22 ธ.ค. 2021 เวลา 12:00 • คริปโทเคอร์เรนซี
เราเริ่มเห็นกระแสการลาออกของเหล่าผู้บริหาร วิศวะกร โปรแกรมเมอร์ ของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Google, Meta, Amazon เพื่อกระโจนเข้าสู่วงการคริปโต
1
Bigtech companies
.
อย่างกรณีของ Sandy Carter ที่นั่งเป็นประธานของธุรกิจคลาวด์ของ Amazon (Cloud Computing) ก็ขอลาออกเพื่อมาเข้าร่วมกับบริษัทสตาร์ทอัพด้านคริปโตชื่อ Unstoppable Domains แล้วก็ได้โพสต์ Link รับสมัครพนักงานของบริษัทดังกล่าว ปรากฎว่าภายใน 2 วัน มีคนสมัครเข้ามาถึง 350 คน! และส่วนใหญ่เป็นพนักงานของบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ด้วย
2
.
เคสที่สองคือ Brian Roberts ซึ่งเป็น CFO ของ Lyft (สตาร์ทอัพแนว Uber) ที่ออกมาร่วมกับ OpenSea (ตลาดซื้อ-ขาย NFT ที่เราคุ้นเคย) พร้อมกับบอกว่า "ผมเห็นวงจรการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีมามากพอ จนสามารถบอกได้ว่าคริปโตและ NFT คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่" หรือที่เราเรียกกันว่า Paradign Shift นั่นล่ะฮะ
4
Lyft (Ride-Hailing service)
.
เมื่อเดือนที่แล้ว CEO ของ Twitter อย่าง Jack Dorsey เองก็ลาออกจาก Twitter เพื่อที่จะมาโฟกัสกับคริปโต (ล่าสุดก็เพิ่งบอกว่า Bitcoin จะล้ม USD ด้วย 😂) แล้วก็ได้เปลี่ยนชื่อบริษัท "Square" กลายเป็น "Block" เจ้าของ Spiral บริษัทที่ทำ Lightning Development Kit บน Lighning Network
1
Jack Dorsey
.
หรือเคสสุดท้ายอย่าง David Marcus หัวหน้าฝ่ายคริปโตของ Meta ก็ตัดสินใจลาออกจาก Meta เพื่อมาทำโปรเจ็คคริปโตของตัวเอง ตามที่ใจเรียกร้อง ("my entrepreneurial DNA has been nudging me for too many mornings in a row to continue ignoring it")
1
David Marcus's Twitter Thread
.
จะเห็นได้ว่า Talents กำลังไหลมาสู่โลกคริปโต แปลว่าเราจะเห็น Product ใหม่ๆมากมายในอุตสาหกรรมนี้ และคริปโตก็ได้เข้าใกล้คำว่า Mass Adoption ขึ้นเรื่อยๆแล้ว
.
1
โฆษณา