23 ธ.ค. 2021 เวลา 08:47 • การศึกษา
เรื่องเงิน เรื่องทอง ถูกทำให้เรื่องที่ “น่ากลัว”
เมื่อต้อง “คุย” กัน ผ่านสิ่งที่หล่อหลอมเรามาทั้งที่เราได้ยิน และ ที่เราได้เห็น ยกตัวอย่างที่ใครๆ น่าจะคุ้น เช่น
- ชาตินี้คงไม่วาสนาได้รวยอย่างเค้าหรอก
- คนอย่างเรา ... จะมีวันรวยมั้ย?
- พ่อไปทำงาน เพื่อหาเงินมาเลี้ยงพวกแก
1
หลายครั้งที่ ผมมานั่งถามตัวเองว่า เพราะอะไร?
จนกระทั้งเกิดกับตัวเอง แล้วเราก็เอาเรื่องนี้ไปคุยกับคนที่เรารักรอบตัว ก็เจอปัญหาคล้ายๆ กัน ...
ซึ่งสรุปสาเหตุได้ใหญ่ๆ คือ 3 เรื่อง
1.ความคิด VS คำพูด
เชื่อไหมว่า “คำพูด” สะท้อนความคิด ของคนนั้นๆ ออกมา
แล้วยิ่งถ้าเป็นคำพูดของคนที่หาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัวแล้ว
ยิ่งทรงพลังมาก กับคนรอบตัวของเค้า และที่ร้ายกว่านั้นคือ
“คำพูด” นั้นจะการสะกดจิตตัวเค้าเอง โดยไม่รู้ตัว
>> “เรามันคนไม่มีโอกาส” .. ก็จะไม่โอกาสจริงๆ อีกเลย
>> “ไม่มีทางที่เราจะรวยได้” ..​ ก็ไม่มีทางรวยแน่นอน
>> “ไม่มีใครช่วยฉันเลย” .. ฉันต้องแบกคนเดียวต่อไป
ที่ต้องระวังเลยคือ บางครั้งคำพูดเหล่านี้ไม่มีเสียง
แต่พูดซ้ำๆ ในหัวจนเราคิดว่าใช่ โดยไม่ทันได้คิด ..​
“คนหาเลี้ยงครอบครัว” ผมอยากจะบอกว่า “ทุกคน”
สามารถเป็นคนหาเลี้ยงครอบครัวได้นะครับ
และ ไม่จำเป็นต้องมีแค่คนเดียวที่หาเลี้ยงครอบครัว
ดังนั้นอย่ากดดันตัวเองมากไปนะครับว่า
>> ต้องเป็น ฉัน เท่านั้น เพราะฉันเป็น.. พ่อ
>> ต้องเป็นฉันเท่านั้น เพราะฉันเป็น .. พี่
>> เพราะฉันเป็นพี่ ฉันต้องให้มากกว่าคนอื่นๆ
มันไม่จำเป็นเลยครับ และ ย้ำอีกครั้งว่า “ทุกคน”
สามารถเป็นคนหา “เลี้ยงครอบครัว” ได้นะครับ
รากฐานสำคัญคือ “ทุกคน” ต้องหาเลี้ยงและดูแลตัวเองให้ได้ก่อน
เหลือแล้วจึงเอามาช่วยกัน
>> อยู่บ้าน ก็หาเลี้ยงตัวเองได้ ดูแลตัวเองได้
>> ทำงาน ก็หาเลี้ยงและดูแลตัวเองได้
สำคัญคือ อย่ารอ .. เพราะทันทีที่เรารอ
แปลว่า เราไม่ได้ดูแลตัวเองเลย
** เมื่อมีคนรอเพิ่งพิง ก็จะต้องมีคนให้พึ่งพา ..
หากวันใดกลไกนี้ไม่เกิด ก็จะกลายเป็นโดมิโน่
ที่เป็นล้มไปเรื่อยๆ ในครอบครัวของเรา**
2.ความลับไม่ในโลก
เชื่อว่าทุกคนในครอบครัว มีความ “หวังดี” ต่อกัน
แต่จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อต่างคนต่างหวังดี
โดยไม่มีใครรับรู้ในความหวังดี เหตุเพราะเรา ‘ไม่ได้’ พูดหรือเอามาคุยกัน
>> “ฉันกลัวว่าแม่จะคิดมาก หากรู้ว่าฉันกู้เงินมาใช้”
>> “พี่จะคิดยังไง หากฉันซื้อรถใหม่ได้ก่อนพี่”
>> “ลูกจะอยู่ยังไง ถ้าบ้านยังผ่อนไม่หมด”
อย่าให้ความหวังดี กลายเป็นเป็น ระเบิดเวลา
ที่รอคอยวันใดวันหนึ่งระเบิดขึ้นมา
แล้วทุกคนก็มาโทษใส่กัน ความหวังดีที่เราเก็บมาตลอด มันจะกลับกลายเป็นไร้ค่าเลยนะครับ
** ความลับไม่มีในโลกนะครับ ยิ่งความลับเรื่องเงิน มันเดินอยู่ทุกวัน ถ้าเราไม่บอกใครเลย
วันนึงมันก็จะบอกทุกคนให้เราเอง
.. แต่เราจะรอให้ถึงวันนั้นจริงๆ หรอครับ **
3.ความกล้าที่จะเปิดใจคุยกัน เริ่มต้นที่ “คำถาม”
บางคนให้ความสำคัญกับเรื่องเงินเรื่องทองนะครับ
และรู้ว่าเป็นเรื่องที่ต้องคุยร่วมกัน
แต่มันยากจังที่จะต้องมาคุยเรื่องนี้ ..
ทำไมต้องเป็นฉัน?
1
ถามกลับ .. ถ้าไม่เป็นเธอแล้วจะเป็นใคร?
สุดท้ายก็ต้องเป็นคุณอยู่ดีหละครับ
แล้วทำไมไม่ลองดูเลยหละครับ
เริ่มยังไง?? เริ่มยังงี้ครับ
1. ก่อนอื่นต้องเปิดใจ และ บอกตัวเองก่อนว่า
“ฉันไม่ได้มาแก้ปัญหา” แต่ “ฉันอยากเห็นความสุขในครอบครัวของฉัน”
การเปลี่ยนจุด Focus นิดเดียว จะทำให้เราเห็นปลายทางอีกมากมายเลยครับ จากหลายๆ อย่างที่เคยเป็นทางตัน .. หากเปลี่ยนจุด Focus จะเจอทางออกครับ
เหมือนกับเรื่องนี้คือ หากเรามองว่าจะแก้ปัญหาๆ ก็จะเจอแต่ปัญหา
แต่หากมองว่าอยากเห็นความสุขกลับคืนมา เราจะเห็นทางออกอีกมากมายเลยครับ
2. อย่าเพิ่งหาคำตอบ แต่เริ่มจาก .. “คำถาม”
>> “เราขายบ้านดีไหม” เปลี่ยนเป็น “เพราะอะไรพ่อถึงซื้อบ้านหลังนี้”
>> “ขอหักเงินแม่เพื่อเป็นค่ารักษานะ” เปลี่ยนเป็น “แม่คิดยังไง เรื่องค่ารักษาพยาบาล”
>> “จะซื้อรถนะ ทุกคนจะได้ใช้ด้วยกัน” เปลี่ยนเป็น “ถ้าจะมีรถสักคน จำเป็นไหม”
จะเห็นว่าคำถามเพื่อถามหาความสุขจากคนในบ้านจะเกิดขึ้นได้ในทันที
หากเราเริ่มจากคำตอบที่เราอยากได้
สุดท้าย ก็จะเป็นเราคนเดียว ที่อยากได้
แต่หากถอยกลับมา เริ่มจากคำถามที่ Focus
เรื่องความสุขของคนในครอบครัว ‘ก่อน’
และ มาจากจิตใจที่ถามด้วยความหวังดีอย่างแท้จริง ...​ ทุกอย่างจะดีขึ้นครับ
วันนี้ผมอยากให้เกิด New Normal
ของการคุยเรื่องเงินกันในบ้านได้ไหมครับ
- จะดีไหม .. หากตื่นมาแล้วแม่ถามว่า “มีเงิน 1,000 กลางวันอยากกินอะไรดี”
- จะดีไหม .. หากพ่ออยากจะซื้อบ้าน แล้วถามว่า “พ่ออยากซื้อเก็บไว้ให้ พวกเธอคิดเห็นอย่างไร”
- จะดีไหม .. หากน้องจะกู้เงินมาลงทุน แล้วพี่ช่วยแนะนำน้องเรื่องกู้เงิน
อยากเห็นการคุยเรื่องเงินทองเป็นเรื่องปกติในบ้าน
และสร้างให้เป็นเรื่องที่ต้องคุยใน “ทุกๆ วัน”
ความสุขของคนครอบครัว ไม่ได้เกิดจากการมีเงินทองมากมายหรอกครับ แต่มันเกิดจากการที่ต่างคนต่างรู้
เห็นความเป็นไปของเงิน แล้วช่วยกันแก้ไปพร้อมๆ กัน
#gapper3M
จะเล่าทุกเรื่องที่ "ช่วย" ให้ชีวิตดีขึ้น
3M = Mind x Money x Marketing
ติดตาม/สนับสนุน gapper3M ได้ที่
#gapper3M
โฆษณา