18 ธ.ค. 2021 เวลา 11:33 • การตลาด
🤦‍♂️🤦‍♀️เมื่อคุณมาถึงจุดที่ท้อแท้กับการเขียน content ไม่รู้จะเขียนไรดี ขอบอกไว้เลยว่า หากคุณผ่านจุดๆนั้นไปได้และเข้าใจถึงกระบวนการที่แท้จริง คุณจะไม่มีปัญหาในเรื่องนี้อีกเลย
ถ้าพูดถึงเรื่องการตัน คิดไม่ออก ไม่รู้จะเขียนอะไร เหมือนขาดไอเดีย รู้สึกเบื่อ
บอกได้เลยว่า ผู้เขียน น่าจะเป็นอีกหนึ่งคนที่เคยบ่นถึงปัญหานี้บ่อยมาก ถึงมากที่สุด เคยถึงขั้นเบื่อมาก ไม่อยากทำแล้ว ยิ่งในช่วงที่ทำงานที่ทำต้องคิด content ทุกวันยิ่งหนัก
เคยคิดมาตลอดว่า ใครมันจะมาคิดออกได้ทุกวัน บ้าหรอ มันก็ต้องมีหมดมุขกันบ้างล่ะ เพราะยิ่งพยายามคิด ก็ยิ่งคิดไม่ออก ยิ่งเพ่ง ก็ยิ่งรู้สึกล้า จนทำให้ช่วงนั้นรู้สึกแอนตี้ไปเลย อยากเลิกทำละ 😌
แต่พอมาวันนึง หลังจากช่วงที่พีคที่สุดของความท้อแท้และหมดไฟ จนต้องกลับมาตั้งหลักใหม่ ทำสมองให้ว่าง ทำสิ่งที่สมองชอบ คือไม่คิดอะไรเลย
เพราะปกติแล้วใช้สมองทำงานหนักมาตลอด จนเหมือนสมองประท้วง เพราะถ้าสมองพูดได้ก็คงพูดว่ากุก็เหนื่อยเป็นเหมือนกันนะ 😌 แล้วรู้ไหมว่า การที่สมองว่างนี่ล่ะ เป็นจุดเริ่มต้นของไอเดียที่พรั่งพรู
ผู้เขียน ได้ค้นพบว่าการหาไอเดียหัวข้อใหม่ๆมันไม่ใช่เรื่องยากเลย กลับกัน มันวิ่งเข้ามาหาเราเองด้วยซ้ำ ในระหว่างที่เราก็ไม่ได้ไปโฟกัสที่การคิดเลยนะ แต่มันทยอยออกมาในระหว่างวัน ขณะที่เรากำลังชงกาแฟ หรือนั่งส้วมอยู่ 🤣 เชื่อว่าเดียของหลายๆคน ก็มาในรูปแบบนี้เหมือนกัน
มาถึงตรงนี้สิ่งที่ ผู้เขียน กำลังจะบอกทุกท่านเป็นข้อๆให้ฟัง ประมาณ 5 ข้อนี้
1. คุณลองทบทวนดูว่า ที่คุณคิดไอเดียดีๆไม่ออก เป็นเพราะคุณใช้สมองทำงานหนักจนเกินไปมั้ย?
การที่คุณใช้สมองมากเกินไป จนล้า มันไม่เคยทำให้ประสิทธิภาพงานออกมาดี แต่มันกลับทำให้สมองทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
เพราะไอเดียนั้นมันจะมาในตอนที่คุณรู้สึกสดชื่นเสมอ ดังนั้นคุณอาจจะต้องพักสมองบ้าง โดยการทำงานอดิเรกที่คุณชอบ และคุณรู้สึกผ่อนคลาย ได้เป็นตัวตนของคุณเอง
เพราะเมื่อนั้นคุณจะรู้สึกว่าได้ยิ่งคุณปล่อยให้สมองผ่อนคลายได้มากเท่าไร คุณจะยิ่งมีความคิดสร้างสรรค์ที่มากขึ้นและไม่ยึดติดกับอะไรเดิมๆมากไป
2. การที่คุณอยากได้ไอเดียใหม่ๆ นั่นแสดงว่าคุณจะต้องให้อาหารสมองมันหน่อยมันถึงจะให้สิ่งดีๆกับคุณคืน
แล้วอาหารสมองมีอะไรบ้าง?
มันเป็นอะไรที่หาได้ง่ายมากๆในยุคนี้ เช่น การฟังพอดแคสต์ การหาหนังสือดีๆสักเล่มอ่าน เป็นหนังสือที่จะช่วยเติมเต็มพลังงานในตัวคุณ และสร้างแรงบันดาลใจให้คุณได้ด้วย
รู้มั้ยว่าสิ่งเหล่านี้แหละ มันจะเป็นอาหารชั้นดี และคุณจะค่อยๆ ซึมซับมันเข้าไปโดยไม่รู้ตัว หลายครั้งมากที่ จขพ ผุดไอเดียใหม่ๆขึ้นมาได้ระหว่างการอ่านหนังสือ และเป็นไอเดียที่ดีมากซะด้วย
3. เมื่อมีไอเดียอะไรเข้ามา ให้รีบจดไว้ทันที เพราะมันจะมาไวไปไวมาก
ผู้เขียน เคยลืมไอเดียที่อยู่ๆแวบเข้ามา แล้วลืมภายใน 3 วินาที เพราะไม่ยอมจด
มันลืมง่ายจริงๆ เพราะเหมือนมันแค่แวบเข้ามา เป็นแค่เพียงเศษเสี้ยวความคิด แต่เศษเสี้ยวนั้นแหละ มันเอามาต่อยอดอะไรต่อมิอะไรได้มากมาย
มันน่าเสียดายมาก ถ้าเราปล่อยให้ดีๆทั้งหลายที่อุตส่าเข้ามาให้มลายหายไป เพียงเพราะคุณไม่จด
4. สิ่งที่คุณพบเจอ หรือที่คุณประสบมาในแต่ละวัน มันสามารถทำเป็น content ได้หมด ถ้าคุณฝึกนิสัยนี้ให้ชิน
เช่น วันนี้ผู้เขียนได้พูดคุยกับเพื่อน และเพื่อนได้บ่นว่า งานเยอะมาก ไม่มีเวลาคิด content เลย ผู้เขียนเลยนำประเด็นนี้มาเขียนต่อยอดในเรื่องของการคิด content อย่างไรให้ไม่ต้องคิด
และถ้าตันจนคิดไม่ออกต้องทำอย่างไร หรือ content ก่อนหน้าที่เคยพูดถึงหัวข้อเรื่องดวงดาวชะตาชีวิต ก็มาจากตอนที่นั่งอ่านดวงตัวเองอยู่ มันมาจากชีวิตประจำวันของเรานี่แหละ
เพียงแต่เราต้องรู้จักฝึกการเก็บมาต่อยอดตรงนี้ให้เป็นนิสัย เชื่อสิ ต่อไปคุณจะสบาย เพราะคุณจะไม่มีปัญหาคิดไม่ออก หรือไอเดียตีบตันมาทำให้คุณปวดหัวอีกเลย
5. แล้วอย่าลืม รีบลงมือเขียนทันทีเมื่อได้โอกาส เพราะการเขียนนั้นจะลื่นไหลมาก ในตอนที่คุณกำลังอินกับมัน
รีบเขียนไห้ไว อย่ารอช้า เพราะไม่งั้นคุณจะหมดไฟและหมดใจ แล้วความโฟลหลั่งไหลดุจสายน้ำของคุณมันจะเริ่มนิ่ง
เชื่อสิ อะไรที่มันสดใหม่ และออกมาจากจิตวิญญาณของคุณมันจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ นั่นเลยทำให้บทความเรื่องเดียวกัน คล้ายๆกัน แต่ทำไมพลังความน่าสนใจถึงต่างกัน นั่นเป็นเพราะบทความที่มีพลังเขาได้ใส่จิตวิญญาณลงไปในนั้นด้วย ในระหว่างที่พวกเขาเขียน เขาเขียนด้วยพลังจิตวิญญาณที่เต็มเปี่ยมและพลังงานนั้นได้ถ่ายทอดไปสู่บทความด้วย
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่านไม่มากก็น้อย และทำให้ปัญหาการคิด content ไม่ออกกลายเป็นปัญหาเล็กน้อย หรือไม่เป็นปัญหาของท่านอีกเลย และท่านจะสนุกไปกันมันอย่างแน่นอน 🤗
โฆษณา