[รีวิวหนัง] The Matrix Resurrection (2021) : การกลับมาของ “ Neo และ Trinity “ ในโลกเดอะเมทริกซ์ (อีกครั้ง)
- การต่อสู้ระหว่างมนุษย์ชาติและเครื่องจักรยังคงประทุอย่างต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด นีโอและทรินิตี้กับชีวิตอันสงบสุข ? และหญิงสาวปริศนานามว่า “ บัคซ์ “ ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่จะสามารถค้นหาความจริงของเรื่องทั้งหมด พร้อมปลุกตำนานที่ถูกเล่าขานให้ตื่นขึ้น
The Matrix Resurrection (2021)
- แฟนๆ “ จอร์น วิค ” เอ้ย ! นีโอ จากไตรภาค “ เดอะเมทริกซ์ ” จะต้องคิดถึงและดีใจกับการกลับมาในภาคที่ 4 ซึ่งดำเนินเรื่องราวหลังจากภาค 3 ซึ่งผู้เขียนเองไม่ได้เป็นแฟนตัวยงเท่าไหร่ แต่พอได้ดูภาคนี้กลับรู้สึกว่าการเล่าเรื่องมีปัญหาอย่างมาก
The Matrix Resurrection (2021)
- เข้าใจว่าเป็นหนังแนวไซไฟปรัญชานะ แต่บทพูดของตัวละครบางคนพาปวดหัวและมึนตึบจริงๆ กลายเป็นทำให้เรารู้สึกชวนง่วงและเนือยๆตลอดเวลาที่เป็นช่วงสนทนา แต่ซีนแอคชั่นยังพอทำได้มีเสน่ห์ การยิงปืนเท่ๆ
- การวิ่งไต่ผนังพร้อมสโลว์โมชั่นที่เป็นกิมมิคของหนังเรื่องนี้ก็ทำออกได้เร้าใจเช่นเคย เพียงแค่ไม่มีท่าที่น่าจดจำแบบการหลบกระสุนสุดเท่ของนีโอที่กลายเป็นตำนานมาถึงทุกวันนี้
The Matrix Resurrection (2021)
- ตัวละครใหม่อย่าง “ Bug ” ที่เสริมเข้ามาก็เท่บาดใจ ซึ่งได้นักแสดงสาว “Jessica Henwick “ ที่ได้โชว์ฝีมือเข้าซีนแอคชั่นเท่ๆในช่วงองค์แรก แต่พอช่วงองค์สามก็แผ่วลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะแน่นอนว่าตัวละครหลักจริงๆคือ นีโอและทรินิตี้ นั่นเอง ช่วงองค์สามจึงเป็นการเล่าเรื่องของทั้งสองคนไปโดยปริยาย
- ส่วนตัวละคร " Morpheus " ก็ได้เปลี่ยนจากคนเดิมเป็น " Yahya Abdul-Mateen II " ที่ยอมรับว่าพี่แกเท่ไม่เป็นสองรองใคร แค่บทไม่ได้เด่นเท่าไตรภาคแรกๆเท่านั้นเอง ส่วนตัวร้ายประจำหนังอย่าง " Smith " ก็มีการเปลี่ยนคนเล่นมาเป็น " Jonathan Groff " ก็แสดงได้ดี ทำให้เรานึกถึงหน้าตาสมิธคนเก่าได้ตลอดเวลา
The Matrix Resurrection (2021)
- บทสรุปช่วงท้ายแม้จะมีซีนให้ตื่นเต้นพอหอมปากหอมคอบ้าง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใหม่และน่าจดจำอะไรเลย แอบเสียดายที่คาดหวังว่าจะยิ่งใหญ่และอลังการมากกว่านี้ แต่ถ้าทำให้หายคิดถึงตำนานความเป็นเดอะเมทริกซ์ก็พอไปรอดและน่าติดตามในภาคต่อๆไปครับ
Score : 7/10
K.
The Matrix Resurrection (2021)
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
