24 ธ.ค. 2021 เวลา 04:42 • ข่าว
มณฑลจี๋หลินในจีนผุดนโยบายให้กู้ 1 ล้านบาทเพื่อการเลี้ยงดูลูก หวังแก้ปัญหาขาดแคลนประชากร
ทีมา: Pexels.com
ปัจจุบันในหลายๆ ประเทศ​ประสบปัญหา​อัตราการเกิดอยู่ในเกณฑ์​ที่ต่ำมาก และโลกกำลังจะย่างเข้าไปสู่สังคมผู้สูงอายุ
ในมณฑลจี๋หลินของจีนได้มีการเสนอเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้กับคู่สามีภรรยาเพื่อการเลี้ยงดูลูก โดยให้วงเงินอยู่ที่ 200,000 หยวนหรือราวๆ 1 ล้านบาท นอกจากนี้ หากคู่สามีภรรยาที่มีลูก 2-3 คนเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กคล้ายๆ SMEs บ้านเรา ก็จะได้รับการยกเว้นภาษีอากรต่างๆ อีกด้วย
เหตุผลที่จี๋หลินต้องออกนโยบายนี้เนื่องมาจากว่าจำนวนประชากรของจี๋หลินลดลง 12.7% เมื่อเทียบกับ 10 ปีที่แล้ว บวกกับนโยบายหลักของรัฐบาลกลางของจีนที่สนับสนุนให้ประชากรมีลูกเพิ่มมากขึ้น
สำหรับจีนแล้ว การลดลงของประชากรคือเรื่องใหญ่มากเพราะจีนคือศูนย์​กลางการผลิตของโลก เมื่ออัตราการเกิดลดลง นั่นหมายความถึงการขาดแคลนแรงงานที่จะเกิดในอนาคตอย่างแน่นอน
นอกจากการสนับสนุนด้านเงินกู้แล้ว จี๋หลินยังขยายระยะเวลาการลาคลอดของคุณแม่จากเดิม 95 วันให้เป็น 180 วัน และของคุณพ่อจาก 15 เป็น 25 วัน เรียกได้ว่าสนับสนุนกันอย่างเต็มที่
ในช่วงประมาณเดือนกรกฎา​คมที่ผ่านมา รัฐบาลกลางของจีนออกนโยบาลลดหย่อยภาษีให้กับครอบครัวที่มีลูกอายุต่ำกว่า 3 ปี อีกทั้งยังพยายามปรับเปลี่ยนนโยบายที่อนุญาต​ให้มีลูกแค่ 1 คนในอดีตมาเป็นสนับสนุนให้มีลูก 3 คน ยกตัวอย่างเช่นครอบครัวใดที่มีลูก 3 คนจะไม่ต้องเสียค่าปรับหรือได้รับการยกเว้นโทษที่ได้รับจากการทำงาน ได้เช่าแฟลตของรัฐบาลในราคาถูก หรือผ่อนปรนกฎที่เกี่ยวข้องกับทะเบียนบ้าน เป็นต้น
ดังนั้นในมณฑลต่างๆ ของจีนก็เริ่มออกนโยบายเสริมเพื่อขานรับนโยบายจากส่วนกลาง นอกจากจี๋หลินที่ให้เงินกู้แล้ว เมืองเหลียนเจียง ในมณฑลกวางตุ้งมีนโยบายให้เงินสนับสนุนรายเดือนอยู่ที่ราวๆ 16,000 บาท สำหรับคู่สามีภรรยาที่มีลูกที่เกิดหลังวันที่ 1 กันยายน และจะได้รับเงินสนับสนุนนี้ไปจนถึงอายุ 2 ขวบครึ่ง (ซึ่งคิดเป็นยอดรวมอยู่ที่ 480,000 บาทต่อเด็ก 1 คน!!) อ่านถึงตรงนี้เราอาจจะคิดว่า โอโห เมืองนี้เอางบประมาณมาจากไหน
คำตอบคือเงินบริจาคจากคนรวยในเมืองค่ะ
นอกจากนี้ในเมืองอื่นๆ เช่น ส่วนเขตหลินเจ๋อในมณฑลกานซูให้เงินสนับสนุนเพื่อที่อยู่อาศัยราวๆ 198,400 บาทให้กับคู่สามีภรรยาที่มีลูก 2-3 คน และมีแผนการที่จะให้เงินสนับสนุนประมาณ 48,000 บาทต่อปี เมืองพันจือหัว มณฑลเสฉวนก็มีนโยบายแจกเงินประมาณ 2500 บาทต่อเดือนให้กับครอบครัวที่มีลูก 2-3 คน
อ่านถึงตรงนี้แล้ว บางคนอาจจะอยากย้ายไปอยู่เมืองจีนรึเปล่าคะ 🤔
เสียงของคนจีนหลังจากการออกนโยบายสนับสนุนให้มีลูก 3 คน
ถึงแม้ว่าจะมีนโยบายต่างๆ ออกมาเพื่อสนับสนุนการมีลูก แต่พ่อแม่ส่วนใหญ่ก็ยังลังเลเพราะ
สถานการณ์​โควิดในปัจจุบั​นบวกกับค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูมันโหดจริงๆ ถึงแม้จะมีนโยบายออกมา แต่การเลี้ยงลูก 3 คนก็ไม่ใช่เรื่องง่าย และที่สำคัญคือค่าใช้จ่ายยังค่อนข้างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองใหญ่
ที่มา Pixabay
เค้าเคยว่ากันว่ามีลูก 1 คนจนไป 7 ปี ตอนนี้ถ้าบวกเงินเฟ้อไปด้วย อาจจะจนไปซัก 10 ปีไปเลยค่ะ
ส่วนเมืองเล็กๆ หรือในชนบท คนจีนก็ไม่ได้อยากจะมีลูกเพิ่มมากขึ้น ถึงแม้ว่าค่าใช้จ่ายของการเลี้ยงดูเด็ก 1 คนจะน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับการอยู่ในเมือง แต่การเลี้ยงดูเด็กของพ่อแม่ที่อยู่ในเมืองเล็กๆ ก็ยังได้รับแรงกดดันทั้งทางด้านที่อยู่อาศัย คุณภาพการศึกษา และการสาธารณสุข​อยู่ดี
นอกจากนี้ ค่านิยมของจีนที่อยากได้ลูกชาย กลับมาทำร้ายจีนอย่างหนักเนื่องจากความไม่สมดุลระหว่างเพศชายและเพศหญิง โดยที่มีประชากรชายอยู่ราวๆ 723 ล้านคน แต่มีประชากรหญิงเพียง 688 ล้านคน (ต่างกันราวๆ 35 ล้านคน)​ ในปี 2020
เปรียบเทียบประชากรเพศชายและหญิงในประเทศจีน ค.ศ. 2012 - 2020 ที่มา Statista
อีกทั้งสิทธิ​ของผู้หญิงในจีนเริ่มมีความสำคัญ แนวคิดเดิมเกี่ยวกับหน้าที่การดูแลลูกเปลี่ยนไป ผู้หญิงออกมาทำงานบ้านนอกมากขึ้น ดังนั้นการมีลูกทำให้ผู้หญิงต้องเสียสละความเจริญเติบโตในหน้าที่การงาน ซึ่งผู้หญิงยุคใหม่ในจีนหลายๆ คนก็ไม่ไ​ด้ต้องการแบบนั้น
ไหนๆ ก็เล่าเรื่องเมืองจีนแล้ว แอดก็เลยอยากรู้ต่อว่าแล้วในโลกล่ะ เป็นยังไงกันบ้าง
อัตราการเกิดและอัตราการเจริญพันธุ์​ทั่วโลก
อัตราการเกิดเฉลี่ยทั่วโลกในปัจจุบันอยู่ที่ 18.5 คนต่อประชากรโลก 1,000 คน ซึ่งเมื่อดูจากสถิติตั้งแต่ปี 1990 แล้ว กราฟค่อยๆ ไต่ลงจาก 26 มาที่ 18 ในเวลาเพียง 30 ปีเท่านั้นค่ะ
และแนวโน้มของกราฟ ก็จะไต่ลงไปเรื่อยๆ
อัตราการเกิดเฉลี่ยของประชากรทั่วโลก ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 - 2021 ที่มา United Natiins - World Populatiin Prospects
หากมองในแง่อัตราการเจริญพันธุ์​ (Fertility rate) หรือว่ากันง่ายๆ คือจำนวนเฉลี่ยที่ผู้หญิงแต่ละคนผลิตลูก ซึ่งตัวเลขที่พอเหมาะคือ 2.3 เพราะพ่อแม่สองคน ผลิตลูกมาแทนที่ตัวเอง 2 คน
ดังนั้นแปลว่าถ้าตัวเลขอัตราการเจริญพันธุ์​น้อยกว่า 2 นั่นหมายความว่าประชากรในประเทศนั้นๆ กำลังลดลงค่ะ
โดยภาพรวม ถึงแม้ประเทศในทวีปแอฟริกา อัตราการเจริญพันธุ์​อยู่ที่ 4.7 แต่ในประเทศในเอเชียอย่างจีน อัตราการเจริญพันธุ์​อยู่ที่ 1.7 ส่วนเกาหลีอยู่ที่ 1.0 สิงคโปร์​และฮ่องกงอยู่ที่ 1.1 ในยุโรปยิ่งแล้วใหญ่ เพราะไม่มีประเทศไหนเลยที่มีตัวเลขเกิน 2.0 ประเทศอย่างอเมริกา อัตราการเกิดมีเพียง 1.7
ส่วนเมืองไทยเรา อยู่ที่ 1.5 เท่านั้นค่ะ
อัตราการเจริญพันธุ์ทั่วโลกปี ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564)
ทำไมต้องกังวลเกี่ยวกับตัวเลขประชากรที่ลดลง
โครงสร้างประชากรมนุษย์​ จะแบ่งออกเป็น 3 ช่วงคือ ช่วงวัยเด็ก ช่วงวัยหนุ่มสาวหรือช่วงวัยทำงาน และช่วงวัยชรา​ เมื่อวัยทำงานมีจำนวนที่มาก ประเทศก็จะสามารถพัฒนาไปได้เพราะมีแรงงาน มีคนทำงานเสียภาษี กลับกันหากประเทศที่มีประชากรช่วงวัยชรามาก รัฐบาลก็จะต้องเสียงบประมาณด้านการสาธารณสุขเป็นจำนวนมาก และต่อไปในอนาคตหากโลกมีอัตราการเกิดต่ำลงไปเรื่อยๆ รุ่นลูกรุ่นหลานเราที่เมื่อกลายเป็นประชากรวัยแรงงานแล้วจะต้องรับภาระหนักมาก เพราะวัยทำงานอย่างเราในปัจจุบันจะกลายเป็นวัยชรา และจะทำให้ประชากรวัยชรามีมากกว่าวัยแรงงาน หรือเรียกว่าเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุนั่นเองค่ะ
ก็อย่างว่า ในมุมมองของแม่คนนึงนะคะ ถ้าแอดยังไม่มีลูกตอนนี้ก็คงจะคิดหนังมากว่าจะให้เค้าเกิดมาดีรึเปล่า ไหนจะโควิดเอย PM 2.5 เอย โลกร้อนเอย มลภาวะเอย รุ่นลูกคงจะต้องมาตามแก้ตามรับผลจากที่รุ่นเราทำไว้ แอดสงสารเค้าค่ะ
โฆษณา