20 ธ.ค. 2021 เวลา 07:31 • หุ้น & เศรษฐกิจ
สรุป Big Idea 2021 ของ Ark Invest By BroInvestor
15 ธีม การลงทุนในอนาคต
ทางเพจขอแบ่งเป็น 3 ตอนนะครับ
ตอนที่ 3 ธีมการลงทุน 11-15
11.Orbital Aerospace
-ความก้าวหน้าในด้าน Deep Learning, Mobile Connectivity, Sensors, 3D printing และ Robotics ทำให้ค่าใช้จ่ายในการนำดาวเทียมมางานถูกลงอย่างมาก โดยมีโอกาสในการเติบโตของอุตสาหกรรม Orbital Aerospace (Satellite Connectivity และ Hypersonic Flight) จะมากกว่า 370,000 ล้านเหรียญต่อปี
1.การเชื่อมต่อกันทั่วโลก ประมาณ 50% ของประชากรทั่วโลก ยังไม่สามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ แต่ ดาวเทียมที่มากขึ้น Cloud ที่มากขึ้น จะไปทั่วโลกได้มากขึ้น
2. “Hypersonic Flight” การเดินทางโดย Hypersonic Point-to-Point Travel การเดินทางระยะไกลจะเปลี่ยนไป จากใช้เวลา 10+ ชั่วโมง จะเหลือ 2-3ชั่วโมง เศรษฐกิจทั่วโลกจะเปลี่ยนแปลงไป จากผลวิจัย ผู้โดยสารยอมที่จะจ่ายมากขึ้น 15,000 เหรียญ เพื่อใช้เวลาในการเดินทางน้อยลงทุก 2 ชั่วโมง และจะยอมจ่ายเพิ่มถึง 100,000 เหรียญ ที่จะประหยัดเวลา 13 ชั่วโมง ทำให้ตลาดการเดินทางโดย Hypersonic Flight สร้างรายได้ได้ถึง 270,000 ล้านเหรียญต่อปี
3.Multiplanetary Species มนุษย์อาศัยอยู่บนสถานีอวกาศาแล้ว 20ปี ภายใน 10ปีข้างหน้า มนุษย์จะสามารถอยู่ที่ดวงจันทร์หรือดาวอังคารได้
-ในอดีตจะส่งดาวเทียมขึ้นไป ใน geostationary orbit(GEO) ยังไม่สามารถให้บริการอินเตอร์เน็ตได้ทั่วโลก ปัจจุบันหลายบริษัทเริ่มที่ส่งดาวเทียมหลายพันดวงออกไปโคจรในวงโคจรต่ำ Low Earth Orbit (LEO) ซึ่งจะทำให้สัญญาณสามารถครอบคลุมได้ทั้งโลกมากขึ้น
-ARK คาดการณ์รายได้ของ Satellite Broadband จะสูงถึง 10,000 ล้านเหรียญต่อปี ใน US และ 40,000 ล้านเหรียญทั่วโลก ภายในอีก 5-10 ปีข้างหน้า รวมถึงตลาดในการเชื่อมต่อ เครื่องบิน รถไฟ รถยนต์ เข้าด้วยกันจะสูงถึง 36,000 ล้านเหรียญภายในปี 2025 และรัฐบาลทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะใช้บริการทางอวกาศมากขึ้นด้วย ทำให้ตลาด Satellite Connectivity จะมีมูลค่าสูงถึง 100,000 ล้านเหรียญได้ต่อปีได้เวลาไม่นาน
12. 3D Printing
-3D Printing และ AI ช่วยให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการออกแบบที่ไม่สามารถทำได้ในการผลิตแบบดั้งเดิมจะช่วยลดเวลาและลดของเสียในการออกแบบและการผลิต ARK เชื่อว่าเทคโนโลยี 3D Printing จะปฏิวัติการกระบวนการผลิตและจะสร้างการเติบโตได้ปีละประมาณ 60% จาก 12,0000 ล้านเหรียญในปีที่แล้ว จะเพิ่มขึ้นเป็น 120,000 ล้านเหรียญ ภายในในปี 2025
3D Printing แบ่งเป็น 3 รูปแบบ
1. Prototypes คิดเป็น 40-50% ที่มีการใช้งาน3D Printing ซึ่งมีมูลค่าตลาด 12,500 ล้านเหรียญ ใช้ในทุกอุตสาหกรรม
2. Mold & Tools คิดเป็น 4% ที่มีการใช้งาน3D Printing ซึ่งมีมูลค่าตลาด 30,000 ล้านเหรียญ ใช้ในอุตสาหกรรม Automobiles, Auto Parts, Equipment, Machinery, Foundries and Metal Products, Industrial Manufacturing, Die Sets, Jigs and Industrial Molds
3. End-Use Parts คิดเป็น 1% ที่มีการใช้งาน3D Printing ซึ่งมีมูลค่าตลาดถึง 490,000 ล้านเหรียญ ซึ่งทำอยู่ในอุตสาหกรรม Aerospace,Health Care Equipment and Supplies,Plastic Products,Footwear,Semiconductors and Equipment
Aerospace เป็นอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์มากที่สุดจากเทคโนโลยี 3D Printing ซึ่ง ARK คาดการณ์ว่า รายได้ของ Drone Hardware จะโตขึ้นถึง 100,000 ล้านเหรียญ ภายในปี 2025
13. Long-Read Sequencing (LRS)
Long-Read Sequencing สามารถทำให้เห็นภาพที่สมบูรณ์ของจีโนมมนุษย์
• Next-generation DNA sequencing (NGS) เป็นแรงผลักดันทำให้เกิดการปฏิวัติจีโนม แม้ว่าในอดีตจะใช้วิธีการอ่านโดย shor-tread sequencing (SRS) ARK เชื่อว่าอ่าน แบบ LRS จะมีส่วนแบ่งในตลาดที่เพิ่มเข้นอย่างรวดเร็ว
• ARK เชื่อว่า LRS เทคโนโลยี จะให้ความแม่นยำที่เหนือกว่ามากขึ้นการตรวจจับตัวแปรที่ครอบคลุมและชุดคุณสมบัติที่สมบูรณ์กว่า SRS ภายในปี 2025
•ARK ประเมินว่ารายได้จาก LRS จะเพิ่มขึ้น 82% ต่อปี จาก 250 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2020 เป็นประมาณ 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2025
-การตรวจหา DNA sequencing ในรุ่น First Generation Sequencing นั้น จะใช้เทคนิคการตรวจแบบ Sanger Sequencing ซึ่งมีข้อจำกัดหลายอย่างอยู่ ต่อมาใน Second Generation Sequencing หรือที่เรียกกันว่า Next-generation DNA Sequencing (NGS) ซึ่งเป็นการตรวจแบบ Short Read Sequencing (SRS) ซึ่งเร็วกว่า และราคาถูกว่าแบบแรกมาก และต่อมาเป็น Third Generation Sequencing ซึ่งเป็นแบบ Long-Read Sequencing (LRS) ซึ่งข้อมูลที่ได้มีข้อมูลเพิ่มขึ้นจากเทคโนโลยี NGS อย่างมาก ให้ความถูกต้องแม่นยำสูงกว่ามาก ตรวจจับตัวแปรที่ครอบคลุมกว่ามาก และ ชุดคุณสมบัติที่สมบูรณ์กว่าแบบ Short Read Sequencing (SRS) มาก
โดย ARK เชื่อว่า การตรวจแบบ LRS คาดการณ์ค่าใช้จ่ายในการตรวจจีโนม ด้วย LRS จะลดลงมาก ในปี 2025 ด้วยราคาเพียง 100-200 เหรียญเท่านั้น จากราคา 3,500 เหรียญในปี 2020
14. Multi-Cancer Screening
-จาการวิจัย ARK พบว่าเทคโนโลยีในปัจจุบัน ทำให้ราคาการตรวจคัดกรองมะเร็ง ลดลง 20เท่า จาก 30,000 เหรียญ ในปี2015 เป็น 1500 เหรียญ และจะลดลงเหลือ 250 เหรียญ ภายในปี2025 ซึ่งถ้าเราสามารถตรวจเจอได้ก่อนตั้งแต่ระยะเริ่มต้น สามารถช่วยชีวิตคนได้ถึง 66,000 คนต่อปี ใน US เลยทีเดียว อัตราการรอดชีวิตเฉลี่ยใน 5 ปี ของคนที่เป็นมะเร็งเฉพาะที่สูงถึง 89% แต่เหลือ 24% ในรายของคนที่เป็นมะเร็งแบบแพร่กระจาย แค่เฉพาะใน US คาดการณ์ตลาดนี้จะมีมูลค่าถึง 150,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
15. Cell and Gene Therapy: Generation 2
New Cell และ Gene Therapy Innovations จะเพิ่มมูลค่าตลาดของการรักษามะเร็งได้ถึง20 เท่าเลยทีเดียว
-Cancer Therapies Are Shifting From Liquid To Solid Tumors โดยปกติการรักษามะเร็งนั้นจะถูกทดสอบกับมะเร็งที่เป็น Liquid Tumors ก่อน เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลือง แต่มะเร็งที่ตรวจพบ มากกว่า 88% เป็นมะเร็งแบบ Solid tumors และกว่า US Food and Drug Administration (FDA) จะอนุมัติให้มีการใช้ยาในการรักษาได้จริงใช้เวลานานมากแต่การมีเทคโนโลยี AI, Gene Editing และ Next Generation Sequencing ทำให้อัตราการล้มเหลวในทดลองลดลง และ เวลาในการเอายาเข้าสู่ตลาดสั้นลง ทำให้อัตราในการอนุมัติยาใหม่เร็วขึ้นด้วย
Autologous To Allogeneic Cell Therapies (เปลี่ยนจาก Autologous การใช้เซลล์ของคนไข้เองมารักษา มาเป็น Allogeneic Cell Therapies การปลูกถ่ายเซลล์)
Gene Therapies Could Shift From Ex Vivo To In Vivo Editing เปลี่ยนจากการปรับแต่งเซลล์นอกตัวคนไข้แล้วค่อยปลูกถ่ายเข้าไปในตัวคนไข้ (Ex Vivo) เป็น ปรับแต่งเซลล์ภายในร่างกายคนผู้ป่วยเลย (In Vivo) การให้การรักษาแบบ In Vivo ไม่สามารถที่จะปรับแต่งได้ก่อนการเคลื่อนย้าย แต่ราคาถูกกว่า ผลิตและขยายการผลิตได้ง่ายกว่า ใช้ได้กับอวัยวะหลายส่วน เช่น ตับ ตา ระบบประสาทสมองส่วนกลาง และกล้ามเนื้อ
-ARK คาดการณ์ว่า Allogeneic Cells และ Cellular Immunotherapies สามารถสร้างรายได้ ถึง 250,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
นวัตกรรมทางด้าน Cellular Immunotherapies รวมถึง TILs, TCRs และ CAR T cell therapies จะมีมูลค่าตลาดได้ถึง 30,000ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นเกือบ 3 เท่าจากปัจจุบันที่มูลค่าตลาดอยู่ที่ 13,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
Allogeneic Therapies จได้ผลดีในช่วงแรกของการเป็นมะเร็ง และจะมีมูลค่าตลาดถึง 70,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
การผสานระหว่างนวัตกรรมเซลล์บำบัดและเซลล์อัลโลจีนิกจะมีมูลค่าเพิ่มอีก 150,000 ล้านเหรียญสหรัฐและเพิ่มมูลค่าตลาดรวมจะเพิ่มขึ้นได้อีก 20 เท่าหรือมากกว่า 260,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
-เมื่อเวลาผ่านไปการบำบัดด้วยยีนในร่างกายสามารถรักษาได้โรคหายากนับพัน
ผิดพลาดประการใดขออภัย ณ ที่นี้ด้วย
BroInvestor
โฆษณา