphoCx4UQAvD_BwE
#สัปดาห์ละบทสองบท #อะไรไม่จำเป็นก็ทิ้งไป
1 บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
สัปดาห์ละ. . .บท 2 บท
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย