24 ธ.ค. 2021 เวลา 02:00 • กีฬา
" แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แรกของพรีเมียร์ ลีก "
ฤดูกาล 1992/93 ปีแรกที่ลีกสูงสุดอังกฤษรีฟอร์ม มาเป็น พรีเมียร์ ลีก
20 สโมสรที่ได้เล่นลีกสูงสุด ขอแยกตัวออกมาจาก ฟุตบอลลีก เพื่อบริหารงานกันเองในนามอิงลิช พรีเมียร์ชิพ พร้อมกับโปรโมตว่า "A Whole New Ballgame" หรือกำลังจะบอกว่านี่คือการแข่งขันโฉมใหม่อย่างแท้จริง
ฟุตบอลลีก ยังคงรักษา ดิวิชั่น 1, ดิวิชั่น 2 และดิวิชั่น 3 ของพวกเขาเอาไว้ แต่โดนลดชั้นเป็นลีกรองลงไปแล้ว
ในช่วงนั้น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังเป็นทีมระดับโอเคของลีกสูงสุด แม้จะยากในการลุ้นแชมป์แต่ก็ไม่ได้มีผลงานน่าเกลียดเลย ภายใต้การคุมทีมของ ปีเตอร์ รีด ที่รับบททั้งนักเตะและกุนซือ
1
ด้าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็กำลังทำภารกิจไล่ล่าแชมป์ลีกสมัยแรกตั้งแต่ปี 1967
แม้ภาพรวมเวลานั้น แมนฯ ยูไนเต็ด จะเป็นทีมที่ดูเหนือกว่า แต่การเจอกันเองระหว่างสีแดงและฟ้าของเมืองแมนเชสเตอร์ ก็ไม่เคยเป็นเกมที่ง่ายเลยสำหรับ ยูไนเต็ด
1
สถิติโดนรวม แมนฯ ซิตี้ ไม่ค่อยชนะก็จริง แต่เกมไม่เคยขาดลอย สำหรับยูไนเต็ด แถมในปี 1989 ซิตี้ เคยถล่ม ปีศาจแดงถึง 5-1 จนทำให้ เฟอร์กี้ นอนแทบไม่หลับมาแล้ว
สกอร์ส่วนใหญ่มักออกเบียด 1-1, 3-3, 2-1, 1-0 มีให้เห็นเป็นประจำ
ดังนั้น แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ครั้งแรกของพรีเมียร์ ลีก จึงน่าสนใจมากในตอนนั้น
มันเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 1992 ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ซึ่งในตอนนั้นยังเป็นสนามที่มีความจุเพียง 35,000 กว่าที่นั่ง
ปี 1992/93 แมนฯ ยูไนเต็ด ของเฟอร์กี้ เอาจริงเอาจังมากที่จะคว้าแชมป์ลีก เพราะปีก่อนหน้า ปีสุดท้ายที่ยังใช้ชื่อ ดิวิชั่น 1 พวกเขาเสียท่า พลาดแชมป์ให้กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ในบั้นปลาย
เปิดซีซั่นมา เฟอรี์กี้ ทำทีมแพ้ 2 นัดรวด นัดที่ 3 เสมอ ความหวังแทบพังตั้งแต่แรก จากนั้นฮึดชนะ 5 เกมรวด แต่ก็เสมออีก 5 เกมรวดต่อด้วยแพ้อีก 2 นัดติด เท่ากับว่าผลงานไม่เหมาะกับคำว่าลุ้นแชมป์เลย
ส่วนหนึ่งของปัญหาคือกองหน้า ตอนหน้าร้อน เฟอร์กี้ เซ็นเอา ดิออน ดับลิน เข้ามา และเขาก็ทำประตูชัยให้ทีมคว้า 3 แต้มแรกของซีซั่นในเกมชนะเซาธ์แฮมป์ตัน 1-0 แต่จากนั้นอีก 2 นัดในเกมชนะพาเลซ เขาโดนเอริค ยัง เข้าสกัดจนเจ็บพักยาวครึ่งปี
นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ ยูไนเต็ดฝืดมากๆ เพราะมีแค่ ไบรอัน แม็คแคลร์ กับ มาร์ค ฮิวจ์ส ที่พอหวังได้แค่ 2 คน
ในที่สุด จุดเปลี่ยนก็มาถึงเมื่อพวกเขาเซ็นเอา เอริค คันโตน่า มาจากลีดส์ คู่ปรับและอริตัวฉกาจอย่างที่รู้กันว่าเป็นหนึ่งในดีลประวัติศาสตร์
ตอนนั้นเองที่โปรแกรม แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ มาถึง ก็องโต้ เพิ่งเซ็นมาได้แค่ 9 วัน
เฟอร์กี้ ให้ คันโตน่า เป็นสำรองก่อนในนัดนี้ และนั่นคือครั้งแรกที่เขามีชื่อใน Squad วันแข่ง
คู่หอกตัวจริงเป็น แม็คแคลร์ กับ ฮิวจ์ส ส่วนที่เหลือมี ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล เฝ้าเสา แนวรับ พอล ปาร์กเกอร์, แกรี่ พัลลิสเตอร์, สตีฟ บรูซ และ เดนิส เออร์วิน
แดนกลางมี พอล อินซ์, ไบรอัน ร็อบสัน, ไรอัน กิ๊กส์ และ ลี ชาร์ป
ขณะที่ผู้มาเยือนใช้ 3 กองหน้าเป็น เดวิด ไวท์ กับ ไมค์ เชร่อน ขนาบข้าง หน้าเป้าร่างโย่ง ไนออลล์ ควินน์
นายทวารคือ โทนี่ โคตัน ที่ภายหลังย้ายมาเป็นมือสำรองที่ แมนฯ ยูไนเต็ด และเป็นโค้ชนายทวารให้ยูไนเต็ดอยู่หลายปี
แนวรับมี เทอร์รี่ ฟีแลน, เอียน ไบรท์เวลล์, คีธ เคิร์ล, แอนดี้ ฮิลล์
ตรงกลางได้จอมเก๋า สตีฟ แม็คมาน ที่เคยประสบความสำเร็จกับลิเวอร์พูล, ฟิตซ์รอย ซิมพ์สัน และ ริค โฮลเด้น
เริ่มต้นเกมความสูงใหญ่ และเล่นลูกกลางอากาศได้ดีของ ไนออลล์ ควินน์ สร้างปัญหาให้แนวรับเจ้าบ้านได้ แต่แล้วในนาทีที่ 20 เป็นเจ้าบ้านที่ออกนำก่อน
สตีฟ บรูซ ได้ชื่อว่ากองหลังที่ขึ้นมาทำประตูสำคัญๆ ได้บ่อย เขาอันตรายยามเล่นลูกตั้งเตะ ช็อตนี้เองเขาขึ้นมาเมื่อทีมได้ฟรีคิก สอดเข้าเขตโทษไปขอบอลจาก มาร์ค ฮิวจ์ส ก่อนไหลคืนมาหน้าเขตโทษ พอล อินซ์ วิ่งมากดด้วยซ้ายจาก 20 หลาเข้าประตูไป 1-0
1
เกมเข้าสู่ครึ่งหลัง ช่วงพักเบรกเฟอร์กี้ จัดการเปลี่ยนเอา เอริค คันโตน่า ลงมาแทน ไรอัน กิ๊กส์ พร้อมกับถอย ไบรอัน แม็คแคลร์ ไปยืนกลาง และนั่นคือการลงสนามให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมเป็นทางการนัดแรกของ "เดอะ คิง"
ในนาทีที่ 73 คันโตน่า ก็มีเพลย์ที่ทำให้ทีมได้ประตู เมื่อ มาร์ค ฮิวจ์ส กระดกบอลไปให้เขา ที่กำลังจะสอดเข้าเขตโทษ กองหลัง ซิตี้ โขกสกัดออกมา แต่เป็น มาร์ค ฮิวจ์ส ที่อ่านจังหวะ วิ่งมาพักอก บอลกระดอนพื้นหนึ่งจังหวะ แล้ววอลเล่ย์ด้วยซ้ายเข้าไปอย่างงดงาม 2-0
แม้จะนำห่าง 2-0 เวลาเหลือไม่เยอะ และนักเตะเจ้าถิ่นกำลังฉลองกันหมาดๆ แต่บอกแล้วว่าแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ไม่เคยง่ายสำหรับ ยูไนเต็ด แม้ในยุคที่พวกเขาเหนือกว่าก็ตาม
เพราะในการเขี่ยบอลใหม่ของ ซิตี้ พวกเขาใช้เวลาแค่ 20 วินาที เอาประตูตีตื้นไล่ขึ้นมาเป็น 1-2 ได้ทันควัน
ริค โฮลเด้น ได้บอลทางซ้ายแล้วกระชากไปครอสจากริมเส้นเข้ามาหน้าปากประตู ไนออลล์ ควินน์ ลอยตัวมาโขก บอลโดนหลังของ บรูซ แต่ยังไม่ไปไหน ควินน์ ปรี่เข้าไปซ้ำตัดหน้าปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ตุงตาข่าย แต่ก็ทำได้เพียงแค่นั้น
แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ครั้งแรกในยุคพรีเมียร์ ลีก จบลงด้วยชัยชนะของ ยูไนเต็ด ด้วยสกอร์ 2-1
มันเป็นเกมแรกที่ คันโตน่า ลงเล่นในเกมทางการให้ยูไนเต็ด ด้วย
นับตั้งแต่ที่ คันโตน่า ถูกเซ็นเข้ามา แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้แค่นัดเดียว (1-2 ต่ออิปสวิช) จาก 16 นัด และเป็นชัยชนะถึง 12 นัด
1
เฟอร์กี้ พาทีมจากอันดับ 8 มาอยู่อันดับ 1 หลังจากเอาชนะลิเวอร์พูล 2-1 เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 1993
จากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด มีช่วงสะดุด แพ้โอลด์แฮม 0-1, เสมอ วิลล่า 1- ก่อนไปเยือน ซิตี้ ที่เมน โร้ด
หนนี้ ไนออลล์ ควินน์ ทำประตูให้ ซิตี้ ออกนำ แต่เป็น คันโตน่า ที่ตีเสมอให้ ยูไนเต็ด จบเกมที่ 1-1
ปีศาจแดง เสมออาร์เซน่อล 0-0 ต่ออีกนัด ทำให้พวกเขาร่วงมาอยู่ที่ 3 ของตารางคะแนน
ทว่าเมื่อเดือนเมษายนมาถึง ทีมของเฟอร์กี้ ก็กลับมาติดเครื่องอีกรอบ
พวกเขาบุกไปชนะนอริช ทีมลุ้นแชมป์ด้วยกัน 3-1 แล้วตามด้วยเกมสุดสำคัญที่เป็นจุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์ ในการทำคนเดียว 2 ประตูของ สตีฟ บรูซ ให้ทีมเฉือน เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ 2-1 และทะยานขึ้นนำจ่าฝูงอีกครั้ง
จากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่แผ่วอีกเลย พวกเขาคว้าชัยรวด 5 นัดสุดท้ายของฤดูกาล และเข้าป้ายเป็นแชมป์พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลแรกได้สำเร็จ
1
และมันคือแชมป์ลีกสูงสุดที่แฟนผีรอคอยมานานถึง 26 ปีด้วย
ส่วนแมนฯ ซิตี้ ปีนั้นพวกเขาจบอันดับ 9 ของตารางคะแนน ผลงานของพวกเขาเริ่มดาวน์ลงเรื่อยๆ ต่อจากนั้้น และตกชั้นไปในปี 1996
แมนฯ ซิตี้ คงสภาพเป็นทีมโยโย่ ที่เลื่อนขึ้นเลื่อนลงลีกต่างๆ อยู่นาน เคยกระทั่งตกไปอยู่ดิวิชั่น 2 (หรือ ลีก วัน ในทุกวันนี้)
กระทั่งปี 2002/03 พวกเขาก็กลับสู่พรีเมียร์ ลีก ได้สำเร็จและกัดฟันอยู่รอดได้เรื่อยมาจนมาถึงยุคเปลี่ยนผ่านที่นายทุนนอกประเทศเข้ามาเทคโอเวอร์ยาวมาจนทุกวันนี้ เปลี่ยนแปลงสภาพจากทีมเกรดรองของอังกฤษมานานหลายปี สู่มหาอำนาจที่คว้าแชมป์ในประเทศเป็นว่าเล่น
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา