28 ธ.ค. 2021 เวลา 01:19 • ข่าวรอบโลก
VANILLA. “ Queen of Spice “ พืชที่แพงเป็นอันดับสอง รองจาก Saffron
กับน้ำหอมแบรนด์ระดับหรู ที่รังสรรค์ใช้วนิลลาจากหลายแหล่ง
น้ำหอมที่มีกลิ่นวนิลา ที่จริงในแบรนด์ใหญ่ๆ หรือแบรนด์นิช จะมีการชูโรงเรื่องสายพันธุ์ มากมายเลยค่ะ ในโพสนี้ ป้อจะเล่าแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ผู้อ่านไม่สับสนค่ะ
𝐕𝐀𝐍𝐈𝐋𝐋𝐀
3 ชนิด ความแตกต่างที่ลงตัว
ฝักวนิลา ที่เป็นที่นิยมทั่วโลก จะมีหลักๆ 3 สายพันธุ์จาก 150 สายพันธุ์ทั่วโลกค่ะ
V. planifolia
ส่วนใหญ่ ปลูกที่ ประเทศมาดากัสการ์
เป็นหลักแล้วก็หมู่เกาะแถบมหาสมุทร อินเดีย
ที่เรียกว่า ฝักวนิลามาดามกัสการ์ Madagascar Vanilla Bean
และมักเรียก วนิลลา Bourbon ในน้ำหอม
วนิลลาชนิดนี้ นิยมใส่ขนม มีสาร วนิลลิน
ค่อนข้างมาก
มีกลิ่นครีมคาราเมลค่อนข้างชัด หวานละมุน
นิยมใส่น้ำหอมมาก
🌲 ในสายพันธ์ที่ปลูกทาง มาดาร์กาสก้า
ส่วนที่ปลูกทาง Maxico 🌲นิยมใส่ในขนมมากกว่าเพราะรสชาติค่อนข้างแน่นกว่า **
** สายพันธุ์ planifolia ที่ไปปลูกในหลายทวีปเป็นที่นิยมมาก ในไทยก็มีค่ะ แต่ด้วยลักษณะรสชาติและกลิ่นที่ดี ตอนนี้ก็ต้องเป็นดินทาง อเมริกาใต้ ค่ะ
มีหลายแบรนด์ที่ใช้ เด่นๆที่เอามาชูโรง เช่น
𝐶ℎ𝑙𝑜𝑒 𝐴𝑡𝑒𝑙𝑖𝑒𝑟 𝑑𝑒𝑠 𝐹𝑙𝑒𝑢𝑟𝑠 𝑉𝑎𝑛𝑖𝑙𝑙𝑎 𝑃𝑙𝑎𝑛𝑖𝑓𝑜𝑙𝑖𝑎 #chole
𝑇𝑜𝑚𝑓𝑜𝑟𝑑 𝑇𝑎𝑏𝑎𝑐𝑐𝑜 𝑙𝑒𝑎𝑡ℎ𝑒𝑟 #tomford
Guerlain Sharlimar
ลักษณะฝักเรียวยาว ดอกสีขาวเหลือบเขียว ค่อนไปทางเขียว
V.tahitensis
ส่วนใหญ่ปลูกที่มหาสมุทร แปซิฟิก
เป็นพันธ์ที่ได้มาจากวนิลลา planifolia + pompona มีวนิลลิน ต่ำ
กลิ่นไปทาง โป๊ยกั๊ก ผลไม้อบแห้งและดอกไม้มากกว่าไปทางครีม
ใช้ในน้ำหอมบางแบรนด์ที่ต้องการความ
อโรมาติกเครื่องเทศ มากกว่า วนิลลาแบบหวานๆ
ช่วยเสริมกลิ่นดอกไม้ให้ดูแพงและไม่เลี่ยน
เช่น น้ำหอมของ Guerlain ตัว Mon sparking
ลักษณะฝักอวบอิ่มกว่า planifola เพราะเป็นลูกผสมที่ปลูกในเกาะตาฮิติ
V.pompona
สายพันธุ์นี้จะพบใน ทวีปอเมริกากลาง, อเมริกาใต้ และ ทาง west indian
มีกลิ่นออกไปทางดอกไม้มากกว่า
และมีความนัตตี้ครีมอยู่บ้าง
ส่วนใหญ่จะนิยมใช้กลิ่นของ 2 ตัวด้านบนมากกว่า
เพราะสามารถหาไ้ด้ง่ายและปรับแต่งง่าย
ในน้ำหอมแบรนด์ดัง
มักใช้คำว่า indian vanilla และสายพันธุ์นี้ทาง mexico จะมีราคาแพงมาก เพราะรสชาติแน่น กลิ่นดี
มีความ floral nutty chocolate fruity
รูปทรงอวบอ้วนแบน ปลูกมากใน อเมริกาใต้ ราคาแพง ให้รสขาติและกลิ่นที่ดี
แถบ/ทวีป การปลูก
V. Madagascar
เกาะทางใต้ของ แอฟริกา ทวีปอเมริกากลาง
ภาค Sava เมือง Sambava เป็นศูนย์กลางของวานิลลา ได้ชื่อว่า.. เมืองหลวงของวานิลลา
เติบโตได้ดีในอากาศอบอุ่นและมีความชื้น
เป็นที่ๆปลูกได้มากและนิยมมาก
ในช่วงเดือน ตุลาคม พฤศจิกายน จะเริ่มออกดอก
และคนงานจะเริ่มผสมเทียมเพราะ แมลงที่ผสมตามธรรมชาติและนกแฮมมิ่งเบริ์ดไม่มีถิ่นกำเนิดที่นี่
จึงได้ใช้การผสมเทียมด้วยการเขี่ยเกสรให้ผสมกันเอง
และต้องทำอย่างระมัดระวัง
ในกรกฎาคมปีถัดไปถึงเก็บเกี่ยว และนำมาทำกระบวนการ อบไอน้ำหรือลวกน้ำร้อนก่อนเอามาตากแดดให้ฝักเปลี่ยนสี และเกิดปฎิกริยา
ในนวัตกรรมของ Chanel ใช้ฝักที่ไม่ผ่านกระบวนการอบไอน้ำหรือตากแดดมาใช้ในการสกีดสารลงสู่ครีม
ช่วยกระตุ้นการสร้างผิวใหม่และ คือตัว Sublimage
มีกลิ่นหวานครีมอ่อนนุ่ม หอมลึก
ต่อมา
V.pompona จากทางอเมริกาใต้ ค่ะ
หรืออีกชื่อในเวปน้ำหอมคือ Indian vanilla
วานิลลาพันธุ์หายากนี้มีถิ่นกำเนิดในเม็กซิโก
อเมริกา และโคลัมเบีย แถบทะเลแคริเบียน
แต่ปลูกได้น้อยลงเนื่องจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยและเกิดอาชญากร ปล้นพืชพันธุ์ มีค่า
เป็นพืชมหัศจรรย์ที่มีใบขนาดใหญ่มากและจะเติบโตตามด้านข้างของต้นปาล์มในฟลอริดาตอนใต้ เหมาะสกับปลูกบนต้นปาล์ม สามารถปลูกในบ้านได้เช่นกัน ดอกไม้สีเหลืองแกมเขียวสามารถโผล่ออกมาได้ทุกเมื่อเมื่อต้นสูงเพียงพอ ปลูกในที่มีแสงปานกลาง
มีราคาที่สูง และรสชาติที่ดีมากค่ะ นิยมเอาไปทำขนม
วานิลลาเคยถูกทำให้แห้งในใจกลาง Papantla ในช่วงที่พืชผลรุ่งเรืองในช่วงกลางศตวรรษที่ผ่านมา
ชาว Totonacan Indian ได้ขยายการเก็บเกี่ยวของพวกเขาออกไปในจัตุรัสกลางเมือง ทำให้ Papantla มีสโลแกนที่ติดหูว่า เมืองที่ให้กลิ่นหอมแก่โลก
กลิ่นออกไปทาง ครีมถั่วชอกโกแลต ผลไม้แห้ง ดอกไม้
นิยมใช้คู่กับ วนิลลามาดาก้าสกา ในน้ำหอมแบรนด์หลายตัว เพื่อชูโรงความ Aromatic Rich & Oriental
และตัวที่นิยมสุดท้ายคือ
V. Tahitian จากเกาะตาฮิติ เฟรนซ์โปลินีเซีย แปซิฟิกใต้ ภายใต้การปกครองของฝรั่งเศส
มีกลิ่นไปทาง ครีมและspice wood ไม่มีกลิ่นมันแบบถั่วรสชาติจึงไม่ค่อยเต็มปาก เหมือนเวลาเราดื่มกาแฟ
จะทราบดีว่า full body แบบไหน ตัวนี้ก็จะไม่เหมาะในเรื่องของรสชาติ แต่จะเหมาะในเรื่องของกลิ่นที่ไม่หวานมากเกินไป และน้ำหอม เกอร์แลง นิยมใช้ในกลิ่นที่ต้องการความโปร่งสบายแต่สวยหรู
วานิลลา tahitensis (วานิลลาตาฮิติ)
ซึ่งเป็นข้ามสายพันธุ์ของวานิลลา planifola
(เม็กซิกันวานิลลาและบูร์บองวานิลลา)
และวานิลลา odorata (Inflated วานิลลา)
ที่ผลิตใน French Polynesia
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตาฮิติและยังฮาวาย
ฝักมีเมล็ดน้อยกว่าวานิลลา พลานิโฟเลีย
เม็กซิกัน
วานิลลาตาฮิติใช้ในน้ำหอมเป็นหลักเพราะมีกลิ่นคล้ายคูมาริน และเมื่อก่อนหายากและมีราคาแพง
ต่อมาได้นำสายพันธุ์นี้มาปลูกใน มากาก้าสการ์
เพื่อให้ได้ผลผลิตมากขึ้น
ดังนั้น ใน Madagascar จึงมี การปลูก 2 สายพันธุ์ ที่นิยม
ภาพเปรียบเทียบสารหอมในวิลลาแต่ละสายพันธุ์
ส่วนวนิลา ฝักที่เราซื้อมาจาก อินเดีย อินโดนีเซีย จีน ไทย( โครงการหลวง ) ล้วนเป็นพันธุ์ Planifolia หรือ ที่เรียกว่า bour bon กลิ่นแบบ vanilla fruity flower
ซึ่งเอาจริงแล้ว เมื่อมาดมเทียบกัน
อาจจะรู้สึกไม่ต่างกันมาก จะมาต่างกันอีกทีตอนไปผสมกับ ส่วนประกอบในอาหาร หรือ น้ำหอมค่ะ
ซึ่งบางกรรมวิธีทำออกมาอาจจะใด้กลิ่นที่เหมือนกันก็ได้ ทั้งนี้อยู่ที่การใช้ส่วนประกอบอื่น ของ Chief & Perfumer ค่ะ เป็นคนสร้างสรรค์และเล่าที่มาของกลิ่น
ให้กับผู้รับสาร เข้าใจว่า ทำไมเลือกใช้ตัวนี้ ..
โฆษณา