23 ธ.ค. 2021 เวลา 13:56 • ความคิดเห็น
มีสามเรื่องค่ะ
1. ลูกคือของขวัญของชีวิต
วัยทำงาน..มุมานะ ขยันทำงานสร้างตัว ทำงานเต็มที่ 7/7 วัน บวกรับงานพิเศษเพิ่มทั้งคู่ แทบไม่มีวันหยุดเลย
หลังแต่งงานมีลูกยาก..พยายามมีลูก จากการไปพบอาจารย์แพทย์หลายต่อหลายโรงพยาบาล มีคำพูดอาจารย์ท่านหนึ่งโดนใจมาก ๆ ว่า ไม่มีเวลาหยุดงานเลย..แล้วจะเอาเวลาที่ไหนมาเลี้ยงลูก
จึงปรับชีวิต ออกกำลังกาย ว่ายน้ำและเมื่อมีลูกแล้ว เลี้ยงนมแม่เองตลอดปีแรก
ในวัยเด็กเล็กเลี้ยงและรับส่งไปโรงเรียน ได้ดูพัฒนาการของลูก ได้เล่นเกม เล่นกีฬาด้วยกัน เป็นเพื่อนเล่นมาจนลูกเริ่มวัยรุ่น..จึงถึงจุดเปลี่ยนในข้อสอง
2. ลมเปลี่ยนทิศชีวิตผกผัน
ได้ทุนไปเรียน/ทำงานวิจัยต่างประเทศ ต้องเดินทางไปไหนมาไหนเองคนเดียว ทั้งที่ไม่เคยไปไหนเลยตลอดชีวิต อยู่แบบผู้หญิงทำงานบวกแม่บ้าน คิดดูค่ะ.. ขนาดเส้นทางที่ขับรถยังรู้จักเส้นเดียว บ้าน-ที่ทำงาน ซึ่งมันคือระยะทางแค่1-2 กิโลเมตรเท่านั้น!
*ตัองตัดสินใจว่า จะเปลี่ยนชีวิตหรือไม่ ณ ขณะนั้นต้องชั่งน้ำหนักมากๆ ว่า
- เราต้องห่างลูก
- เราต้องเป็นนักวิชาการ
- ถามลูกเรื่องนี้ ลูกตอบคำเดียวหนักแน่นว่า “แม่เหมาะสมที่จะทำงานนี้”..พลังใจมาเกินร้อยค่ะ..
1
โดยที่ไม่รู้เลยว่า เรากำลังก้าวไปเผชิญกับ…ต่อข้อสามค่ะ
3. ความล้มเหลวคือครูและจุดเปลี่ยนที่แท้จริง
ไปเรียนต่อ..ประสบปัญหาหลายอย่าง เผชิญมรสุมชีวิตและสึนามิที่แรงสุดครั้งหนึ่งของโลก
ทำไงล่ะ
ล้มแล้วก็ลุกขึ้นมาใหม่
เขียนหนังสือชีวิตบทใหม่ ติดต่อที่เรียนใหม่ ขอทุนใหม่ เดินทางไปใหม่..ทุกอย่างเริ่มต้นกันใหม่
ในที่สุดก้าวข้ามความล้มเหลวด้วยตัวเองค่ะ จึงคิดว่า
“ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ที่ใจ”
1
ล้มเหลวได้แต่ต้องลุกได้
ทำใหม่กี่ครั้งกี่หนก็ได้
ถ้ามีพลังใจและมีคนของชีวิตคอยค้ำจุน เกื้อหนุนและเป็นแรงใจ
สู้ ๆ กันนะคะ
โฆษณา