21 ธ.ค. 2021 เวลา 03:06 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
รีวิว Matrix IV แบบสปอยล์ไปเกือบครึ่งเรื่องมาแล้วล่ะค่าาา .. 🧭💕🤗
สวัสดีค่ะ ทุกๆ ท่าน
ไหนๆ ก็ตั้งตัวเป็น ๑ ในสาวกตัวเอ้ของ ไตรภาค The Matrix มาตลอด ๒ ทศวรรษ
เพราะฉะนั้น ครั้งนี้ขอดิชั้นจาระไน ~ ใส่กันแบบเต็มๆ เลยนะคะ
อย่างแรกเลย ขออวยก่อนค่ะ
ทั้งคุณพี่ 'เคียนู' และคุณ 'แครี่ แอนน์' ที่ยังดูดีไม่น้อยในวัยเลข๕
จนแสนจะเหมาะเจาะ ~ไม่ขัดตา & ใจในการเป็นพระเอก ~ นางเอก ได้ล่ะค่ะ
( แม้ในซีนที่ 'นีโอ' ไร้หนวดเคราเมื่อกลับสู่โลกความจริง จะดูสมกับวัยไปสักนี้สส์ งิงิ ) ⌛🎼🤩
มาเข้าเรื่องกันเลยค่ะ
ถ้าจะหวังเห็นแอ้คชั่นซีน แสนตระการตาอย่างภาคแรก & ๒ นั้น ดิชั้นคิดว่า คงต้องเผื่อใจลงหน่อยค่ะ
ส่วนตัวเห็นว่า ๒ ภาคแรก คือ ที่สุดแล้ว ทั้งซีนสาดกระสุน รึว่าสู้ด้วยมือเปล่า 💝🎉
เริ่มเรื่องช่วง ๒๐ นาทีแรก เดาว่าบางท่านอาจจะมีอาการมึนตึ้บกันบ้าง เพราะตัวละครใหม่หมด แม้แต่มอร์เฟียสก็ยังหน้าใหม่
( ต่อให้สาวกตัวเอ้แบบดิชั้นเอง ก็ยังแอบงงๆ แหะๆ )
พอเข้าช่วงเปิดตัวนักออกแบบเกมส์ เสมือนจริงชื่อดัง 'Matrix' ของมิสเตอร์ 'แอนเดอร์สัน' ก็เริ่มจะเก๊ทได้เรื่อยๆ ค่ะ
ว่าพระเอกโดนกลืนกลับสู่เมทริกซ์อย่างสมบูรณ์
และที่ดิชั้นชอบมากๆ
คือ ตัวหนังสื่อความสับสนในตัวตนของพระเอก ด้วยการใช้เพลงร้อคกึ่งๆ บัลลาด ( มั้ยหว่า..? ☺🤭 )
1
เป็นตัวหลักในการสื่อถึงความรู้สึกย้อนแย้งในตัวเองของ 'โธมัส แอนเดอร์สัน' น่ะค่ะ ดิชั้นก็พลอยรู้สึกอินตามไปด้วยอย่างจริงจัง
รวมทั้งภาคนี้ พี่'เคียนู' สื่ออารมณ์ทางดวงตาได้ ( โคตระจะดี๊ดียย์ ) ดีกว่าอย่างมากมาย เมื่อเทียบกับตอนที่พี่แกยังหนุ่มๆ ( แต่หล่อใสโคตระง่ะค่ะ อ่ะคริๆ ) 😊🌈💕
ต่อจากนั้น เนื้อเรื่องก็ไปในทางเดียวกันกับภาคแรก แต่มีสีสันนิดหน่อยตรงที่เครื่องจักรบางส่วน กลับหันมาเป็นพันธมิตรกับมนุษย์
ที่ทำให้ดิชั้นตกใจเล็กๆ ก็ที่ 'นายพลไนโอบี' อดีตสาวเก๋สวยเท่ห์ ทำไมช่างชราได้ถึงเพียงนี้ และชีเริ่มเปลี่ยนคอนเส้พท์ใช้ชีวิตให้สุขง่ายๆ & สงบงาม ไปตามวัย 🤗🎶🌿
1
อุ้ยย ... เผลอสปอยล์ไปเกือบครึ่งเรื่องยังคะนี่ อิอิ
งั้นขมวดเข้าสู่ครึ่งหลังของเรื่องเลยดีกว่าค่ะ ทุกๆ ท่าน
1
ที่ทำให้ดิชั้นแอบฉงนไม่น้อย
คือ พลานุภาพในความรักของทั้งคู่ เมื่อทุกครั้งที่ 'นีโอ ~ ทรินิตี้' พยายามที่จะสัมผัสถึงกัน ( ท่ามกลางการป้องกัน & ยื้อตัวโดยหน่วยสวาททั้งกองทัพ )
ว่าจะเกิดพลังงานมากมาย & รุนแรงอะไรได้ถึงขนาดนั้น..!!! ว้าวๆๆ 🥰🎉
1
และก็มาถึงซีนแอ้คชั่นตอนท้ายกันค่ะ
ซึ่งสร้างความแอบขนลุกให้ดิชั้นด้วยอ้ะค่ะ
กับการที่ผู้คนในเมืองซานฟรานฯ ( คือ เมทริกซ์ ) พร้อมใจกันพุ่งตัวออกจากตึกสูง ร่วงหล่นลงมาราวกับห่าฝน ..!!!
1
อันนี้ขนลุกจริงๆ จังๆ ไม่รู้มีเพื่อนๆ คนไหนมีอาการเดียวกับดิชั้นบ้าง?
อีกอย่างที่ชอบมาก คือ ชื่อร้านกาแฟที่พระเอก & นางเอกพบปะพูดคุยกัน
รวมทั้งเป็นสถานที่สำคัญในการตัดสินชะตาชีวิตของทั้งคู่
รู้มั้ยคะว่า ชื่อร้านนี้คือ 'Simulatte' เก๋ชะมัด ดิชั้นละช้อบชอบบ ... ในความครีเอทชื่อร้าน
2
อย่างไรก็เหอะค่ะ ถึงดูจนจบแล้ว ดิชั้นก็เหลือความคาใจอยู่อย่าง๑
ในซีนที่พระเอกก้าวล้ำจากดาดฟ้า เพราะ 'I believe I can fly' ท่ามกลางผู้คนที่แตกตื่นในบรรยากาศของงานเลี้ยง
และภาพก็ตัดฉับเพียงตรงที่เขาก้าวขาเท่านั้นทุกครั้งไป โดยไม่ยักจะมีเฉลยต่อ รึเป็นเซอร์ไพรซ์เล็กๆ ในตอนใกล้จบเรื่อง ( ตามที่ดิชั้นแอบคาดหวังไว้อยู่คนเดียว แหะๆ )
ทั้งๆ ที่เหตุการณ์นี้ เป็นภาพจำที่สร้างแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ ให้ 'กัปตันสาวเท่ห์ ~ บักซ์' จนชีตื่นและออกมาจากเมทริกซ์
อันนี้ คือ คาใจจริงๆ อ้ะค่ะ อยากรู้ที่มา ~ รวมทั้งที่ไปด้วยง่ะค่ะ 🤗💗⏰
และขอทิ้งท้ายแบบโม้ๆ หน่อยนะคะ
ว่ามีอยู่ซีน๑ ค่ะ ที่ดิชั้นแอบกระหยิ่มในใจ
ว่าไม่มีใครที่ร่วมชม ( รอบนั้นทั้งโรงมีเพียง ๑๐ ชีวิต ) จะเก๊ทในคำของ 'ทิฟฟานี่' เหมือนเช่นดิชั้นแน่นวล
คือ ซีนที่แนะนำตัวกัน แล้วนางเอกบอกว่า ที่ชื่อ 'ทิฟฟานี่' เพราะแม่เธอชอบ 'ออเดรย์ เฮปเบิร์น' ( อดีตนางเอกชื่อดัง ยุค๖๐~๗๐ )
ก็ทั้งโรงมีแต่วัยหนุ่มสาวทั้งนั้นนี่คะ
รึต่อให้คุ้นหูกับซุเปอร์สตาร์ในอดีตท่านนี้ ก็ยากนักที่รู้ได้ว่า ...
คุณออเดรย์ เธอดังอย่างสุดๆ จากเรื่อง 'Brakefast @ Tiffany's' ด้วยชุด 'Little black dress' จนได้เป็น แฟชั่นไอคอน ก็เพราะภาพจำในเรื่องนี้ ที่มีส่วนอย่างมากด้วยน่ะค่ะ
3
และขออีก ๑ ทิ้งท้ายสักนี้สส์นึงอ่ะค่ะ
ตรงที่แฟชั่นแว่นดำ น่าจะกลับมาสร้างความว้าวเล็กๆ ให้แก่บรรดาผู้ชมอีกแล้วสิคะ งิงิ 🧭🎉
หมดเนื้อที่เม้าท์มอยในวันนี้แล้วล่ะค่ะ ทุกๆ ท่าน
c U next time kaaa .. 🥰💗⏰
ปอลูกลิง ; อันนี้จะช่วยให้ผู้อ่อนเยาว์ในโลกของเมทริกซ์ เข้าใจยิ่งขึ้นน่ะค่ะ
🤩🌈👇
โฆษณา