24 ธ.ค. 2021 เวลา 16:00 • ดนตรี เพลง
เล่าเรื่องเพลง 'All I Want For Christmas Is You - Mariah Carey' นี่แหละ เพลงคริสต์มาสแห่งชาติที่ดีที่สุด
ที่มาภาพ: www.billboard.com
27 ปี All I Want For Christmas Is You นี่แหละ เพลงคริสต์มาสแห่งชาติที่ดีที่สุด
เมื่อถึงช่วงปลายเดือนธันวาคม เทศกาลแห่งความสุขที่รอคอยก็มาถึง เทศกาลคริสต์มาสและส่งท้ายปีเก่า เป็นช่วงเวลาที่ตั้งตารอคอยพอสมควร ไม่รู้เหมือนกันว่าแอดมินเป็นเหมือนกันหรือเปล่าเพราะว่ามันตื่นเต้นยิ่งกว่าไหนๆ ขอขวัญ คำอวยพร ความสุข ความปราถนาดี มีครบ อีกอย่างหนึ่งคือบทเพลงที่สื่อถึงเทศกาลนั้นที่ถ่ายทอดความปราถนาดีต่อกัน ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสในทุกวันที่ 25 ธันวาคม ของทุกปี
ก่อนอื่นต้องย้อนอดีตถึงเพลงคริสต์มาสแบบพอสังเขป เพลงแนวนี้เป็นเพลงที่บ่งบอกเลยว่า เนื้อหาจะเกี่ยวกับคริสต์มาสทั้งสิ้น ในอดีตเพลงแนวนี้มีพิ้นฐานมาจากเพลงศาสนา สืบเนื่องมาจากวันนั้นเป็นประสูติของพระเยซู พระศาสดาของศาสนาคริสต์ เพลงในยุคแรกเริ่มก็คือออกแนวเพลงประสานเสียง เนื้อหาก็เพื่อสรรเสริญพระเจ้า และก็เล่าเรื่องเกี่ยวกับวันคริสต์มาสไปด้วย ฟังแล้วเหมือนเป็นเพลงสวดมนต์ไปในตัว ถ้าเปรียบกับศาสนาพุทธบ้านเราก็เป็นแบบสวดมนต์ทำนองสรภัญญะ เนื้อหาเพื่อบูชาพระรัตนไตร เป็นต้น
ที่มาภาพ: https://unsplash.com/ โดย Robert Linder
ต่อมาเพลงแนวคริสต์มาสก็มีวิวัฒนาการเพิ่มขึ้นตามยุคสมัย ถ้าเรียงจากไทม์ไลน์ ยุคแรกๆก็จะเป็นเพลง Joy To The World, Silent Night ต่อมาก็มีเพลง Jingle Bell ที่เป็นมรดกของเพลงประจำเทศกาลไปแล้ว รวมไปถึงเพลง We Wish You A Merry Christmas ยุคต่อมาเป็นยุคทองของแนวเพลงสากลที่มีความหลากหลายมากขึ้น และยังคงมีอยู่จนถึงปัจจุบันอย่าง Jingle Bell Rock, White Christmas, Last Christmas, และเพลงที่กำลังจะกล่าวในบทความนี้ถือว่าเป็นบทเพลงคริสต์มาสอีกหนึ่งเพลงที่ในอีกสิบปี เราควรได้รับการขึ้นเป็นมรดกของเพลงเทศกาลต่อจาก "Jingle Bell" ไปเลย เพราะไม่คิดไม่ฝันว่าเพลงนี้ เป็นเพลงที่ไพเราะที่สุดถึงขั้นเรียกว่าเพลงขวัญใจประชาชนในเทศกาลนี้ไปเลย
นี่คือเพลง "All I Want for Christmas Is You" ของศิลปินสาวชื่อดังนามว่า "Mariah Carey" เพลงนี้จัดอยู่ในอัลบั้มชุดที่ 5 “Merry Christmas” ตัวเพลงวางแผงเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 1994 โปรดิวเซอร์ของเพลงนี้คือ Walter Afanasieff นักทำเพลงคู่บุญของมารายห์ ซึ่งเพลงนี้เป็นเพลงที่ทำคู่แต่งเพลงเอง ทำดนตรีเอง โดยใช้เวลาเพียง 15 นาที ในการพรรณาถึงเนื้อหาที่พูดถึงคนที่ไม่ต้องการจะขอพรจากพระเจ้า หรือขอของขวัญอะไรก็ได้จากคุณซานตา เพียงขอแค่มีคนที่เรารัก แค่นี้ก็สุขใจแล้ว
แรกเริ่มเพลงนี้ก็ไม่ได้โด่งดังอะไรมาก ปล่อยออกมาก็ไม่เคยติดชาร์ตของ "Billboard Hot 100" เลย ที่พอทำได้คือติดชาร์ตสูงสุดในอันดับที่ 6 ในหมวด "Hot Adult Contemporary Songs" เพียงอย่างเดียว แม้เพลงนี้จะยังเทียบไม่ได้กับเพลงดัง ๆ อื่นของมารายห์ แต่ในเทศกาลคริสต์มาสช่วงหลายปีหลัง ๆ ที่ผ่านมา เพลงนี้มักจะถูกนำกลับมาเปิดใหม่อยู่บ่อยครั้ง จนกระทั้งในปี 2019 ไม่นึกเลยว่าเพลงคริสต์มาสเพลงเดียวที่ไม่ติดซาร์ต Hot 100 ตั้งแต่ปล่อยเพลงมานานแล้ว เริ่มมีผลตามมา เพลง All I Want For Christmas Is You ครองอันดับ 1 ชาร์ต "BillBoard Hot 100" สำเร็จ และครองแซมป์ติดต่อกัน 3 ปีซ้อน
ที่มาภาพ: https://www.imdb.com/title/tt13017992/
ซึ่งหากนับตั้งแต่ขึ้นอันดับ 1 ครั้งแรก เพลง "All I Want For Christmas Is You" สามารถขึ้นครองอันดับหนึ่งรวมแล้ว 6 ครั้งด้วยกัน (และจะมากกว่านั้นอีก) คือ อันดับหนึ่ง 3 สัปดาห์ ในปี 2019 และ 2 สัปดาห์ในปี 2020 ส่วนปีนี้ (2021) ก็กลับมาครองอันดับหนึ่งอีกครั้ง เบียดแซงเพลง "Easy on Me" ของ "Adele" ที่ครองอันดับ 1 ติดกันถึง 7 สัปดาห์ ลงไปอยู่อันดับ 3 นอกจากจะขึ้นอันดับ 1 ชาร์ต Hot 100 ก็ยังขึ้นอันดับ 1 ชาร์ต Hot 100 Global และ Hot 100 นอกสหรัฐ
นอกจากนี้ความแรงของเพลงคริสต์มาส ก็ถูกบันทึกและรับรองโดยหนังสือกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดส ว่าเป็นหนึ่งในเพลงคริสต์มาสที่ประสบความสำเร็จที่สุด ทำลายสถิติเพลงประจำเทศกาลคริสต์มาสโดยศิลปินเดี่ยว ที่อยู่ในลำดับสูงที่สุดบนชาร์ตบิลบอร์ด ฮอต 100 และเป็นเพลงที่ถูกเปิดฟังมากที่สุดใน 24 ชั่วโมงบนสตรีมมิ่งชื่อดังอย่าง Spotify อีกทั้งยังเป็นเพลงประจำเทศกาลคริสต์มาสที่รั้งตำแหน่งท็อป 10 บนชาร์ตเพลงของประเทศอังกฤษต่อเนื่องหลายสัปดาห์มากที่สุด ส่วนยอดขายอัลบั้มและเพลงทั่วโลก ก็ทำไปได้มากกว่า 16 ล้านก๊อปปี้ มียอดสตรีมมิงมากกว่า 10 ล้านครั้ง นับเป็นเพลงที่ขายดีที่สุดทั่วโลกของมารายห์ แครี ซึ่งเธอได้รับค่าลิขสิทธิ์จากเพลงนี้ไปแล้วกว่า 60 ล้านเหรียญสหรัฐ (คิดเป็นเงินไทย ราว 2,100 ล้านบาท) และเพลงนี้ก็ยังคงจะทำเงินจำนวนมากให้กับมารายห์ไปอีกหลายปี
เพลงนี้ยังถูกยกให้เป็นเพลงประจำเทศกาลคริสต์มาสแห่งยุคสมัย เป็นเพลงอันดับ 1 ในการจัดอันดับ 100 เพลงเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุด (Greatest of All Time Holiday 100 Songs)
ส่งผลให้มารายห์ แครี ได้รับการยกย่องให้เป็น "ราชินีแห่งเทศกาลคริสต์มาส" (The Queen of Christmas) เพราะเมื่อมีเทศกาลนี้ทีไร เพลงแม่มารายห์ต้องมาก่อนเลยค่ะพี่น้องงงงง
ภาพจาก MV All I Want for Christmas Is You (Make My Wish Come True Edition)
แต่กว่าจะมาเป็นเพลงที่โด่งดังทะลุชาร์ตแบบที่มาและความสำเร็จของเพลงนี้เกิดขึ้นจากความคิดเห็นของอฟานาเซียฟ ซึ่งในตอนนั้น เพลงคริสต์มาส เดินทางมาถึงจุดที่ใกล้จะอิ่มตัว เพราะหลังๆ ศิลปินส่วนใหญ่มักจะเลือกหยิบผลงานเพลงฮิต ๆ ในอดีตมา Cover และส่วนน้อยเลยที่จะทำเพลงขึ้นมาใหม่ เมื่อรู้ว่าเธอคือนักร้องที่กำลังเป็นนักร้องดาวรุ่งมาแรง ความเสี่ยงที่เธอจะมาร้องเพลงแนวนี้ถือว่าสูงมาก เพราะในวงการเพลงเคยมีหลักฐานออกมาให้เห็นแล้วว่า คนเพลงที่กำลังรุ่งสุด ๆ มาทำเพลงคริสต์มาส มันเท่ากับว่าเรามาถึงทางตันเเล้ว นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมอฟานาเซียฟถึงไม่อยากพาเธอพบกับความเสี่ยงจากการทำเพลงแนวนี้
แต่สุดท้าย "Tommy Mottola" ผู้บริหารของโคลัมเบีย เรคคอร์ด และเป็นสามีของมารายห์ในขณะนั้น กลับมองภาพรวมของเธอที่กำลังดังพลุแตก จากเพลง Hero และเพลงอื่นๆของเธอ ซึ่งถ้าหากจะทำเพลงคริสต์มาสขึ้นมาใหม่ภายใต้เสียงร้องทรงพลังของเธอ รับรองว่า ต้องออกมาดังแน่นอน ถ้าไม่ดังตอนนี้ แล้วจะทำตอนไหน? ในที่สุด ทั้งคู่ก็ได้รับข้อเสนอ และตัดสินใจทำอัลบั้มเพลงคริสต์มาสร่วมกันและกลายมาเป็นเพลงประจำเทศกาลที่ไม่น่าเชื่อว่า เวลาจะผ่านไปอีกกี่ปี เพลงนี้ก็กลับมาดังอีกไม่มีหยุดเลย
“ทุก ๆ คริสต์มาสฉันอยากจะให้มันออกมาสมบูรณ์แบบ ตอนที่ฉันยังเด็กฉันตั้งตารอคอยเทศกาลนี้มาตลอด แต่ทุกปีมันก็จะเกิดเรื่องแย่ ๆ ขึ้นเสมอ เพราะครอบครัวฉันมีปัญหา แม้แม่ของฉันพยายามจะทำให้ทุกอย่างดูสนุก แต่ความที่บ้านของเราไม่ค่อยมีเงินมากนัก แม่เลยทำได้เพียงเอาผลไม้มาห่อ หรือเอาอะไรต่าง ๆ นานา มาทำเป็นของขวัญ ตั้งแต่นั้นฉันเลยบอกกับตัวเองว่า ถ้าฉันโตขึ้น คริสต์มาสของเราจะไม่เป็นแบบนั้นอีก และมันจะต้องสมบูรณ์แบบในทุกปี ฉันอยากจะให้มันเป็นเทศกาลที่ใหญ่โตและแสนพิเศษ และตอนที่ฉันเขียนสิ่งพวกนี้ ฉันนั่งทำลิสต์สิ่งต่าง ๆ ที่ฉันนึกขึ้นได้ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก และสร้างสรรค์มันขึ้นมา เปลี่ยนให้เป็นเหมือนคนรักที่ห่างหายกันไปนานแสนนาน และส่วนนั้นแหละ ฉันจะจดจำมันไปตลอด” นี่คือคำพูดของมารายห์ที่พูดถึงเทศกาลโปรดของเธอที่เป็นแรงบันดาลใจของเพลงนี้
“ฉันอยากให้มันรู้สึกคลาสสิก แต่ไม่คิดเลยว่ามันจะคลาสสิกจริง ๆ ฉันแค่ต้องการจะถ่ายทอดความรู้สึกของตัวเองลงในเพลง เพื่อจะให้มันออกมาเป็นเพลงที่ขนาดฉันฟังเองก็ยังรู้สึกมีความสุขกับเทศกาลนี้ เพราะฉะนั้นการที่ได้เห็นเพลงยังฮิตแม้จะผ่านมากี่ปีแล้ว มันเป็นอะไรที่วิเศษมาก ฉันไม่เคยคาดหวังเลย” มารายห์กล่าวถึงความรู้สึกหลังเพลงนี้ถูกขึ้นชาร์ตบิลบอร์ดครั้งแรก
ไม่ใช่แค่เพลงนี้ที่กระตุ้นให้ผู้คนทั้งหลายให้มีความสุขแล้ว แต่ยังกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องการลงทุนด้วยนะ เพราะอย่างที่กล่าวมาแล้วว่าเพลงนี้ได้ค่าลิขสิทธิ์จำนวนมหาศาล โดยทาง "Hipgnosis Songs Fund" ที่เป็นบริษัทพาณิชย์ด้านลิขสิทธิ์เพลง เป็นผู้ถือครองลิขสิทธิ์เพลงนี้ อยู่ 50% แถมคุณ "Merck Mercuriadis" ผู้ก่อตั้งบริษัทเพิ่งจะให้สัมภาษณ์ออกไปว่า เขาก็ปรารถนาที่จะเป็นเจ้าของเพลง "Last Christmas" เพลงคริสต์มาสยุค 80 ของวง "Wham!" เช่นกัน เพราะเขาเชื่อว่า การลงทุนกับลิขสิทธ์เพลงอาจให้ผลตอบแทนยิ่งกว่าทองและน้ำมันอีก
หน้าปกอัลบั้ม Merry Chirstmas ของ Mariah Carey
สรุปแล้ว เพลงนี้ถือว่าเป็นเพลงที่ปลุกความเป็นคริสต์มาสในตัวคุณจริงๆ แม้ว่าเพลงนี้จะผ่านไปถึง 27 ปีแล้ว จากเพลงที่ไม่ค่อยดัง แต่พอมีเทศกาลนี้ขึ้นมาทีไร มักจะเปิดเพลงนี้เสมอ จนกลายเป็นเพลงประจำที่ไม่คิดว่า จะสามารถเข้าไปอยู่ในชาร์ตระดับประเทศได้ และทำให้เพลงนั้นกระตุ้นสิ่งต่างๆ อีกมากมาย ที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวกับเทศกาลคริสต์มาส นับว่าเป็นบทเพลงคริสต์มาสที่ดีที่สุดของใครหลายๆคน รวมถึงแอดมินด้วย แต่ไม่ว่าจะเป็นเพลงนี้ หรือเพลงคริสต์มาสอื่นๆ นอกเหนือจากนั้นก็ตาม เทศกาลนี้ ก็ถือเป็นเทศกาลที่คนทั่วโลกเฝ้าคอย และต้องการความปราถนาดีให้กับทุกๆคนที่คุณรักและส่งต่อความสุขไปด้วยกัน "สุขสันต์วันคริสต์มาสนะคะ"
ติดตาม #ยามเฝ้าเพลง ได้ที่เฟซบุ๊ก
และทุกช่องทางการติดตาม
โฆษณา