เตรียมเฮแบตเตอรี่จะถูกลง!! CATL พร้อมผลิตแบตจากวัสดุใหม่ รับมือแร่ลิเธียมที่ราคาพุ่ง Sodium Battery
เมื่อ 2-3ปีที่ผ่านมาหลายคนก็จะเห็นว่าความต้องการเรื่องของรถยนต์ไฟฟ้ามีมากขึ้นอย่างก้าวกระโดดเลยทีเดียว
ผลิตมาเท่าไหร่ก็ขายไม่ทัน หลายๆค่ายก็หันมาทำรถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้นอย่างที่เราเห็นในงาน Motor Expo 2021 ที่ผ่านมา
เขาก็มาเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นค่าย BMW Benz
เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าต่างๆ
ซึ่งจากงานวิจัยเขาบอกว่าในปี 2022-2026 จะเป็นปีที่รถยนต์ไฟฟ้าเติบโตแบบก้าวกระโดดเลยก็ว่าได้
ฉะนั้นสิ่งที่มันมีผลกับรถยนต์ไฟฟ้าหลักๆในปัจจุบันก็คือเรื่องของราคา
ซึ่งต้นทุนหลักๆของรถยนต์ไฟฟ้านั่นก็คือตัว แบตเตอรี่
ในปัจจุบันส่วนใหญ่ตัวแบตเตอรี่ในรถยนต์ จะใช้เป็นแบตเตอรี่ ประเภท ลิเทียม
ไม่ว่าจะเป็น ลิเทียม IMC ลิเทียม phosphate
แต่ทรัพยากรหลักที่ใช้ในการทำแบตเตอรี่นั่นก็คือแร่ลิเทียม
ซึ่งก็มีคนตั้งข้อสงสัย และ คาดเดาว่าถ้าในอนาคตตลาดเติบโตมากกว่านี้แร่ลิเทียมมันจะพอไหม
ปัจจุบันแร่ลิเทียมมีการขุดในมูลค่าตลาด อยู่ที่ 1,000 ล้าน USD และมีปริมาณในการขุด 15ล.ลูกบาตรตัน/ปี
และคาดว่าความต้องการแร่ลิเทียมในอนาคตจะเพิ่มอีก 500%
แน่นอนว่าธนาคารกลางของโลก คาดการณ์ว่าไม่เพียงพอแน่นอน
ต่อให้เอาแร่ลิเทียมเก่ามารีไซเคิลเอาจากอุปกรณ์อิเล็กโทรนิค ก็ไม่น่าจะเพียงพอเช่นกัน
ซึ่งอันนี้ก็จะเป็นปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต พอความต้องการมากขึ้นแร่ลิเทียมก็ราคาสูงขึ้นไปอีก
อย่าง Tesla ก็ต้องไปขอสัมปทานถึงหน้าเหมืองกันเลยทีเดียว
เพื่อที่จะผลิตแบตเตอรี่ออกมาจำนวนมหาศาลเพื่อใช้ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า
และด้วยปัญหานี้ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ทางผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ของโลก
ได้เปิดตัวแบตเตอรี่ประเภทใหม่ นั่นก็คือแบตเตอรี่ที่ทำจากเกลือ
หรือ Sodium ion
จริงๆไม่ใช่เรื่องใหม่นะครับ จริงๆแล้วมันเกิดมาพร้อมกับแบตเตอรี่ประเภทลิเทียม
เพียงแต่ว่ามันติดข้อจำกัดบางอย่างทำให้คน
หันไปพัฒนาแบตเตอรี่ลิเทียมกันมากกว่า
ถ้าเทียบกันระหว่าง ลิเทียม กับ Sodium
ยังไงลิเทียมก็ยังนำกว่าในหลายๆด้านอยู่ดีครับ
แต่ทาง CatL ก็มองว่าในอนาคตถ้าคนหันไปใช้ลิเทียมกันมากๆ
ในอนาคตลิเทียมมีโอกาสขาดแคลนแน่ๆ
Catl จึงตัดสินใจที่จะหันไปพัฒนาแบตเตอรี่Sodium ion
ซึ่งทาง CATL ก็ทุ่มเทวิจัย ทั้งเรื่องจุพลังงาน ความเสถียร เขาก็ไปพัฒนาเรื่องของโครงสร้าง
จัดเรียงโครงสร้างวัสดุใหม่ เพื่อให้เก็บพลังงานได้มากขึ้น ส่งไฟได้เร็วขึ้น
มาดูประสิทธิภาพคุณสมบัติของเจ้าตัว Sodium ion กันบ้างนะครับ
Sodium ion energy density อยู่ที่ 160 Wh/kg
ซึ่งในเวอร์ชั่น2 จะเพิ่มจาก 160 เป็น 200
ถ้าชาร์จถึง80% จะใช้เวลาชาร์จอยู่ที่15 นาทีเท่านั้นถือว่าไม่น้อยหน้าลิเทียมเลยทีเดียว
จุดเด่นอันนึงที่เป็นข้อด้อยในลิเทียม แต่ Sodium ion ทำได้ดี
นั่นก็คือการใช้แบตเตอรี่ในอุณหภูมิต่ำ อย่างที่เราเห็นว่าหลายคนเอารถยนต์ไฟฟ้าไปใช้ในอุณหภูมิติดรถก็จะทำให้ระยะทางรถวิ่งได้น้อยลง
แต่ Sodium ion ใช้วิ่งได้ถึงอุณหภูมิ -20องศาเซลเซียสกันเลยทีเดียว
อย่างวิธีการแก้ไขในปัจุบันก็จะใช้ฮีตเตอร์ติดรถยนต์ไฟฟ้า เพื่ออุ่นแบตเตอรี่
ทำให้เปลืองไฟ และกินแบตมากขึ้น นอกจากนี้แบตเตอรี่ Sodium ion ยังสามารถผลิตร่วมกับรายการผลิตร่วมกับแบตเตอรี่ประเภทลิเทียมได้
ส่วนในเรื่องของราคา Sodium ion สู้ราคาลิเทียมได้และถูกกว่าแน่นอนครับ
จากสื่อรายงานของจีนบอกว่า แบตเตอรี่ Sodium ion จะอยู่ที่ 2500บ./kWH
ซึ่งก็ยังถูกกว่าแบตเตอรี่ประเภทลิเทียม ถ้าในอนาคต Sodium ion ผลิตในปริมาณที่มากขึ้นไปอีก
ราคาของแบตเตอรี่ Sodium ion จะลงไปถึง 1000-1500บ./kWH
ถูกกว่าครึ่งจากแบตเตอรี่ลิเทียมเลยทีเดียว ทำให้ลดต้นทุนลงไปได้เยอะ รถยนต์ไฟฟ้าก็จะถูกลงมากขึ้นไปอีก
ก็ต้องมารอลุ้นเรื่องนี้กันนะครับ
ซึ่งในอนาคตทาง CATL ก็จะไม่หยุดอยู่แค่นี้ และจะเอามาผสมกับ Hybrid ด้วยเช่นกัน
จะเอาข้อดีแบตเตอรี่ Sodium ion มาใช้ร่วมกับข้อดีแบตเตอรี่ ลิเทียม
เอามาผสมกัน นับว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ที่น่าตื่นเต้นมากๆเลยทีเดียว
ซึ่งตรงนี้เขาก็จะเอามาพัฒนาและใช้ในอนาคตก็ต้องมารอดูติดตามกันนะครับว่าจะเป็นยังไง
ส่วนแบตเตอรี่ Sodium ion จะเริ่มผลิตจริงจังในปี 2023
ตอนนี้ก็มีการเปิดหาพันธมิตรที่เก่งๆ ไปร่วมพัฒนา ให้ Sodium ionดีขึ้นไปอีก
ในอนาคตแบตเตอรี่ก็น่าจะถูกลง และมีทางเลือกกันมากขึ้น
ก็จะเห็นนะครับว่าวันนี้พอหลายๆค่ายแห่ไปแบตเตอรี่ลิเทียม
ความต้องการมากขึ้น ราคาก็สูงขึ้น
การที่วันนี้ CATL ฉีกตัวเองออกมาแล้วมองขาดว่ายังไงราคาของลิเทียมก็ต้องดีดตัวขึ้นไปอีก ฉะนั้นการที่วันนี้มาสร้างแบตเตอรี่ทางเลือกอย่าง Sodium ion ถือว่าฉลาดและเป็นทางออกที่ดีเลยทีเดียวนะครับ
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
