#เงื่อนไขที่สำคัญในการออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ชดใช้เงินตามมาตรา 12 #ของพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 ประการหนึ่ง คือ การการส่งสำนวนการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดให้กระทรวงการคลังตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม มีข้อยกเว้นการส่งสำนวนการให้กระทวงการคลังตรวจสอบ ตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ที่ไม่ต้องรายงานให้กระทรวงการคลังตรวจสอบ พ.ศ. 2562 ประการหนึ่ง คือ
" ชนใดประพฤติธรรม ในธรรมที่พระพุทธเจ้ากล่าวดีแล้ว ชนเหล่านั้นจักข้ามแดนมฤตยูที่ข้ามได้ยาก" (พุทธภาษิต)
ความเสียหายประเภทที่มีสาเหตุจากการทุจริตและหน่วยงานของรัฐได้พิจารณาให้ผู้ทุจริตรับผิดชดใช้เต็มจำนวนความเสียหาย และพิจารณาให้ผู้เกี่ยวข้องซึ่งกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงจนเป็นโอกาสหรือช่องทางให้เกิดการทุจริตชดใช้ค่าสินไหมทดแทนความเสียหาย
เราลองมาดูตัวอย่างสำนวนการสอบสวนความรับผิดทางละเมิด ที่หน่วยงานเห็นว่าไม่ต้องส่งให้กระทรวงการคลังตรวจสอบเนื่องจากเป็นไปตามข้อยกเว้นในเรื่องการเรียกให้รับผิดเต็มจำนวนในกรณีทุจริต แต่คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะพิเศษ) เห็นว่า ข้อเท็จจริงแบบนี้ ไม่ใช่การเรียกให้ผู้รับผิดหรือผู้เกี่ยวข้อง รับผิดเต็มจำนวน เท่ากับว่า จะต้องส่งสำนวนให้กระทวงการคลังตรวจสอบนั่นเอง
ผู้ที่อยู่ในกระบวการทำสำนวนสอบสวนความผิดทางละเมิด ควรศึกษาไว้เพื่อความรอบคอบในการทำสำนวน และผู้ที่ตกอยู่ภายใต้คำสั่งเรียก ควรศึกษาไว้ เพื่อใช้สิทธิอุทธรณ์โต้แย้งต่อไป
ที่มา : บันทึกสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่อง การส่งสำนวนการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดให้กระทรวงการคลังตรวจสอบ (เรื่องเสร็จที่ 704/2563).
เรียบเรียงโดย เศรษฐวัฒน์ โชควรกุล. 2564.
ผู้เรียบเรียง ผศ.ดร.เศรษฐวัฒน์ โชควรกุล ขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลที่ได้รับจากการเผยแพร่บทความวิชาการทุกบทความอันเป็นวิทยาทานและธรรมทานให้แด่ดวงจิตคุณพ่อศักดา โชควรกุล (บิดาผู้ล่วงลับของผู้เรียบเรียง)
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
